ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

กทม.แบ่งผู้ป่วย 3 กลุ่มเพื่อส่งต่อ รับการรักษาได้เหมาะสมกับอาการ

กทม.แบ่งผู้ป่วย 3 กลุ่มเพื่อส่งต่อ รับการรักษาได้เหมาะสมกับอาการ HealthServ.net

กรุงเทพมหานครได้มีการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้การส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ได้เหมาะสมกับอาการดังนี้

กทม.แบ่งผู้ป่วย 3 กลุ่มเพื่อส่งต่อ รับการรักษาได้เหมาะสมกับอาการ ThumbMobile HealthServ.net
กทม.แบ่งผู้ป่วย 3 กลุ่มเพื่อส่งต่อ รับการรักษาได้เหมาะสมกับอาการ HealthServ
27 เม.ย. 64 ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้มีการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้การส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ได้เหมาะสมกับอาการดังนี้

1) กลุ่มสีเขียว
ส่วนใหญ่ส่งเข้าโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เป็นกลุ่มที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ตาแดง ผื่นขึ้นถ่ายเหลว

2) กลุ่มสีเหลือง
ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีความเสี่ยงหรือมีโรคร่วมที่สำคัญ อาทิ
  1. อายุมากกว่า 60 ปี
  2. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (รวมโรคปอดอื่นๆ)
  3. โรคไตเรื้อรัง
  4. โรคหัวใจและหลอดเลือด (รวมโรคหัวใจแต่กำเนิด)
  5. โรคหลอดเลือดสมอง
  6. เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้
  7. ภาวะอ้วนที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม
  8. ตับแข็ง
  9. ภูมิคุ้มกันต่ำ (เซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำกว่า 1,000 cell/mms)
  10. ผู้ป่วยโควิด-19

3) กลุ่มสีแดง
ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยจะมีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก X-ray พบปอดอักเสบรุนแรง มีภาวะปอดบวม (ความอิ่มตัวของเลือดน้อยกว่า 96% หรือ ความอิ่มตัวของเลือดลดลงมากกว่า 3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกหลังออกแรง (Exercise - induced Hyoixemia)
 
 

สำหรับผู้ที่ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงไปถึงผู้ป่วยที่ตกค้างหรือรอคิวเป็นเวลานาน สามารถประสานเพื่อเข้ารับการรักษาโดยแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์เอราวัณ กทม. โทร. 1669 สายด่วนกรมการแพทย์ 1668 และสายด่วน 1330 หรือแจ้งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Line @sabaideebot ได้อีกช่องทางหนึ่ง


ปัจจุบันกทม. ได้ เพิ่ม และ ปรับปรุง การทำงานให้หลายจุด ดังนี้
1. เพิ่มศักยภาพการรับส่งผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
2. เพิ่มจำนวนคู่สายของสายด่วนศูนย์เอราวัณ 1669
3. เพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในช่วงเวลากลางวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.
4. ปรับปรุงระบบเสียงตอบรับอัตโนมัติขณะประชาชนรอสาย
5. ปรับระบบการรับสายใหม่ โดยรับสายพร้อมให้ประชาชนแจ้งเฉพาะชื่อและเบอร์ติดต่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกลับ สามารถลดระยะเวลาการรอคอยของประชาชนไปได้มาก
6. มอบหมายให้ สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต จัดรถรับ-ส่งผู้ป่วย สนับสนุนการรับส่งผู้ป่วยในพื้นที่ไปส่งโรงพยาบาลสนามให้เร็วยิ่งขึ้น จนสามารถแก้ไขปัญหาผู้ป่วยโควิดตกค้างได้ 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า  ขณะนี้อยู่ในช่วงที่เชื้อโควิด-19 ยังมีการแพร่ระบาดไปในวงกว้าง จึงขอให้ทุกคนดูแลตนเองโดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกจากบ้าน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์เจล แอลกอฮอล์ล้างมือ หรือน้ำสบู่ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล งดออกจากบ้านหากไม่จำเป็น โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้านั้นขอให้สวมแบบถูกวิธีด้วย เนื่องจากการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าที่ถูกต้องควบคู่กับการปฏิบัติอื่น ๆ สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
กทม.แบ่งผู้ป่วย 3 กลุ่มเพื่อส่งต่อ รับการรักษาได้เหมาะสมกับอาการ HealthServ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด