ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

กรมอนามัยเร่งผู้ประกอบกิจการ–ผู้สัมผัสอาหาร ให้ผ่านการอบรมก่อน 16 ธค.นี้

กรมอนามัยเร่งผู้ประกอบกิจการ–ผู้สัมผัสอาหาร ให้ผ่านการอบรมก่อน 16 ธค.นี้ HealthServ.net
กรมอนามัยเร่งผู้ประกอบกิจการ–ผู้สัมผัสอาหาร ให้ผ่านการอบรมก่อน 16 ธค.นี้ ThumbMobile HealthServ.net

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดมาตรการควบคุมสถานที่จำหน่ายอาหารให้ถูกสุขลักษณะเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยวางเป้าหมายในช่วงระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2561-2563 ให้ผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารจำนวน 5 แสนคน ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตร ที่กำหนดภายใน16 ธันวาคมนี้

                นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกกกฎกระทรวงสุขลักษณะของสถานที่จำหน่ายอาหาร พ.ศ.2561 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ว่าด้วยการอบรมหลักสุตรการสุขาภิบาลอาหาร เพื่อให้คุ้มครองสุขภาพผู้บริโภคและพิทักษ์สิทธิ ของประชาชนในการรับบริการด้านอาหาร รวมถึงสุขภาพผู้ปรุง ผู้สัมผัสอาหารด้วย ไม่ให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมีหรือโลหะหนัก โดยสาระสำคัญของกฎกระทรวงกำหนดในเรื่องการควบคุมสุขลักษณะสถานที่ขายนั้น ต้องดูแลให้ถูกต้องตั้งแต่จุดเตรียมอาหาร แสงสว่าง ที่ล้างมือ ห้องน้ำ ที่กำจัดขยะและน้ำเสีย วัตถุดิบต้องมี ความสด มีการจัดเก็บอย่างดี น้ำดื่มหรือน้ำที่เอามาใช้ทำอาหารก็ต้องสะอาด ส่วนน้ำแข็งที่ใช้กินห้ามเอาหมู เอาผักหรือเอาน้ำอัดลมลงไปแช่ จาน ชาม ช้อนส้อม ต้องสะอาดและมีการฆ่าเชื้อหลังทำความสะอาดด้วย ห้ามใช้ก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงในการทำ ประกอบ ปรุงอาหารบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารในสถานที่จำหน่ายอาหาร ห้ามใช้เมทิลแอลกอฮอล์หรือเมทานอลเป็นเชื้อเพลิงในการทำ ประกอบ ปรุง หรืออุ่นอาหารในสถานที่จำหน่ายอาหาร รวมทั้งต้องจัดให้มีมาตรการและอุปกรณ์หรือเครื่องมือสำหรับป้องกันอัคคีภัยจากการใช้เชื้อเพลิงทำ ประกอบ ปรุง การเก็บรักษา ตลอดจนการจำหน่ายอาหาร น้ำใช้ ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
 
               นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาราชการส่วนท้องถิ่นได้มีการดำเนินงานตรวจแนะนำ ร้านอาหาร จัดอบรมผู้สัมผัสอาหาร เพื่อสร้างความร่วมมือกันในพื้นที่ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นวิทยากร ให้ความรู้และให้คำแนะนำมาโดยตลอด นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานอื่น ๆ ภาคเอกชน สถาบันที่มีความรู้ มีความชำนาญดำเนินการจัดการอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารได้อีกด้วย โดยขอความเห็นชอบจาก กรมอนามัย เป็นหน่วยจัดอบรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการอบรมและฝึกปฏิบัติในห้องเรียนจากวิทยากรที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด โดยมีเป้าหมายในช่วงระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2561-2563 ให้มีจำนวนผู้ประกอบการและผู้สัมผัสอาหารที่เข้าข่ายผ่านการอบรมประมาณ 5 แสนราย นับเป็นความท้าทายของกรมอนามัยที่ต้องเร่ง ดำเนินการและขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหารสมัครเข้ารับการอบรมตามหลักสูตร ที่กำหนด เพื่อเป็นการยกระดับและพัฒนาสถานประกอบการให้มีมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข      และยังเป็นการเฝ้าระวังความปลอดภัยด้านอาหาร ป้องกันการระบาดของโรคได้อย่างเข้มแข็ง รวมถึงผู้ประกอบกิจการ      และผู้สัมผัสอาหารต้องรอบรู้ด้านสุขาภิบาลอาหารด้วย ซึ่งหากพบหน่วยงานหรือสถานประกอบกิจการ ไม่ดำเนินการเข้ารับการอบรมดังกล่าวภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 นี้ อาจมีความผิดได้ตามมาตรา 68 ฝ่าฝืน กฎกระทรวงมีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
 
              “ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีความประสงค์ขอความเห็นชอบเป็นหน่วยงานจัดอบรมผู้ประกอบกิจการและผู้สัมผัสอาหาร สามารถติดต่อได้ที่สำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัย ส่วนผู้ประกอบกิจการหรือผู้สัมผัสจำหน่ายอาหารใดที่ยังไม่ได้เข้ารับการอบรมสามารถแสดงความจำนงค์ได้ที่ สำนักงานเขต จังหวัด ราชการส่วนท้องถิ่น หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และหากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทร0 2590 4178 หรือ http://foodsan.anamai.moph.go.th” รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
 
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ
25 พฤศจิกายน 2563
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด