ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น

7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ.net

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย 7 ทิศทางนโยบายเพื่อเดินหน้า “โควิด” สู่โรคประจำถิ่น ชี้เป็นโอกาสสร้างงาน สร้างรายได้ ยันหากควบคุมโรคได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะเดินหน้าเป็นโรคประจำถิ่นตามเป้าหมายต่อไป ส่วนมาตรการผ่อนคลายขึ้นกับพื้นที่และสถานการณ์

7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น ThumbMobile HealthServ.net
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
 
 
         6 พฤษภาคม 2565 ที่อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ซอยศูนย์วิจัย กทม. ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 สมาคมโรงพยาบาลเอกชน และบรรยายพิเศษ “ทิศทางและนโยบายภาครัฐ หลังการประกาศโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น” ว่า ประเทศไทยสามารถควบคุมสถานการณ์โรคโควิด 19 ได้อย่างดี ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือของโรงพยาบาลเอกชน โดยเฉพาะเรื่องการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด 19 ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงระยะทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิต


สำหรับการเดินหน้าสู่โรประจำถิ่นนั้น แม้องค์การอนามัยโลกยังไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจนและยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องการกลายพันธุ์ แต่จากการติดตามยังเป็นการกลายพันธุ์ย่อยที่ไม่มีผลเรื่องความรุนแรงและการแพร่ที่รวดเร็ว ส่วนประเทศไทยมีการกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งหากดำเนินการได้ตามนั้นก็พร้อมที่จะเดินหน้าตามเป้าหมายคือช่วงกรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
 

7 นโยบายเ
 
          ดร.สาธิตกล่าวว่า สำหรับทิศทางและนโยบายด้านสุขภาพเพื่อเดินหน้าสู่โรคประจำถิ่น สอดคล้องกับข้อเสนอขององค์การอนามัยโลกที่มาจัดกิจกรรมทบทวนการเตรียมความพร้อมในภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและสุขภาพถ้วนหน้า กรณีโควิด 19 ของประเทศไทย ซึ่งมี 7 เรื่อง ได้แก่

1.การเพิ่มการลงทุนเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมาเรามีไทยชนะ หมอชนะ รวมถึง “หมอพร้อม” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจากเป๋าตัง มีข้อมูลมากกว่า 25 ล้านการลงทะเบียน นอกจากนี้ ครม.กำลังหารือทำแพลตฟอร์มแห่งชาติ ภายใต้กรอบวงเงินอนุมัติ 7 พันล้านบาท เพื่อทำข้อมูลกลางที่มีความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
 
2.การเตรียมพร้อมรับมือการระบาดครั้งต่อไปและพัฒนาบุคลากรสหสาขา ทั้งโรคทั่วไป โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ภาวะลองโควิดและมิสซี

3.การดูแลกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงการรักษาตามสิทธิ

4.ยกระดับการพึ่งพาตนเองด้านยา วัคซีน ชุดตรวจ และเวชภัณฑ์ ซึ่งขณะนี้ไทยมีวัคซีน 3 ตัวที่ก้าวหน้าคือ วัคซีนขององค์การเภสัชกรรม วัคซีนใบยา และวัคซีนของจุฬาฯ

5.การจัดการขยะทางการแพทย์หรือขยะติดเชื้อ ซึ่งที่ผ่านมามีการปลดล็อกกฎหมายให้เตาเผาขยะนิคมอุตสาหกรรมใช้เผาขยะติดเชื้อได้ชั่วคราว 

6.พัฒนากลยุทธ์การบูรณาการข้อมูล ซึ่ง ศบค.มีการรวบรวมข้อมูลหน่วยงานต่างๆ นำมาสู่การตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน 

7.การค้นหา บันทึก และเผยแพร่ตัวอย่างที่ดี รวมทั้งบทเรียนสำคัญในการจัดการกับภาวะระบาดใหญ่
 
 
         “เมื่อโควิดเข้าสู่โรคประจำถิ่น จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างงาน และประเทศจะมีรายได้จากการเก็บภาษีมากขึ้น ส่วนจะผ่อนคลายมาตรการและการปฏิบัติตัว เช่น การถอดหน้ากากอนามัย ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสถานการณ์ หัวใจสำคัญคือ ต้องก้าวข้าม อยู่กับโควิดอย่างเข้าใจ รู้เท่าทัน และเดินหน้าเศรษฐกิจให้ได้” ดร.สาธิตกล่าว
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
7 ทิศทางนโยบาย เดินหน้าโควิดสู่โรคประจำถิ่น HealthServ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด