ยาอไภยสาลี
ที่มาของตำรับยา
เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม 1, 2, 3 พระยาพิศณุประสาทเวช ร.ศ. 127
“ยาอไภยสาลี เอาลูกจัน 1 สลึง ดอกจัน 2 สลึง ลูกกระวาน 3 สลึง กานพลู 1 บาท ลูกพิลังกาสา 1 บาท 2 สลึง ว่านน้ำ 1 บาท 3 สลึง โกฐสอ 2 บาท โกฐเขมา 2 บาท 1 สลึง เทียนเข้าเปลือก 2 บาท 2 สลึง เทียนแดง 2 บาท 3 สลึง เทียนขาว 2 บาท เทียนตาตั๊กแตน 2 บาท 1 สลึง เจตมูลเพลิง 3 บาท สมอไทย 3 บาท 1 สลึง สมอเทศ 3 บาท 1 สลึง หัวบุกรอ 3 บาท 3 สลึง สหัศคุณเทศ 1 ตำลึง 2 บาท จันทน์เทศ 1 ตำลึง กัญชา 3 บาท 3 สลึง พริกล่อน 1 ตำลึง กินเช้าเย็นทุกวัน แก้สารพัดลม 80 จำพวก แก้โลหิต 20 จำพวก แก้ริดสีดวง 20 จำพวก ยานี้กินได้ 3 เดือน หายโรคาพยาธิมิได้มีเลย อายุวัฒนะทั้งเกิดปัญญารู้หลักนักปราชญ์มากกว่าคนทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบให้ทำกินวิเศษนัก ใครกินยานี้ดุจยาทิพย์นั้นแลฯ”
สูตรตำรับยา
ประกอบด้วย ตัวยา 20 ชนิด รวมน้ำหนัก 757.50 กรัม ดังนี้
ลำดับ ตัวยา น้ำหนักยา
1 ลูกจันทน์ 3.75 กรัม
2 ดอกจันทน์ 7.50 กรัม
3 กระวาน 11.25 กรัม
4 กานพลู 15 กรัม
5 ลูกพิลังกาสา 22.50 กรัม
6 ว่านน้ำ 26.25 กรัม
7 โกฐสอ 30 กรัม
8 โกฐเขมา 33.75 กรัม
9 เทียนข้าวเปลือก 37.50 กรัม
10 เทียนแดง 41.25 กรัม
11 เทียนขาว 30 กรัม
12 เทียนตาตั๊กแตน 33.75 กรัม
13 เจตมูลเพลิง 45 กรัม
14 สมอไทย 48.75 กรัม
15 สมอเทศ 48.75 กรัม
16 หัวบุกรอ 56.25 กรัม
17 หัสคุณเทศ 90 กรัม
18 จันทน์เทศ 60 กรัม
19 กัญชา 56.25 กรัม
20 พริกไทยล่อน 60 กรัม
ข้อบ่งใช้
แก้อาการจุกเสียดแน่น
รูปแบบยา
ยาผง ยาแคปซูล
ขนาดและวิธีใช้
รับประทานครั้งละ 2 กรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ก่อนอาหาร
ข้อห้ามใช้
ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ข้อควรระวัง
ควรระวังการรับประทานร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)
ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin เนื่องจากตำรับนี้มีพริกไทยเป็นส่วนประกอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ยาอไภยสาลีเป็นสูตรตำรับเดียวกันกับยาอภัยสาลี ในบัญชียาหลักแห่งชาติปี 2561 เพียงแต่ในบัญชียาหลักแห่งชาติไม่ได้ใส่กัญชาในสูตรตำรับ เนื่องจากเสนอตำรับยาก่อนที่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ประกาศใช้
เอกสารอ้างอิง
พิศณุประสาทเวช, พระยา. เวชศึกษา แพทย์ศาสตร์สังเขป เล่ม 1. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ไทย สพานยศเส; ร.ศ. 127 หน้า 72.