ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ทำความรู้จักกับ 6 โรคใหม่ ที่เฝ้าระวังในไทย

ทำความรู้จักกับ 6 โรคใหม่ ที่เฝ้าระวังในไทย

ทำความรู้จักกับ 6 โรคใหม่ ที่เฝ้าระวังในไทย

 
     องค์การอนามัยโลกประกาศให้มีการเฝ้าระวังการระบาดข้ามประเทศ คือ เชื้อไวรัสมาร์บวร์ก โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์  ไข้ลาสซา  ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก  และไข้เวสต์ไนล์
  1. โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก
    ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน  อ่อนเพลีย  ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะมากตามมาด้วยอาการเจ็บคอ  อาเจียน  ท้องเสีย  และมีผื่นนูนแดงตามตัว มีอาการเลือดออกง่ายซึ่งมักเกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย  ไตวายมีอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง ช็อก อวัยวะหลายระบบเสื่อมการทำงาน และอาจขึ้นขั้นเสียชีวิตได้
  2. โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา
    เกิดจากม้าเป็นตัวพาหะนำโรค  ซึ่งจะทำให้มีอาการไข้สูง  ปวดศีรษะ เจ็บคอ  วิงวียน ซึม  สับสน หรืออาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ในระยะแรกมักพบอาการปอดอักเสบ  ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการระบบทางเดินหายใจล้มเหลว  และอาจถึงขั้นเสียชีวิต
  3. โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ 
    มีสุกรเป็นพาหะนำโรค  โดยอาการคล้ายเป็นหวัด  มีไข้สูง  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  สมองอักเสบ  บางรายอาจมีอาการของระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย  หรืออาจมีอาการไข้ร่วมกับอาการทางระบบประสาท  เช่น  วิงเวียนศีรษะ  เดินโซเซ  ซึม  สับสน  หรือชัก  มีอาการเคลื่อนไหวของลูกตาผิดปกติ  แขนและขามีการกระตุก  ความดันโลหิตและชีพจรแปรปรวน  อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่40%ในกรณีที่รอดชีวิตจะพบ20% มีความบกพร่องของระบบประสาท
  4. โรคไข้ลาสซา
    จะมีไข้  ปวดศีรษะ  เจ็บคอ  ไอ  อาเจียน  ท้องร่วง  เจ็บหน้าอก  และปวดบริเวณช่องท้อง อาการยังคงมีอยู่ตลอด หรืออาจจะไข้สูงเป็นระยะ  มีอาการตาอักเสบ  คออักเสบ เป็นหนอง 80% อาการไม่รุนแรง แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงและมีเลือดออก  ช็อก  หน้าบวม  คอบวม  จะมีปริมาณเกล็ดเลือดลดลงและการทำงานของเกล็ดเลือดผิดปกติ และกว่า 25% มีอาการหูหนวกจากพยาธิสภาพที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 8
    โรคนี้พบการระบาดที่แอฟริกาตะวันตกโดยมีหนูเป็นพหะ ระยะฟักตัว 6-21 วัน รักษาได้ด้วยยาไรบาวิรินภายใน 6 วันแรก การป้องกัน คือต้องควบคุมหนู  และสัตว์กัดแทะเป็นพิเศษ
  5. โรคไข้เลือดออกไครเมียนคองโก 
    อาการจะเริ่มอย่างเฉียบพลัน โดยมีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ มึนงง ปวดคอร่วมกับคอแข็ง ปวดหลัง ปวดศีรษะ เจ็บตา ใบหน้าแดง และกลัวแสง บางรายอาจพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเจ็บคอในระยะแรก ซึ่งพบร่วมกับอาการท้องร่วงและปวดท้อง ต่อมาจะมีอารมณ์แปรปรวน สับสน ก้าวร้าว จากนั้นจะมีอาการง่วง ซึมเศร้า หัวใจเต้นเร็ว ต่อมน้ำเหลืองโต มีเลือดออกใต้ผิวหนังและเยื่อบุต่างๆ เช่น ปาก เพดานปาก ลำคอ และพบเลือดออกจากส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น กระเพาะอาหารเลือดปนมากับปัสสาวะ มีเลือดกำเดาและเลือดออกจากเหงือก บางรายอาจพบอาการตับอักเสบ
  6. โรคไข้เวสต์ไนล์
    เกิดจากยุง Culex spp. เป็นพาหะ พบที่แคนาดา  เวเนซุเอลา แอฟริกา  ยุโรปตะวันออกกลาง  เอเชียตะวันตก และออสเตรเลีย ระยะฟักตัวของโรค 5-15 วัน ซึ่งกว่า 80% ไม่แสดงอาการ ส่วนที่แสดงอาการไม่รุนแรงพบว่าจะมีไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น เหงื่อออก มีผื่นที่ผิวหนัง อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ซึม ปวดข้อ และมีอาการคล้ายไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และจะดีขึ้นภายใน 7 วัน
    ส่วนรายที่อาการรุนแรง จะมีอาการทางสมองร่วมด้วย เช่น สมอง หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีไข้สูง คอแข็ง ซึม ชัก และหมดสติ  ปัจจุบันยังไม่มียาหรือวิธีการเฉพาะทำได้เพียงแค่ให้การรักษาตามอาการเท่านั้น
 
“ปัจจุบันยังไม่พบรายงานโรคทั้ง 6 โรคนี้ในประเทศไทย แต่ที่มีการประกาศเฝ้าระวังก็เป็นการยกระดับการควบคุมป้องกันโรค เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันการเดินทางมีการเชื่อมต่อกันหมดทั่วโลก”                      
ที่มาข้อมูล หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
 
 
 
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด