การตรวจอุโมงค์แม่เหล็ก หรือ MRI คืออะไร ?
MRI คือ เครื่องตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริง ของส่วนต่างๆของร่างกาย โดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ(Radio Frequency) ด้วยการส่งคลื่นความถี่เข้าสู่ร่างกาย และรับคลื่นสะท้อนกลับ นำมาประมวลผลและสร้างเป็นภาพ ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถให้รายละเอียดและความคมชัดเสมือนการตัดร่างกายออกเป็นแผ่นๆ ทำให้แพทย์สามารถมองจุดที่ผิดปกติในร่างกายคนเราได้อย่างละเอียด โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆต่อผู้รับการตรวจ
MRI สามารถตรวจร่างกาย ส่วนไหน ได้ดี ?
การตรวจ MRI สามารถสร้างภาพที่แยกความแตกต่างระหว่างเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ชัดเจน ทำให้มีความถูกต้องแม่นยำในการวินิจฉัยโรคมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถทำการตรวจได้ในทุกๆระนาบไม่ใช่ เฉพาะแนวขวางอย่างเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
การตรวจ MRI ใช้ได้ดีกับส่วนที่ไม่ใช่กระดูก คือเนื้อเยื่อ โดยเฉพาะสมองเส้นประสาทไขสันหลังและเส้นประสาทในร่างกาย ใช้ได้ดีกับกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นยึดกระดูกและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้การตรวจ MRI ยังสามารถตรวจระบบหลอดเลือดได้โดย ไม่ต้องเสี่ยงกับการฉีดสารทึบรังสี และการสวนสายยางเพื่อฉีดสีซึ่งมีประโยชน์ต่อวงการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอย่างมากเพราะมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังสะดวกสบายกว่าเพราะไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใดๆทั้งก่อนและหลังการตรวจ คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันทีที่ตรวจเสร็จไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อเหมือนใน CT scan เพราะไม่ใช้รังสี
ผู้ที่สมควรได้รับการตรวจ MRI สภาพสมอง มีอาการดังนี้
- เป็นโรคลมชัก
- มีอาการปวดหัว แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง หรือพถติกรรมเปลี่ยนแปลง
- มีอาการหมดสติบ่อยๆ ความจำเสื่อม สับสน คลื่นไส้อาเจียน
- มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายบ้านหมุน เสียการทรงตัว เป็นๆหายๆ
- มีอาการ ปากเบี้ยว, หนังตาตก หรือ ลิ้นชาแข็ง
ผู้ที่มีประวัติในครอบครัว เป็นกลุ่มเสี่ยง สมควรตรวจ MRI สมองดังนี้
- มีประวัติว่าบิดาหรือมารดาเป็นเส้นเลือดในสมองโป่งพอง (Intracerebral Aneurysm)
- มีประวัติว่าบิดาหรือมารดาเป็นเส้นเลือดในสมองแตก
ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ สมควรได้รับการตรวจ MRI ส่วนไขสันหลัง คอ ทรวงอก และส่วนที่เป็นเอว
- ปวดคอ ชาลงแขนหรือลำตัว
- แขนหรือนิ้วมือชา
- แขนหรือขาอ่อนแรง หรืออ่อนแรงทั้งหมด
- แขนขากระตุก
- ขาไม่มีแรงทั้งสองข้าง
- ปวดหลังไม่หาย
- มีอาการชาตึงลงขาหรือน่อง
- นิ้วขาชาไม่มีความรู้สึก
- ขาลีบ อ่อนแรง
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
- ควบคุมปัสสวะ, อุจจาระไม่ได้
ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
- ทำ จิตใจให้สงบ นอนให้สบาย ไม่ต้องกังวล ในขณะที่เครื่องทำ งานจะมีเสียงดัง กรุณาอย่าตกใจ! ในขณะที่ท่านทำการตรวจอยู่ในเครื่อง จะมีเจ้าหน้าที่ดูแลท่านอยู่ตลอดเวลา ถ้ามีปัญหาขัดข้องอะไร ท่าสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ผ่านอุปกรณ์ส่งสัณญาณ
- เนื่องจากเป็นการตรวจที่มีความละเอียดสูง จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน ในการตรวจ ท่านควรนอนให้นิ่งที่สุด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ภาพไม่ชัดเจน อาจทำ ให้การวินิจฉัยไม่แม่นยำ
- หากเป็นการตรวจ MRI ช่องท้องจำเป็นต้องงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ในกรณีที่ต้องมีการ ฉีดสาร Contrast agent ต้องมีผลเลือด Creatinine, BUN และ GFR
- เจ้าหน้าที่จะทำการอธิบายก่อนเข้ารับการตรวจ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้กับทางเจ้าหน้าที่
- ถ้าท่านเกิดการกังวลใจหรือกลัวที่แคบโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการตรวจ
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า เนื่องจากไม่ควรใช้อายชาโดว์ และมาสคาร่า เพราะอาจมีส่วนผสมของโลหะ ทำให้เกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาพได้
ผู้ที่ต้องระวัง หรือมีข้อห้ามตรวจ MRI มีดังนี้
- ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่กลัวที่จะอยู่ในที่แคบๆ ไม่สามารถนอนในอุโมงค์ตรวจได้ (claustrophobic)
- ควรหลีกเลี่ยงในรายที่มีโลหะฝังอยู่ในร่างกาย เช่น
• ผู้ที่ผ่าตัดติดคลิปอุดหลอดเลือดในโรคเส้นเลือดโป่งพอง (Aneurism Clips )
• metal plates ในคนที่ดามกระดูก
• คนที่เปลี่ยนข้อเทียม
• คนที่ใส่ลิ้นหัวใจเทียม (Artificial Cardiac valve)
• ผู้ที่ผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้เป็นจังหวะ Cardiac Pacemaker
• ผู้ที่ผ่าตัดใส่อวัยวะเทียมภายในหู
• ผู้ป่วยที่ใส่ Stent ที่หลอดเลือดหัวใจต้องสอบถามจากแพทย์ที่ใส่ Stent ว่าเป็น Stent ชนิดใดจะทำ MRI ได้หรือไม่ ปัจจุบัน Stent ที่หลอดเลือดหัวใจถ้าเป็นรุ่น MRI compatible สามารถทำได้ทันทีไม่มีผลเสียใดๆ
- ควรหลีกเลี่ยงในคนที่ เตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด สมอง ตา หรือ หู ซึ่งจะต้องฝัง เครื่องมือทางการแพทย์ไว้ (medical devices)
- ผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุที่ลูกตา และสงสัยว่าจะมีโลหะชิ้นเล็กๆกระเด็นเข้าไปในลูกตาหรือมีอาชีพเกี่ยวข้องกับโลหะ และมีความเสี่ยงต่อการมีโลหะชิ้นเล็กๆ กระเด็นเข้าลูกตา ซึ่งถ้าเข้าไปอยู่ในสนามแม่เหล็กอาจมีการเคลื่อนที่ของโลหะชิ้นนั้นก่อให้เกิดอันตรายได้ (การถ่ายภาพเอกซเรย์ธรรมดาของตาจะช่วยบอกได้ว่ามีหรือไม่มีโลหะอยู่ในลูกตา)
- ใส่เหล็กดัดฟัน ถ้าต้องทำ MRI ตรวจในช่วงบริเวณ สมองถึงกระดูกคอควรต้องถอดเอาเหล็กดัดฟันออกก่อน เพราะจะมีผลต่อความชัดของภาพ
- ผู้ที่ รับการตรวจร่างกายด้วย MRI จะต้องนำโลหะต่างๆออกจากตัว เช่น กิ๊ฟหนีบผม ฟันปลอม ต่างหูเครื่องประดับ ATM บัตรเครดิต นาฬิกา ปากกา ไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้ สิ่งของได้รับความเสียหาย และอาจถูกฉุดกระชาก นอกจากนี้ยังทำให้ภาพที่อยู่บริเวณโลหะไม่ชัด
- ไม่ควรใช้อายชาโดว์ และมาสคาร่า เพราะอาจมีส่วนผสมของโลหะ ทำให้เกิดเป็นสิ่งแปลกปลอมในภาพได้
- จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่พบว่าการตรวจ MRI มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่ควรตรวจในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์