18 กุมภาพันธ์ 2565 - เมื่อคืนวันที่ 17 ก.พ. 2565 นรม. คิชิดะ ได้ประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนี้
* ขยายสถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) ใน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฮอกไกโด อาโอโมริ ฟูกูชิมะ อิบารากิ โทชิกิ อิชิกาวะ นากาโนะ ชิสึโอกะ โอซากา เกียวโต กุมมะ โอกายามะ ฮิโรชิมะ ฟูกูโอกะ ซากะ คาโกชิมะ และวากายามะ จนถึงวันที่ 6 มี.ค. 2565
* ยกเลิกมาตรการมัมโบใน 5 จังหวัด ได้แก่ ยามากาตะ ชิมาเนะ ยามากูจิ โออิตะ และโอกินาวะ ในวันที่ 20 ก.พ. 2565
* ผ่อนคลายมาตรการเข้าเมือง โดยอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มิใช่นักท่องเที่ยว เช่น นักเรียนต่างชาติ และนักธุรกิจ สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ โดยจะเพิ่มโควต้าจาก 3,500 คนต่อวันในปัจจุบัน
เป็น 5,000 คน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นจะต้องมีบริษัทหรือหน่วยงานในญี่ปุ่นเป็นผู้รับรอง โดยรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกให้องค์กรผู้รับรองสามารถกรอกข้อมูลการรับรองทางออนไลน์ได้
* ลดวันกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว เหลือ 3 วัน
* สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 นรม.คิชิดะกล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 65 ได้เพิ่มเป้าหมายในการบริการการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเป็น 1 ล้านโดสต่อวัน
- สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการเข้าเมือง ดังนี้
* ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรวมถึงประเทศไทย จะต้องกักตัวที่สถานที่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดหาเป็นเวลา 3 วัน และหากผลตรวจเชื้อในวันที่ 3 เป็นลบ การกักตัวถือเป็นอันสิ้นสุด
* สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 แล้วหากเป็นประเภทวัคซีนที่เข้าข่ายตามประกาศของทางการญี่ปุ่นจะสามารถกักตัวที่บ้านพักแทนสถานที่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจัดหาได้ ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นจะประกาศประเภทวัคซีนที่เข้าข่ายในโอกาสแรกต่อไป
* ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่น สามารถใช้ระบบการขนส่งสาธารณะในการเดินทางจากท่าอากาศยานไปยังที่พักหรือสถานที่กักตัวเอง (home quarantine) หลังจากที่ได้รับการตรวจเชื้อเมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว