เนื่องจากในกัญชา จะมี THC ประกอบอยู่ถึง 12% และมี CBD เพียงไม่ถึง 0.30% เท่านั้น การสูบโดยตรงเพื่อรักษาโรคที่ CBD ทำได้นั้น ล้วนแต่ทำให้ร่างกายได้รับแต่ THC มากเกินไปเสียเปล่าๆ การจะใช้งาน CBD ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องอาศัยการสกัดมันออกมา นั่นหมายถึงการนำกัญชาเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรมแปรรูปเสียก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่คนทั่วไปนั้นแทบจะทำไม่ได้
THC ในกัญชา ทำอะไรในร่างกายของเรา
1. เมื่อ THC เข้าสู่ร่างกายของเรา จะไปจับกับตัวรับ ชื่อ CB1และ CB2 ซึ่ง CB1 พบมากที่สมอง ส่วน CB2 พบมากที่เนื้อเยื่อระบบภูมิคุ้มกัน
2. เมื่อ THC ไปจับตัวรับที่สมองมาก ทำให้มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยจะออกฤทธิ์แบบใด ขึ้นกับปริมาณและระยะเวลาที่ได้รับ
3. THC ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยลดปวดได้ดี ช่วยลดอาการคลื่นไส้ ลดการอาเจียน ช่วยให้อยากอาหาร
4. ถึงแม้ว่า THC จะช่วยลดการอาเจียนได้ดี แต่ไม่ให้ใช้บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน อันเนื่องมาจากการแพ้ท้อง
5. ร่างการได้รับ THC ต่อเนื่องนานๆ มีผลต่อความทรงจำ และทำให้เกิดอาการหลอน
6. THC มีฤทธิ์เสพติด
7. THC ทำให้หลอดเลือดขยาย ส่งผลให้ความดันเลือดต่ำ ให้ระวังการเป็นลม พลัดตกหกล้ม
8. ไม่มียาต้านพิษจาก THC ในกรณีที่ได้รับมากเกินขนาด แต่สามารถให้ยาตามอาการ เพื่อแก้ภาวะต่างๆ เช่น การขาดน้ำ เกลือแร่ไม่สมดุล การให้ยานอนหลับ การให้ยาต้านอาการจิต
9. THC ส่งผลให้ปริมาณยาอื่นที่ผู้ป่วยได้รับอยู่ มีปริมาณมากขึ้น หรือน้อยลง ขึ้นกับชนิดของยานั้นๆ
* ข้อมูลจาก ภญ.สิรินภรณ์ ลิ่มวงศ์ โรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา
ผลทางการรักษาของ CBD
1. (CBD) ลดอาการทางจิตประสาทของ THC
2. (CBD) ป้องกันการสูญเสียของความจําระยะสั้นจาก THC
3. (CBD) ป้องกันอาการจิตเสื่อม โรคประสาท ลดความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรคทางจิตที่มาจากการใช้ THC,
4. (CBD) ลดอาการวิตกกังวล
5. (CBD) ลดอาการคลื่นใส้อาเจียน
6. (CBD) อาจช่วยรักษาโรคโรคจิตเภท (Schizophrenia)
7. (CBD) ป้องกันโรคนอนไม่หลับ (Anti-Insomnia)
8. (CBD) ลดอาการชักจากโรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis) และจากโรคลมชักต่างๆ (Epilepsy)