ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

กัญชา โอกาสใหม่ ที่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม - สภาพัฒน์

กัญชา โอกาสใหม่ ที่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม - สภาพัฒน์ HealthServ.net

ควรต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างการใช้กัญชาทางการแพทย์และในเชิงพาณิชย์ รวมถึงโอกาสการมีส่วนร่วมของเกษตรกรรายย่อย และการปกป้องเยาวชนจากการเข้าถึงและใช้อย่างผิดประเภท

กัญชา โอกาสใหม่ ที่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม - สภาพัฒน์ ThumbMobile HealthServ.net
กัญชา โอกาสใหม่ ที่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม - สภาพัฒน์ HealthServ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ได้นำเสนอข้อมูลรายไตรมาส 1/2564 ในหัวข้อ กัญชา โอกาสใหม่ ที่ต้องควบคุมอย่างเหมาะสม โดยระบุว่า จากการปลดล็อก การใช้กัญชาในทางการแพทย์ตั้งแต่มกราคม ที่ผ่านมา เป็นการสร้างโอกาสใหม่ในหลายด้าน ทั้งในการวิจัยและพัฒนาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรค โอกาสทางเศรษฐกิจ คาดว่าตลาดกัญชาเฉพาะกัญชาเพื่อการแพทย์ของไทยคาดว่าจะมีมูลค่าราว 3,600-7,200 ล้านบาท

ปัจจุบัน มีผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้า ปลูก จำหน่าย ปรุง และแปรรูปในไทย รวมกัน 1,507 ราย  แบ่งเป็น  การนำเข้า 11 ราย, การผลิต (ปลูก) 82 ราย, การจำหน่าย 1,372 ราย, การผลิต (ปรุง) 5 ราย, การผลิต (แปรรูป/สกัด) 37 ราย  (*ข้อมูล ณ 30 เมษายน 2564)

ประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ

ยังมีประเต็นที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้คนไทยได้รับประโยชน์และควบคุมผลเสีย หรือผลกระทบที่เกิดขึ้น อาทิ 
  • การอนุญาตปลูกเพื่อการแพทย์ ควรพิจารณาในด้านราคาต้นทุน เนื่องจากผู้ผลิตยังมีไม่มาก แต่ความต้องการมีสูงมาก ทำให้ราคากัญชาสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต อาจจะทำให้ผลผลิตที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะยาในกลุ่มแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก ส่งผลต่อราคาขายที่จะสูงขึ้นในที่สุด
  • การอนุญาตให้ผลิตกัญชา ควรมีเงื่อนไขที่ต้องควบคุมการผลิตที่ได้มาดรฐาน เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วมได้ ซึ่งเงื่อนไขต่างๆ ขณะนี้เป็นข้อจำกัดที่ทำให้จะเข้ามามีส่วนร่วมได้ยาก เนื่องการความต้องการกัญชาในการแพทย์ต้องมีคุณภาพสูง การขาดความรู้ ความเข้าใจ อาจทำให้ผลผลิตอาจปนเปื้อน จนไม่สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้
  • การใช้ประโยชน์จากกัญชาในด้านที่ไม่ใช่เพื่อการแพทย์ยังไม่มีการควบคุม
  • การปลดล็อคทำให้โอกาสในการเข้าถึงของประชาชนมีมาก และมีความเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ มากขึ้น
บทเรียนปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขจากสหรัฐอเมริกา
ปัญหาที่พบ รัฐที่มีการอนุญาตให้กัญชาถูกกฏหมาย เด็กมีการบริโภคกัญชาเพิ่มมากขึ้น และปัญหาการก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นมากกว่าที่อื่น อาทิ รัฐโคโลราโด อัตราการก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่า
ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา
  • ควรต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างการใช้กัญชาทางการแพทย์ และ สามารถนำไปขายในเชิงพาณิชย์ใด้ในส่วนที่ปลคล็อค (เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก และใบ)  มีการควบคุม กำหนดรูปแบบของผลิตภัณฑ์และราคา เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการผลิตสินค้าทางการแพทย์ เพื่อไม่ให้ราคาสูงมากเกินไป
  • การกำหนดระดับสาร CBD และ THC ที่เหมาะสมในสินค้าแต่ละประเภท และระบุให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบ
  • มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด เช่น ในกรณีของรัฐโคโลราโดที่เกิดการบริโภคสูงเกินไป หรือในกรณีของรัฐวอชิงตันมีการขอใบอนุญาตในปริมาณมากจนไม่สามารถบริหารจัดการได้
  • ควบคุมรูปแบบและปริมาณสารสกัด หรือส่วนประกอบของกัญชาที่อยู่ในผลิตภัณฑ์
  • การกำหนดอายุ ผู้ซื้อและผู้ใช้ จะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชน สามารถนำไปใช้ได้เอง ซึ่งจะมีความเสี่ยงกับการใช้งานผิดประเภท ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
  • ป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึง โดยการควบคุมช่องทางการเข้าถึง และควรลงทุนในเรื่องของการส่งเสริมการป้องกัน สร้างการรับรู้ และการให้ความรู้ด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ สำหรับทั้งเยาวชนและผู้ปกครอง
  • สร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ กับประชาชน การใช้งานมากเกินไปหรือใช้ผิดประเภทจะส่งผลเสีย
  • ควบคุมการค้าในเชิงพาณิชย์ โดยใช้การเก็บภาษี กฏระเบียบ และการตรวจสอบของรัฐที่เข้มงวด รวมถึงการควบคุมการโฆษณาและการส่งเสริมการขาย
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด