ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

เห็นชอบ 5 มาตรการคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ป้องกันเด็กเยาวชน

เห็นชอบ 5 มาตรการคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ป้องกันเด็กเยาวชน HealthServ.net
เห็นชอบ 5 มาตรการคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ป้องกันเด็กเยาวชน ThumbMobile HealthServ.net

คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ มีมติเห็นชอบ 5 มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เน้นป้องกันเด็ก เยาวชน ประชาชนทุกคน ไม่ให้เสพติดและได้รับพิษภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า


 
         29 มีนาคม 2566 ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) ครั้งที่ 1/2566 โดยมี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ปลัดกระทรวงหรือผู้แทนปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสสส. เข้าร่วมประชุม
เห็นชอบ 5 มาตรการคุมบุหรี่ไฟฟ้าในไทย ป้องกันเด็กเยาวชน HealthServ
 
 
          นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลผลสำรวจพฤติกรรมด้านสุขภาพของประชากร สำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบว่า ประชากรไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 78,742 คน ในจำนวนนี้ ร้อยละ 30 เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่กำลังเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ


          จากปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว ที่ประชุมจึงมีการพิจารณามาตรการป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และมีมติเห็นชอบ 5 มาตรการ เพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนไม่ให้ได้รับพิษภัยจากผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ ได้แก่

1.การพัฒนาและจัดการองค์ความรู้

2.การสร้างความตระหนัก/รับรู้โทษ พิษภัยบุหรี่ไฟฟ้าแก่เด็ก เยาวชน รวมถึงสาธารณชน

3.การเฝ้าระวังและการบังคับใช้กฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า

4.การพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่ายเพื่อสนับสนุนมาตรการป้องกัน ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และ

5.การยืนยันนโยบายและมาตรการป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคม ร่วมกันดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว
 
 
          นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ 4 ด้าน ได้แก่

          1.ด้านติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดำเนินงานควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ

          2.ด้านบำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้เสพติดผลิตภัณฑ์ยาสูบ ได้ผลักดันยาเลิกบุหรี่เข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ส่วนการบำบัดรักษาและการติดตามผลการบำบัดผู้มีภาวะติดนิโคติน ได้ทำแนวทางให้กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่นำไปดำเนินการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อสร้างต้นแบบชุมชนเป็นฐานในการคัดกรองและการส่งต่อ
 
          3.ด้านกฎหมาย

          4.ด้านการเร่งรัดติดตามการดำเนินงานคดีการกระทำความผิด ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560

          โดยล่าสุด มีคดีที่อยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 72 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการ 35 คดี เปรียบเทียบ/คดีสิ้นสุด 37 คดี ส่วนการเฝ้าระวังในช่องทางออนไลน์ โดยกรมควบคุมโรค พบ 212 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวน 118 ราย และปิดการใช้งานแล้ว 94 ราย

          สำหรับการดำเนินคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า (ข้อมูลระหว่างเดือนกันยายน 2565 – กุมภาพันธ์ 2566) เป็นคดีที่มีการร้องทุกข์ กล่าวโทษ/ตรวจพบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ 435 คดี ซึ่งทำการจับกุมแล้ว เหลือเพียง 1 คดีที่อยู่ระหว่างการสืบสวน
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด