ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ฮอตมาก เครื่องสำอางกัญชา-กัญชง 218 ตำรับ ผ่านอย.แล้ว ขออนุญาตปลูก 3 พันไร่

ฮอตมาก เครื่องสำอางกัญชา-กัญชง 218 ตำรับ ผ่านอย.แล้ว ขออนุญาตปลูก 3 พันไร่ HealthServ.net
ฮอตมาก เครื่องสำอางกัญชา-กัญชง 218 ตำรับ ผ่านอย.แล้ว ขออนุญาตปลูก 3 พันไร่ ThumbMobile HealthServ.net

เครื่องสำอางจากน้ำมันจากเมล็ดกัญชง เครื่องสำอางจากใบกัญชาและกัญชง ขณะที่มีผู้ขออนุญาตปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์อุตสาหกรรม แล้ว 324 ราย เนื้อที่กว่า 3 พันไร่

ฮอตมาก เครื่องสำอางกัญชา-กัญชง 218 ตำรับ ผ่านอย.แล้ว ขออนุญาตปลูก 3 พันไร่ HealthServ
     เครื่องสำอางกัญชา กัญชง ฮอตฮิต มีผู้ยื่นคำขอเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบจากส่วนของกัญชาและกัญชงเป็นจำนวนมาก อย. อนุมัติไปแล้วกว่า 218 ตำรับ ย้ำ อย. และ สสจ. ทั่วประเทศพร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจไทย อำนวยความสะดวกรับจดแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์ (ระบบ e-submission) อนุมัติภายใน 3 วันทำการ พร้อมบริการให้คำปรึกษาในการจดแจ้งเครื่องสำอาง การจัดทำฉลาก และออกหนังสือรับรองการส่งออกอย่างครบวงจร
 
           ภญ. สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยความคืบหน้า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎหมายให้ใช้น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชง, สารสกัดแคนนาบิไดออล (CBD) และส่วนของกัญชาและกัญชงที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ เช่น ใบ กิ่งก้าน ที่ได้จากการปลูกในประเทศเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางได้นั้น ปรากฎว่ามีผู้ประกอบการให้ความสนใจมายื่นขอจดแจ้งเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อนุมัติไปแล้ว 218 ตำรับ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ตุลาคม 2564) ได้แก่
 
- เครื่องสำอางจากน้ำมันจากเมล็ดกัญชง อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม วัตถุดิบจากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.)
 
- เครื่องสำอางจากใบกัญชาและกัญชง อาทิ สบู่ แชมพู วัตถุดิบส่วนใหญ่จากวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับอนุญาตปลูก
 
            คาดว่าภายในปีนี้จะมีวัตถุดิบจากผู้ที่ได้รับอนุญาตเกี่ยวกับกัญชาและกัญชงรายอื่นออกมามากขึ้น รองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า กระจายรายได้ให้กับประชาชนอย. และ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อำนวยความสะดวกให้ผู้ผลิตและส่งออกเครื่องสำอาง สามารถยื่นขอจดแจ้งเครื่องสำอางที่มีกัญชาและกัญชงเป็นส่วนประกอบ ผ่านระบบ e-submission และชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมรับใบรับจดแจ้งภายใน 3 วันทำการ นอกจากนี้ อย. ยังให้บริการให้คำแนะนำในการยื่นจดแจ้งเครื่องสำอาง และการจัดทำฉลาก รวมถึงให้บริการออกหนังสือรับรองการส่งออกผ่านระบบ e-submission สำหรับผู้ส่งออกอีกด้วย ผู้ที่สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้าย

 

อนุญาตปลูกกัญชงไปแล้วกว่า 3 พันไร่

             อย. ส่งเสริมกัญชง ชูเป็นพืชเศรษฐกิจ เผยกระแสตอบรับดีมาก มีผู้ขออนุญาตปลูกเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม ที่ได้รับอนุญาตแล้ว 324 ราย เนื้อที่กว่า 3 พันไร่ และขออนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง 86 ราย มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยขออนุญาตเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนให้มีการแปรรูปเพื่อส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ
 
             นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากพืชกัญชง (Hemp) เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ. 2563 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนทั้ง เกษตรกร ภาครัฐและเอกชน ประชาชนทั่วไปสามารถขออนุญาต และนำกัญชงไปใช้ในทุกวัตถุประสงค์ ตั้งแต่ การแพทย์ การศึกษา วิจัย การใช้ตามวิถีชีวิต ใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ และการค้า เพื่อนำส่วนต่าง ๆ ของกัญชงไปแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ทั้งยา อาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นต้น

             หลังจากการปลดล็อคกัญชง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้สนใจต้องการขออนุญาตเป็นจำนวนมาก ทั้งต้นน้ำเพื่อปลูกกัญชง กลางน้ำเพื่อสกัดสารสกัดจากกัญชง และปลายน้ำเพื่อนำผลผลิตไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ขณะนี้มีผู้ขออนุญาตผลิต (ปลูก) เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม โดยได้รับอนุญาตแล้ว 324 ราย เนื้อที่ 3,250 ไร่ และอยู่ในระหว่างออกใบอนุญาต 127 ราย และขออนุญาตเพื่อศึกษาวิเคราะห์ วิจัย หรือปรับปรุงพันธุ์ ได้รับอนุญาตแล้ว 34 ราย และอยู่ในระหว่างออกใบอนุญาต 11 ราย สำหรับในส่วนของการนำเข้า มีผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง 86 ราย จำนวน 6,179,304 เมล็ด มูลค่า 926,895,600 บาท ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2564)    
 
            รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า อย.  พร้อมส่งเสริมกัญชงให้เป็นพืชที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชน รวมทั้งพร้อมสนับสนุนให้มีการแปรรูปเพื่อส่งออกนำรายได้เข้าประเทศต่อไป
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด