ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรคตา ที่มากับสถานการณ์น้ำท่วม

โรคตา ที่มากับสถานการณ์น้ำท่วม HealthServ.net

กรมการแพทย์โดยรพ.เมตตาฯ รู้สึกห่วงใยในสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เตือนระวังโรคตาติดเชื้อที่มาพร้อมน้ำท่วมขังนาน โอกาสเกิดโรคภัยไข้เจ็บย่อมมีเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคไข้ฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซิส โรคน้ำกัดเท้า หรือฮ่องกงฟุต โรคไข้เลือดออกโรคไข้มาลาเรียซึ่งไม่เพียงแต่สุขภาพทั่วไป การดูแลสุขภาพดวงตามิให้เกิดโรคตาคือ เยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดงก็มีความสำคัญซึ่งในกลุ่มผู้มีอาการเป็นภูมิแพ้อากาศขึ้นตาเยื่อบุอักเสบ ตาแดง ไม่ควรมองข้ามอาจติดเชื้อแบคที่เรีย ไวรัส และภูมิแพ้อากาศได้แนะหากมีอาการตาแดงผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์ทันที

โรคตา ที่มากับสถานการณ์น้ำท่วม ThumbMobile HealthServ.net
 
 
นายแพทย์ไพโรจน์  สุรัตนวนิช  รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมต้องระมัดระวัง ติดตามข่าวสารจากทางราชการ และเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ สำหรับโรคและภัยสุขภาพที่ต้องระมัดระวังในช่วงน้ำท่วม ได้แก่

1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ คือ โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคปอดบวม

2.กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ คือ โรคอาหารเป็นพิษ และโรคอุจจาระร่วง และ

3.กลุ่มโรคที่มักเกิดตามมากับน้ำท่วมคือโรคไข้ฉี่หนูโรคไข้เลือดออก และโรคตาแดง หรือเยื่อบุตาอักเสบ



ภัยสุขภาพที่ต้องระวัง คือแมลงหรือสัตว์มีพิษ เช่น งู แมงป่อง ตะขาบ กัด ต่อย เป็นต้น แนะสำรวจรอบบ้านและเสื้อผ้าก่อนสวมใส่ ควรจัดเก็บสิ่งของและเครื่องใช้ต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ 

หากพบเห็นสัตว์มีพิษควรตั้งสติให้ดีและเรียกผู้ชำนาญมาช่วย

 
 
 
 
 
นายแพทย์อภิชัย   สิรกุลจิรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องเป็นสาเหตุทำให้โรคหลายชนิดที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว


โรคสำคัญที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในสถานการณ์น้ำท่วมขังนี้ นอกจากโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โรคไข้หวัดนก โรคปอดอักเสบ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคฉี่หนู หรือโรคแลปโตสไปโรซิส หรือโรคที่มียุงเป็นพาหะนำโรค เช่น ไข้มาลาเรีย โรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัสเจอี


นอกจากนั้นแล้ว ยังมีโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดงที่ต้องเฝ้าระวังอยู่เสมอ จากสภาพอากาศที่อับชื้นและเย็นลง ซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค หากเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง อาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาเยือน ไม่เพียงแต่เสี่ยงกับโรคระบบทางเดินหายใจ หรือ โรคทางผิวหนังแล้ว ดวงตาก็มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะ โรคตาแดงหรือเยื่อบุตาอักเสบสามารถเป็นได้ ซึ่งน้ำที่ท่วมขังก็อาจจะมีเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย เมื่อน้ำที่สกปรกนั้นกระเด็นเข้าตาเรา ก็จะเกิดการติดเชื้อไปอย่างรวดเร็ว

อาการรุนแรงที่สุดจะมีอาการอักเสบ เคืองตาอย่างรุนแรง ตามัว

หากมีปัญหากับดวงตาหรือมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์
 
 


 นายแพทย์เอกชัย  อารยางกูร หัวหน้าศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านจักษุ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องสุขภาพดวงตาก็ต้องการการดูแลเช่นกันเพราะดวงตามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาวะเหตุการณ์น้ำท่วมขังในขณะนี้มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคตาติดเชื้อได้มาก โดยเฉพาะโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดง ซึ่งอาการของนั้นเกิดได้จากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียเข้าดวงตา ถึงไม่เป็นโรคอันตรายถึงชีวิตเพราะหายได้เอง แต่ถ้าไม่ได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเกิดโรคแทรกซ้อนได้

ลักษณะอาการจากการรับเชื้อแบบต่างๆ 


หากได้รับเชื้ออาการตาแดงจะรู้สึกเคืองตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากจะเกิดได้ภายใน 1-2 วัน และระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 2 สัปดาห์

ลักษณะอาการ แบ่งได้ จากการเกิดอาการตาขาวมีสีแดงเรื่อๆ ระคายเคือง แสบตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากกว่าปกติ เช่น โรคตาแดง ที่อาจเกิดจากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือนำมือที่เปื้อนสิ่งสกปรกไปสัมผัสโดนดวงตา

หากเกิดจากติดเชื้อไวรัส หนังตาจะบวม น้ำตาไหลมาก ต่อมน้ำเหลืองกกหูบวม ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตาแพ้แสง

หากติดเชื้อแบคทีเรียจะมีขี้ตาสีเขียว หรือสีเหลือง มีน้ำตาไหล ตาแฉะ มองเห็นไม่ชัด

หากเกิดจากการแพ้ จะรู้สึกคันตา แสบตา มีน้ำตาไหล



วิธีการป้องกันโรคตาแดง

  • ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย
  • งดใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว
  • ป้องกันและหลีกเลี่ยงฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา
  • หมั่นดูแลรักษาความสะอาด ล้างมือให้สะอาด
  • เลี่ยงการเอามือไปสัมผัสดวงตาบ่อยๆ
  • ไม่อยู่ในพื้นที่แออัด
  • หากจำเป็นต้องสวมแว่นกันแดด กันฝุ่น กันลมช่วยและควรระวังไม่ให้แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา 



การรักษาโรคตาแดง


ส่วนการรักษาโรคตาแดงนั้นหากมีอาการตาแดง ควรพักผ่อน ลาหยุดงานจนกว่าจะหายเพื่อลดการระบาดของโรค และสามารถใช้น้ำตาเทียมช่วยหากมีอาการระคายเคืองตามาก และควรพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาโรคต่อไป



วิธีป้องกันโรคตา


ส่วนวิธีป้องกันโรคตา และภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก สามารถปฏิบัติได้โดย

1.หากน้ำท่วมขังกระเด็นเข้าตาหรือมีฝุ่นละอองเข้าไปในตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าและดวงตาให้สะอาดทันที

2.ไม่ปล่อยให้เด็กเล็กลงเล่นน้ำโดยลำพัง เพราะเด็กอาจจมน้ำและช่วยเหลือไม่ทัน หรือถูกสัตว์มีพิษที่หนีน้ำมากัดต่อยได้

3.ไม่ทิ้งขยะทุกชนิด หรือขับถ่ายของเสียลงน้ำท่วมขัง ให้ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลลงในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่นแล้วเก็บไว้ในที่แห้ง

4.รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ร้อน สะอาด เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง 

5.หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำเป็นเวลานาน ควรใส่รองเท้าบู๊ททุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่มักเกิดตามมากับน้ำท่วม รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งเสมอ  
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด