วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์กับ COVID-19

 

โรคไข้หวัดใหญ่ จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัวมาก ปวดศีรษะร่วมด้วย ต่อมาอาจจะมีอาการ เจ็บคอ ไอ บางคนมีน้ำมูกไหล อาการของไข้หวัดใหญ่ในช่วง 2–3 วันแรก จะแยกจากโรค COVID-19 ได้ยาก ถ้าภายใน 3–4 วัน ไม่ทุเลาให้รีบมาพบแพทย์

โรค COVID-19 ผู้ป่วยจะมีอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-7 วัน อาการช่วงแรกคล้ายไข้หวัดใหญ่ ไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย รวมถึงมีภาวะปอดติดเชื้อ จนอาจทำให้เสียชีวิตได้

 

การรับมือกับโรคไข้หวัดใหญ่ และโรค COVID-19

 

1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

 

2. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง หากไปในที่ชุมชนหรือมีผู้ป่วย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการไอ จาม)

 

3. หมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ ทำความสะอาดด้วย Alcohol hand gel

 

4. งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่

 

5. งดใช้ของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ช้อนส้อม หรือกินอาหารร่วมกับผู้ป่วยที่กำลำป่วย

 

6. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือเขตพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค

 

7. ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์เป็นประจำทุกปี เพราะไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นไวรัสที่พบได้บ่อย และยังทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้มาก

 

 

การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

 

การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ให้แก่ร่างกาย องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้าในวัคซีนอีกหนึ่งสายพันธุ์ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นคือ Quadrivalent Influenza Vaccine ซึ่งครอบคลุมไวรัสทั้ง 4 สายพันธุ์ที่ทำให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ดังต่อไปนี้

 

1. สายพันธุ์ A H1N1

2. สายพันธุ์ A H3N2

3. สายพันธุ์ B ตระกูล Victoria

4. สายพันธุ์ B ตระกูล Yamagata

 

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ต้องฉีดตอนไหน

 

แนะนำให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ก่อนฤดูที่มีการระบาด (ฤดูฝน และฤดูหนาว) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง การฉีดวัคซีนทุกปีจึงเป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูง ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในแต่ละปี วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์แนะนำให้ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือน จนถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ รวมถึงหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้เช่นกัน

 

ใครบ้างควรวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

 

เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี

ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป

หญิงตั้งครรภ์ และ ผู้หญิงที่อยู่ในระยะ 2 สัปดาห์หลังคลอด

ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน หัวใจ ปอด ความผิดของตับไต

คนทั่วไปที่ต้องการดูแลสุขภาพ

 

ใครบ้างไม่ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่

 

1. ถ้าเคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิต ถ้าเคยมีอาการแพ้อย่างรุนแรงหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรืออาการแพ้อย่างรุนแรงต่อส่วนผสมของวัคซีน   อาจได้รับคําแนะนําให้งดฉีดวัคซีนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ส่วนมากแต่ไม่ทั้งหมดที่มีส่วนผสมของไข่เล็กน้อย

2. ถ้าเคยเป็นโรค กิลเลน-บาร์เร่ ซินโดรม (เป็นอัมพาตชนิดหนึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า GBS) หรือใครก็ตามที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้ ไม่ควรรับการฉีดวัคซีนนี้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับการฉีด

3.ถ้ารู้สึกไม่สบาย ปกติแล้วสามารถรับการฉีดวัคซีนได้หากมีอาการป่วยเล็กน้อย แต่อาจให้คําแนะนําให้กลับมาฉีดเมื่อมีอาการดีขึ้น

 

 

 

 

หมายเหตุ:

1. ราคาดังกล่าวะราคารวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว และสามารถใช้บริการได้เฉพาะโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์เท่านั้น

2. ราคาดังกล่าว สามารถใช้ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2564

3. บริการดังกล่าว ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.

4. ในกรณีที่มีผู้รับบริการมากกว่า 1 คน ผู้รับบริการทุกคนจะต้องอยู่สถานที่เดียวกัน ณ วันรับบริการเท่านั้น

5. บริการดังกล่าว จะต้องจองล่วงหน้า 2 วัน และจะต้องทำการชำระเงินก่อนถึงวันเข้ารับบริการ

6. บริการดังกล่าว ให้บริการเฉพาะกรุงเทพฯเท่านั้น

7. ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน ยกเลิกทุกกรณี แต่สามารถเปลี่ยนแปลงวันรับบริการได้ (แจ้งล่วงหน้า 1 วัน ที่เบอร์ 02-1187922)

8. ท่านสามารถจองและชำระค่าบริการดังกล่าวได้ที่ LINE @samitivejchinatown เท่านั้น