ข้อมูลบริการสุขภาพของไทย

จากข้อมูลและข่าวสารที่ประกาศเป็นระยะ กำหนดการมาถึงของวัคซีนโมเดอร์นาที่มีองค์การเภสัชในฐานะตัวแทนรัฐบาล เป็นหน่วยงานหลักในการสั่งซื้อและนำเข้า เพื่อกระจายให้กับผู้สั่งซื้อได้แก่กลุ่มรพ.เอกชน สภากาชาดและองค์อื่นๆ  

• ล่าสุด 1 พ.ย. 64 วัคซีนโมเดอร์นาเข้าไทย 560,000 โดส 

นับถึงปัจจุบัน ประเทศไทย มี 4 ชนิดวัคซีนให้บริการฉีดให้กับประชาชน มาตั้งแต่ช่วงกลางปีเป็นต้นมา คือ วัคซีนซิโนแวค วัคซีนแอสต้าเซเนก้า วัคซีนซิโนฟาร์ม และวัคซีนไฟเซอร์ 

วัคซีนโมเดอร์นาที่กำลังจะมาถึงไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะเป็นวัคซีนตัวที่ 5 ซึ่งวัคซีนน้องใหม่ชื่อคุ้นเคยชนิดนี้ ได้มีการเปิดให้ประชาชนจองล่วงหน้ามาตั้งแต่เดือนกลางปีที่ผ่านมา (มิถุนายน-กรกฏาคม) ด้วยกำหนดการแรกเริ่มที่จะได้รับวัคซีนและเริ่มบริการฉีดให้กับผู้จองตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นไป

แต่ บ.ผู้นำเข้า ได้ประกาศเลื่อนกำหนดการนำเข้าไปจากเดิม

ในส่วนของประชาชน ที่ต้องรับวัคซีนโมเดอร์นา แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 
1) กลุ่มที่จะใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3  หลังจากรับวัคซีนชนิดอื่นครบโดสแล้ว
2) กลุ่มที่ประสงค์จะใช้เป็นวัคซีนหลักทั้ง 2 โดส

กล่าวถึงกรณีหลัง คือกลุ่มทีประสงค์จะรับเป็นวัคซีนหลัก ซึ่งต้องฉีด 2 เข็ม เมื่อกำหนดการส่งมอบถูกเลื่อนออกไป กำหนดการได้รับวัคซีนเข็มแรกของพวกเขา ก็จะต้องเลื่อนออกไปเช่นกัน  สิ่งที่น่ากังวลที่ตามมาคือ ความเสี่ยงที่จะยังคงอยู่กับการ "ยังไม่ได้รับวัคซีน" และระยะเวลาในการรอก็เป็นอีกปัจจัย เนื่องจากการจัดสรรการรับวัคซีนแต่ละราย ขึ้นกับ "การชำระเงิน" ซึ่งหากเป็นการจองกับรพ.ขนาดใหญ่ที่มีจำนวนผุ้จองมาก ลำดับการได้รับก็อาจจะต้องทอดเวลาออกไปอีก

อีกกลุ่มคือ ผู้ที่ประสงค์จะใช้วัคซีนโมเดอร์นาเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3 ซึ่งเป็นการใช้วัคซีนที่สมเหตุผล (จากคำแนะนำของแพทย์ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้) ถึงแม้ว่าจะมีตัวอย่างน้อยมากในโลกกับการใช้วัคซีนโมเดอร์นาเป็นเข็มกระตุ้นตามหลังวัคซีนชนิดอื่นๆ  (แม้ว่าล่าสุด CDC สหรัฐ เพิ่งจะรับรองให้มีการฉีดโมเดอร์นาเป็นเข็มที่่ 3 ได้ในสหรัฐแล้วก็ตาม)

จากการต้องใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ตามหลังวัคซีนชนิดอื่นๆ กอปรกับ ทางการไทยได้มีการจัดสรร และปรับสูตรการฉีดวัคซีน ในหลายสูตรในช่วงเวลา 4-5 เดือนที่ผ่านมา  ดังนั้นจึงมีคำถามมากมายจากประชาชนว่า ตนเองมีความเหมาะสมจะรับวัคซีนโมเดอร์นาหรือไม่ ต้องฉีดอย่างไร เว้นระยะห่างเป็นเวลานานเท่าใด ฯลฯ  

รพ.หลายแห่งได้ ทำรายละเอียดเพื่อตอบคำถามนี้ ซึ่งเรารวบรวมมาไว้ให้ดังนี้