ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สถานการณ์โอมิครอนในสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป และทั่วโลก - 6 ธ.ค.64

สถานการณ์โอมิครอนในสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป และทั่วโลก - 6 ธ.ค.64 HealthServ.net
สถานการณ์โอมิครอนในสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป และทั่วโลก - 6 ธ.ค.64 ThumbMobile HealthServ.net

สหรัฐ โอมิครอนกระจายแล้ว 16 รัฐ อังกฤษพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนรวม 246 ราย เดนมาร์คพบแล้ว 183 ราย เบลเยี่ยมเริ่มการประท้วงต้านรัฐบาล

สถานการณ์โอมิครอนในสหรัฐ อังกฤษ ยุโรป และทั่วโลก - 6 ธ.ค.64 HealthServ


WHO องค์การอนามัยโลก

ดร.มาเรีย แวน เคิร์คโฮฟ แห่ง WHO รายงานว่าขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนใน 38 ประเทศ 6 ทวีป ไม่มีรายงานการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับโอมิครอน  นักวิทยาศาสตร์กำลังเร่งศึกษาไวรัสตัวนี้ และคาดว่าจะมีข้อมูลเกี่ยวกับการระบาด รวมถึงประสิทธิภาพต่อวัคซีน การทดสอบและการรักษา ออกมาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า


สหรัฐ

โอมิครอนกระจายแล้ว 16 รัฐ 
หลังจากพบเคสแรกในแคลิฟอร์เนียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (1 ธ.ค.) วันนี้ 5 ธ.ค. พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้วใน 15 รัฐ ได้แก่ โคโลราโด คอนเนคทิคัด ฮาวาย หลุยเซียนา แมรี่แลนด์ แมสซาชูเสตต์ มินนิโซตา มิสซูรี่ เนบราสก้า นิวเจอร์ซี่ นิวยอร์ค เพนซิลเวเนีย ยูท่าห์ วอชิงตัน และวิสคอนซิน 

ผอ.CDC ชี้ "โอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ" แต่ที่ต้องกังวลขณะนี้คือเดลต้า ที่ระบาดอยู่เป็นหลัก ณ ขณะนี้ 
 
ตามข้อมูลศูนย์ CDC สหรัฐมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบโดสต่ำกว่า 60% และมีเพียง 23% เท่านั้นที่เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น สายพันธุ์เดลต้าเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในประเทศ ดร.แอนโทนี เฟาซี่ ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของรัฐบาล แนะนำให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนและวัคซีนกระตุ้น เพื่อให้สามารถมีความสุขกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปี ได้อย่างปลอดภัยทั้งตัวเอง ครอบครัวและผู้อื่น
 
สหรัฐออกมาตรการเข้าประเทศสำหรับชาวต่างชาติ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น และต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลยภายใน 1 วันก่อนเดินทาง จากเดิมที่กำหนดไว้ 3 วัน เริ่มบังคับใช้วันจันทร์ที่ 5 ธ.ค. กฏนี้ไม่บังคับกับชาวอเมริกัน 
 
 
 
อังกฤษ
 
สหราชอาณาจักร รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนรวม 246 ราย เป็นชาวสก๊อตแลนด์ 48 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อที่พบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จาก 3 รายวันที่ 28 พ.ย. เป็น 42 รายในวันที่ 2 ธ.ค. 134 รายวันที่ 3 ธ.ค. 160 รายวันที่ 4 ธ.ค. และพุ่งไปเป็น 246 รายวันที่ 5 ธ.ค. (เพิ่ม 50% จากวันก่อนหน้า) 
 
ผู้ป่วยจากวันละ 3 รายพุ่งไปเป็น 246 รายภายใน 8 วัน (8,200 เท่า)
 
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 43,992 ราย เสียชีวิต 54 รายในรอบ 28 วัน 
 
ชาวอังกฤษฉีดวัคซีนโดสแรกไปแล้ว 51,094,640 โดส  และ 46,527,302 สำหรับโดสที่สอง และบูสเตอร์ 20,258,417 โดส [skynews]
 
 
ประกาศปรับมาตรการเข้าประเทศล่าสุด กำหนดให้ผู้เดินทางจากนานาชาติเข้าอังกฤษจะต้องมีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทาง 1 วัน และต้องตรวจซ้ำอีกครั้ง ก่อนหรือในวันที่ 2 หลังจากเดินทางถึงแล้ว มีผลวันที่ 7 ธ.ค. และบังคับใช้กับทุกคนไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับวัคซีนมาแล้วหรือไม่ก็ตาม 
 
ปรับไนจีเรีย เข้ากลุ่มสีแดง ห้ามเดินทางเข้าประเทศ ยกเว้นเฉพาะพลเมืองอังกฤษและไอริชเท่านั้น แต่ต้องเข้ารับการกัก 10 วัน เมื่อเข้าประเทศ
 
  
 
 
 ยุโรป
 
เนเธอร์แลนด์
ทางการสรุปจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนจาก 2 เที่ยวบินจากแอฟริกาใต้ เพียง 18 ราย เท่านั้น จากจำนวน 61 รายที่มีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวกในรอบแรก [HealthServ]
 
 
เดนมาร์ค

รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอน วันที่ 5 ธ.ค. พบเพิ่มขึ้นเป็น 183 ราย จากที่พบ 2 รายแรกวันที่ 1 ธ.ค. และเพียง 18 รายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) ในจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ ไม่ได้มีการเดินทางไปที่ใดเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าเชื้อได้แพร่กระจายไปหมู่ประชาชนทั่วไปแล้ว เป็นคำอธิบายของหัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดแห่งชาติ   
 
เดนมาร์คนำมาตรการ "ดิจิตัล พาส" กลับมาบังคับใช้อีกครั้งตั้งแต่ 12 พ.ย. หลังจากเริ่มกังวลการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ พร้อมกับเร่งฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป 
 
 
 
เบลเยี่ยม
 
การชุมนุมประท้วงมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของทางการ เริ่มก่อตัวและมีความรุนแรง ประชาชนหลายพันคนเดินไปตามถนน ร้องตะโกน "เสรีภาพ เสรีภาพ" บางส่วนถือป้ายไม่ยอมรับมาตรการบังคับฉีดวัคซีน
 
ทางการโดยนายกอเลกซานเดอร์ เดอ ครู ประกาศวันที่ 3 ธ.ค. ปิดโรงเรียนอนุบาลและประถม และให้เด็กสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งสั่งปิดไนท์คลับ จำกัดเวลาบริการของบาร์และร้านอาหารเพียง 5 ทุ่ม ให้ประชาชนทำงานจากบ้าน ห้ามจัดงานรวมกลุ่มทุกประเภท (งานแต่ง สังสรรค์ งานศพ) 
 
อัตราครองเตียงของผู้ป่วยไอซียูจากโควิด ขณะนี้อยู่ที่ 40% จากทั้งหมด ทางการหวั่นว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายมากขึ้นมากไม่ดำเนินการใดๆ 


นอร์เวย์

กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อผลบวกในงานเลี้ยงเทศกาลคริสมาสในกรุงออสโล เมื่อ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ยืนยันแล้ว 13 รายมีเชื้อโอมิครอน ที่เหลือรอผลการตรวจ  งานดังกล่าวเป็นงานเลี้ยงภายในของบ.สคาเทค ธุรกิจด้านพลังงานที่มีหน่วยปฏิบัติงานในแอฟริกาใต้ 


เยอรมัน
 
ประกาศมาตรการชุดใหญ่ เพื่อรับมือและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิดในฤดูหนาวและสกัดโอมิครอน  จำกัดการรวมกลุ่มสังคมของผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนและห้ามเข้าใช้บริการในหลายแห่ง  ขณะที่ทางการเร่งระดมทีมบุคลากรและเพิ่มจุดบริการฉีดวัคซีนเข็มหลักและเข็มกระตุ้น [อ่านมาตรการเยอรมัน]


 


 เกาหลีใต้ 
 
ทางการยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน 12 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อโควิดเดลต้าอยู่ที่ราว 5,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะและสร้างความกังวลต่อสาธารณะ รัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการกักตัว 10 วันกับผู้เดินทางเข้าประเทศทุกรายไม่ว่าจะได้รับวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ส่วนมาตรการระดับสังคม สั่งจำกัดการรวมกลุ่มในที่สาธารณไม่เกิน 6 คนในพื้นที่กรุงโซล และ 8 คนในพื้นที่อื่นๆ สั่งให้นำ "วัคซีนพาส" หรือที่รู้จักกันว่า "บัตรกักตัว (Quarantine pass)" มาใช้แสดงก่อนเข้ารับบริการสาธารณะ อาทิ เซาว์นา ผับ ยิม ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่สอบในโรงเรียน โรงหนัง ห้องเรียนสาธารณ ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์
 
"บัตรกักตัว (Quarantine pass) เป็นมาตรการเพื่อปกป้องผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ไม่ใช่การริดรอน แต่เป็นพันธะหน้าที่ในการดูแลสังคม" นอกจากนี้ รัฐมีแผนจะเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น หวังจะลดผู้ป่วยที่อาจมีความรุนแรงจากการติดเชื้อ เร่งวางระบบการดูแลตัวเองที่บ้าน เพื่อเซฟเตียงในโรงพยาบาล (Yonhap)
 
 
แอฟริกาใต้
 
ซิมบับเว

รายงานพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 50 ราย (3 ธ.ค.) ส่วนใหญ่พบในโรงเรียนฝึกหัดครู (22 ราย) และทีมฟุตบอลอายุต่ำกว่า 17 ปี (22 ราย) ที่ร่วมการแข่งขัน ส่วนอีก 8 รายพบจากจุดอื่นๆ 
 

ตูนิเซีย

พบโอมิครอนเคสแรก เป็นชายชาวคองโกวัย 23 ปี เดินทางจากตุรกีเข้ามาที่ตูนิเซียเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด