โรคความดันโลหิตสูง(Hypertension)
• ปัจจุบันความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคที่ทำให้เกิดผลแทรกซ้อนของโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งรวมทั้งหลอดเลือดที่สมองและไตด้วย โดยอายุรแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด แพทย์หญิง ณัฐกรณ์ ศรีวัฒนาวานิช , นายแพทย์ เกรียงไกร ไพรไพศาล , นายแพทย์ โยธิน เลิศรัตนสกุลชัย , นายแพทย์ เชษฐพัฒน์ สุทธิวาทนฤพุฒิ มีจุดมุ่งหมายของการรักษาภาวะความดันโลหิตสูงเพื่อลดอัตราทุพพลภาพและอัตราตาย ซึ่งเกิดจากภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจและหลอดเลือด การดูแลเฉพาะแต่ความดันโลหิตสูงเท่านั้นจะทำให้ได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร
ดังนั้นแพทย์จึงต้องตรวจค้นหาภาวะอื่นๆ ที่อาจพบในตัวผู้ป่วยด้วย เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ภาวะอ้วน ผนังหัวใจห้องซ้ายล่างหนา โรคเก๊าท์เป็นต้น ซึ่งแพทย์จะต้องดำเนินการควบคุมและรักษาคู่ไปกับการรักษาความดันโลหิตจึงจะได้ผลดี และมีประสิทธิภาพเต็มที่
• ช่วยกันป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง
ภาวะความดันโลหิตสูงพบมากเกินกว่าที่เราคิด คือ พบมากกว่าครึ่งของประชากรชาย 60 – 69 ปี และพบถึง 3 ใน 4 ของผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป
พบว่าการลดค่าความดันโลหิตตัวบนลง 5 มม.ปรอท จะลดอัตราตายจากโรคหลอดเลือดสมอง 14% ลดอัตราตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจลง 9%
มีหลายปัจจัยที่ทำให้พบความดันโลหิตสูงมากขึ้น และเราอาจช่วยป้องกันได้ คือ น้ำหนักเกิน, โซเดียมจากอาหาร ( เช่น อาหารเค็ม ) มากเกิน, นั่งๆ นอนๆ มากเกินไป, รับประทานผักและผลไม้ ( แหล่งของเกลือโปแตสเซียม ) น้อยเกินไป, และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
• ที่สำคัญ คือ ต้องวัดความดันโลหิตถึงจะทราบว่าสูงไหม จะใช้อาการปวดมึน มึนหัวเป็นตัวบอกไม่ได้
ที่คลินิกโรคความดันโลหิตสูง นอกจากการวัดความดันโลหิตแล้ว ท่านอาจทราบถึงภาวะอื่นๆ เช่น
- การดูปัจจัยเสี่ยงอื่น หรือโรคอื่น
- อาจพบสาเหตุของความดันโลหิตสูง
- มีการประเมินปัญหาที่เกิดต่ออวัยวะต่างๆ จากความดันโลหิตสูง
สิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีทางการแพทย์ของเรา
ตรวจเลือดค่าไขมัน ไต เพื่อเฝ้าระวังโรคร่วม และป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ตรวจจอประสาทตา ทุก 1 ปี