ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

อาหารผู้ป่วยโรคไต เลือกทานอะไรดี

อาหารผู้ป่วยโรคไต เลือกทานอะไรดี

สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยระบุว่า ผู้ป่วยโรคไตทั่วประเทศที่ยังมีชีวิตอยู่และอยู่ระหว่างการรักษาประมาณ 140,000 คน และคาดว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากโรคไตที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยโรคอื่นเป็นตัวนำพา เช่นภาวะไตเสื่อมเนื่องจากโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง 2 โรคนี้จะทำให้หลอดเลือดที่มาเลี้ยงไตตีบแข็ง  ส่งผลทำให้ไตเสื่อมลงอย่างถาวร พฤติกรรมที่ติด “รสเค็ม” ทานอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูง ขนมกรุบกรอบที่มีเกลือมาก
ดังนั้นการเลือกทานอาหารให้ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการชะลอไม่ให้เนื้อไตถูกทำลายมากขึ้น
 
  1. โปรตีน 
    ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตในระยะ 1-2 กินโปรตีนได้ปกติ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ควรเน้นปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อกไก่(ควรเลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีการปรุงรส) และถ้าเป็นโรคไตระยะที่ 3-4-5 (ไตวายเรื้อรัง) ต้องจำกัดโปรตีน 0.6 - 08. กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมหรือถ้าจำกัดมากกว่านั้น คือ 0.4 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เน้นทานโปรตีนคุณภาพดี เช่น ไข่ดาว ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
     
  2. โซเดียม 
    ไม่ควรกินเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 1 ช้อนชา หรือเทียบเท่า น้ำปลา 5 ช้อนชาเลี่ยงการใช้เครื่องปรุงรส ที่มีโซเดียมสูง เช่น ผงชูรส ผงปรุงรส ซุปก้อน ผงฟู่ เลี่ยงการทานอาหารแปรรูปที่มีโซเดียมสูงในการเก็บถนอมอาหาร เช่น ผลไม้ดอง ไข่เค็ม ปลาเค็ม หมูหยอง ผักดอง หัวไชโป๊

    ลำดับโซเดียมในเครื่องปรุงรสและอาหารสำเร็จรูป
    • ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ /    มีโซเดียม 180 มิลลิกรัม
    • ซอยหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ /    มีโซเดียม 480 มิลลิกรัม
    • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  1 ห่อ 60 กรัม / มีโซเดียม1500 มิลลิกรัม
    • ซุปก้อน  1 ก้อน 5 กรัม  /มีโซเดียม 1730 มิลลิกรัม
    • ผงชูรส  1 ช้อนโต๊ะ /    มีโซเดียม1950 มิลลิกรัม
    • ผงปรุงรส   2 ช้อนชา  /     มีโซเดียม 1900 มิลลิกรัม

     
  3. โพแทสเซียม 
    ในผู้ป่วยโรคไตระยะที่ 4-5 ไม่ควรได้รับเกิน 1500 มิลลิกรัม ต่อวัน (หรือผู้ป่วยมีค่าโพแทสเซียมในเลือดสูง) 
    • ผักที่มีโพแทสเซียมสูง 100 กรัม ได้แก่ หัวปลี ผักชี ชะอม คะน้า แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง บร็อคโคลี่
    • ปานกลาง  ได้แก่ ฟักเขียว  ผักกาดขาว  มะละกอ  ผักบุ้งจีน  ขิง  หัวไชเท้า  น้ำเต้า มะเขือยาว
    • ต่ำ ได้แก่  บวบ  หอมใหญ่  แตงกวา  ฟักอ่อน  ถั่วพู  พริกหยวก  ถั่วลันเตา
     
  4. ฟอสฟอรัส 
    ไม่ควรกินเกิน 800 มิลลิกรัมต่อวันจะจำกัดในผู้ป่วยระยะที่ 3- 4 – 5 ควรเลี่ยงการทาน นม ผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด ช็อคโกแลต  ไข่แดง  ถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด  เต้าหู้ถั่วเหลือง
     
  5. น้ำ 
    จะมีการจำกัดในผู้ป่วยที่บวบน้ำ หรือแพทย์เป็นผู้กำหนด ประมาณ 1000-1200 มิลลิตร ต่อวัน  ในรายที่ไตวายมาก  อาจลดเหลือแค่ 500 มิลลิตรต่อวัน หรือปัสสาวะไม่ออก
     
  6. พลังงาน 
    คำนวณจากน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต้องการพลังงาน 30 กิโลแคลอรี่  ในกรณีทำงานปานกลาง  ถ้าทำงานเบา น้ำหนัก 1 กิโลกรัม :25 กิโลแคลอรี่แทน  ควรได้รับพลังงานเพียงพอ  ทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน  โดยเฉพาะไขมันควรเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัว ข้าวทานได้ปกติ ในรายที่ต้องระวังฟอสฟอรัสในเลือดสูงให้เลี่ยงการทานข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี (ทานแป้งปลอดโปรตีนแทน เช่น เส้นเซี่ยงไฮ้ ข้าวหอมมะลิสีขาว เส้นหมี่ เส้นใหญ่)
 
            สุดท้ายนี้แนวทางในการทานอาหาร มีส่วนสำคัญในการเสี่ยงการเกิดโรคไต และเพิ่มคุณภาพให้ดีขึ้น ในรายที่เป็นโรคไตในระยะเริ่มต้นแล้ว การดูแลของแพทย์ ทานยาสม่ำเสมอ พบแพทย์ตามนัด และเลือกทานอาหารที่เหมะสม แค่นี้ก็สามารถลดอาการเสี่ยงของโรคไตได้
                                                                             
 
นายธีระเดช  สวนเส
นักกำหนดอาหาร รพ.วิภาวดี
ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลวิภาวดี
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด