ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรคต้อหิน กับความเสี่ยงสูญเสียการมองเห็นและตาบอด

โรคต้อหินเป็นกลุ่มโรคหนึ่งของขั้วประสาทตาที่ถูกทำลาย ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักเกิดจากความดันในลูกตาสูง แต่ในโรคต้อหินบางชนิดอาจมีค่าความดันในลูกตาเป็นปกติ

โรคต้อหินเมื่อเป็นแล้วจะมีการทำลายของขั้วประสาทตาและเส้นใยประสาทตาแบบถาวรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้คนไข้สูญเสียการมองเห็นและตาบอดในที่สุด

ชนิดของโรคต้อหิน

ต้อหินมีหลายชนิด โดยแบ่งเป็นชนิดหลักๆ ได้ 2 ชนิด คือ ต้อหินมุมเปิดและต้อหินมุมปิด
 
ต้อหินมุมเปิด
 
            หมายถึง มุมระหว่างกระจกตาและม่านตาของคนไข้เป็นปกติ แต่ช่องทางที่น้ำในลูกตาไหลเวียนออกมีปัญหาไหลเวียนได้ไม่ดี น้ำจึงคั่งที่ช่องหน้าลูกตา ทำให้ความดันในลูกตาสูง 
 
ต้อหินมุมปิด
 
            หมายถึง มุมระหว่างกระจกตาและม่านตาของคนไข้แคบกว่าปกติ ทำให้ไปขัดขวางช่องทางที่น้ำในลูกตาไหลเวียนออก น้ำในลูกตาจึงไม่สามารถไหลเวียนออกได้ ทำให้คนไข้มีความดันลูกตาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
 
อาการของโรคต้อหิน
 
  •  ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยในระยะเริ่มต้นจะไม่มีอาการผิดปกติ 
  •  หากมีอาการตามัวหรือการมองเห็นแคบลง แสดงว่าโรคอยู่ในระยะรุนแรงแล้ว
  •   ผู้ป่วยต้อหินมักจะไม่มีอาการปวดตา ยกเว้น ผู้ป่วยโรคต้อหินมุมปิดเฉียบพลันที่มีความดันลูกตาสูงขึ้นแบบฉับพลัน
 
 
การวินิจฉัยโรคต้อหิน
 
จักษุแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยโรคต้อหิน โดยจำเป็นต้องอาศัยการตรวจตาและตรวจการมองเห็น
 
  • การตรวจตาโดยจักษุแพทย์
  •  การตรวจด้วยอุปกรณ์พิเศษ เช่นเครื่องสแกนขั้วประสาทตา
  •  การตรวจลานสายตา
 
 
ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรคต้อหิน
 
หากคุณมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้ 1 ข้อ หรือมากกว่าคุณควรปรึกษาจักษุแพทย์
 
  •  อายุมากกว่า 40 ปี
  •   เชื้อชาติเอเชีย แอฟริกัน หรือเชื้อสายสเปน
  •   มีประวัติในครอบครัวเป็นต้อหิน
  •   มีสายตาสั้นมากหรือยาวมาก
  •   เคยเกิดอุบัติเหตุที่ตามาก่อน
  •  มีการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  •   ประวัติของการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติ เช่น ไมเกรน เบาหวาน ควานดันโลหิตสูง เลือดจาง หรือภาวะช็อก
 
กรณีฉุกเฉิน!!
 
ต้อหินอาจเกิดขึ้นได้เฉียบพลัน ถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยด่วน
  •   มองไม่เห็นอย่างฉับพลันในตาข้างใดข้างหนึ่ง
  •   การมองเห็นมัวลงคล้ายเป็นหมอก
  •   เวลามองมีแสงแฟลชหรือจุดดำ
  •   เวลามองดวงไฟจะเห็นรัศมีเป็นสีรุ้ง
  •  มีอาการปวดตา หรือปวดหัวข้างเดียวกับที่ตามัว
  •    มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
 
 
การรักษาต้อหินและการป้องกันภาวะตาบอด
 
 หากคุณเป็นต้อหิน สิ่งสำคัญ คือ การควบคุมความดันตาให้อยู่ในระดับปกติ และหยุดการทำลายของเส้นประสาทตา
 
การควบคุมความดันตา ทำได้โดย:
 
1.  การใช้ยาหยอดตารักษาต้อหิน
 เป็นวิธีขั้นพื้นฐานและได้ผลที่ดี
 
2. การผ่าตัด หรือการใช้เลเซอร์รักษาต้อหิน
 ทำในบางกรณี ทั้งนี้อาจต้องมีการใช้ยาหยอดตาร่วมด้วย
 
สิ่งที่สำคัญที่ควรทราบ
  1. การใช้ยาหยอดตาไม่ได้ทำให้การมองเห็นหรือความรู้สึกในการรักษาดีขึ้น แต่จะช่วยป้องกันไม่ให้การมองเห็นแย่ลง
  2. การใช้ยาหยอดทุกวันอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ
  3. การประเมินผลการรักษา จำเป็นต้องมีการตรวจตามการนัดหมายของแพทย์ เพื่อดูผลของการรักษา
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด