ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good

"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good HealthServ.net
"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good ThumbMobile HealthServ.net

สถาบัน Tech For Good เผยไทยพร้อมรับเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม ดึงรัฐและเอกชนแนะแนวทาง สร้างความมั่นคงให้อนาคตดิจิทัลไทย

"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good HealthServ
   
 
 
 
สถาบัน Tech For Good (หรือ TFGI) องค์กรอิสระไม่แสวงหากำไรเพื่อวิจัยนโยบายสาธารณะซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย แกร็บ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้จัดงานประชุมเชิงนโยบายครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมจัดการเสวนาในหัวข้อ "สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" เพื่อหาแนวทางในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างมั่นคงสอดรับกับยุทธศาสตร์  "ประเทศไทย 4.0"
 
 
 
งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย กรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนนักวิชาการเข้าร่วมเสวนา อาทิ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ดร. ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาและรักษาการรองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA), ดร.กฤษฎ์เลิศ สัมพันธารักษ์ ศาสตราจารย์ที่ University of California San Diego (UCSD) และผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย, ดร. หมิง แทน กรรมการบริหาร สถาบัน TFGI และ นายอาเดอรส์ ไบจาล พาร์ทเนอร์และผู้อำนวยการด้านฝ่ายปฏิบัติการดิจิทัล เอเซียตะวันออกเชียงใต้จาก Bain & Company  
 
 
 
งานเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ดร. วิรไท สันติประภพ  ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงและสมาชิกคณะที่ปรึกษาของสถาบัน TFGI ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับทิศทางการนำประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดย ดร. วิรไท กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีถือเป็นหนึ่งความท้าทายสำคัญในยุคปัจจุบัน แต่ขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งโอกาสต่างๆ มากมาย เพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะพร้อมขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หรือเข้าสู่เศรษฐกิจสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และภาคประชาสังคมควรจะต้องเรียนรู้และทำงานร่วมกันเพื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งดีๆ ต่อสังคมอย่างที่เรียกว่า Tech For Good ที่สำคัญคือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ต้องให้ความสำคัญกับ 3 คุณลักษณะ คือ ต้องทำให้เกิดผลิตภาพที่สูงขึ้น (Productivity) ต้องสร้างประโยชน์ครอบคลุมกับผู้คนในวงกว้างโดยเฉพาะคนตัวเล็กในสังคม (Inclusivity) และสุดท้ายต้องช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับสังคม (Immunity) ด้วย"
 
 
 
 
 
"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good HealthServ
"Tech for Good จะเกิดขึ้นได้ต้องคำนึงถึงระบบธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลที่เหมาะสม โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจแพลตฟอร์ม หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องต้องสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการกำกับดูแลธุรกิจแพลตฟอร์มมีหลายมิติ ต้องเกิดการแข่งขันทางการค้าอย่างเป็นธรรม ต้องคุ้มครองผู้บริโภค ตลอดจนต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและข้อมูลส่วนบุคคล การเข้ามาของสถาบัน Tech For Good ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันศึกษา วิจัย และนำองค์ความรู้มาต่อยอดเพื่อวางรากฐานรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตที่ต้องอยู่บนฐานของเทคโนโลยี"
 
 
 
ภายในงานยังได้มีการเปิดเผยผลวิจัย "เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม: พลังขับเคลื่อนการเติบโตทางดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ซึ่งได้ทำการสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยที่มีต่อการใช้แพลตฟอร์มแบบ O2O หรือแพลตฟอร์มที่มีการผสมผสานระหว่าง "ออฟไลน์" และ "ออนไลน์" โดยมีประเด็นหลักๆ ดังนี้
 
 
 
  • ผู้บริโภคให้การยอมรับและใช้บริการแพลตฟอร์ม O2O เพิ่มขึ้น: ผู้บริโภค 8 ใน 10 คนใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม O2O เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1-2 ปีที่แล้ว และมากถึง 81% เห็นว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิต เช่น ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น การเปรียบเทียบราคาได้อย่างโปร่งใส และการมีตัวเลือกที่หลากหลายกว่าเมื่อเทียบกับประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบออฟไลน์
  • แพลตฟอร์ม O2O มีส่วนสำคัญในการยกระดับการดำเนินธุรกิจของ MSMEs และโอกาสในการสร้างรายได้: 71% ของผู้ประกอบการรายย่อยระบุว่า ยอดขายจะลดลงอย่างมากหากไม่ได้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการทำธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่ 74% ของพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลังจากเริ่มให้บริการโดยใช้แพลตฟอร์ม
  • ประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล แต่ยังคงต้องพัฒนาการเชื่อมต่อกับบริการออฟไลน์: อัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือของไทยอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 63% แต่ยอดขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและฟู้ดเดลิเวอรี่ยังคงคิดเป็นเพียง 7% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการใช้งานแพลตฟอร์ม O2O ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

ด้าน นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย ในฐานะตัวแทนผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน TFGI เสริมว่า "เพื่อปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ทุกภาคส่วนจําเป็นที่จะต้องร่วมสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ยั่งยืน เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานโดยมอบตัวเลือกที่หลากหลายและความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค รวมทั้งขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียม สนับสนุนให้เกิดการจ้างงานรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความยืดหยุ่น เปิดกว้าง และส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แกร็บยังคงมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและผู้ประกอบการไทยในทุกมิติ โดยมุ่งหวังที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้คนในทุกๆวัน และพร้อมที่จะร่วมมือกับทั้งรัฐบาลและพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นที่สามารถสร้างสมดุลความต้องการให้ทุกภาคส่วนและปลดล็อกศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย"
 

สถาบัน TFGI จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเวทีในการแสดงออกทางความคิด ซึ่งเปิดให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ทำงานร่วมกันในการพัฒนาการวิจัย ศึกษา และแบ่งปันความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ทั้งในประเทศไทย และในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  
 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบัน Tech For Good และ ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ตามลิงค์นี้
 
 
 
"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good HealthServ
 
 

เกี่ยวกับสถาบัน Tech for Good Institute (TFGI)

 
สถาบัน Tech for Good Institute ศูนย์รวมความคิดที่มุ่งมั่นสนับสนุนให้เกิดผลกระทบเชิงบวกทางเทคโนโลยี เพื่อยกระดับชีวิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเต็มศักยภาพ โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งโดย Grab ซึ่งเป็น superapp ชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (techforgoodinstitute.org)
 
สถาบัน Tech For Good Institute (TFGI) ได้รับความร่วมมือจากที่ปรึกษาอิสระด้านเทคโนโลยี รัฐบาล และนักวิชาการ ดังนี้
  • ดร. บัมบัง ซูซานโต ธนาคารพัฒนาเอเชีย
  • ดร. วิรไท สันติประภพ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
  • นาย ทิโมธี เมอร์ฟี บริษัท มาสเตอร์การ์ด (ประเทศไทย) จำกัด
  • ศาสตราจารย์ ลิม เซียง กวาน สถาบัน Lee Kuan Yew School of Public Policy (NUS)
  • ดร. วูเทียน ล็อค หอการค้าเวียดนามและอุตสาหกรรม 
  • นายปานดู ซจารี Sea Indonesia
  • ดร. ไค-ฟู ลี บริษัท ซินโนเวต เวนเจอร์ จำกัด
  • นาง/นางสาว สาตี ระซวนโต VIDA
"สร้างความมั่นคงให้อนาคตทางดิจิทัลของไทย" ภาระกิจท้าทายของ Tech For Good HealthServ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด