ถาม : ที่แถลงข่าวกันเมื่อวานนี้ความชัดเจนคือยังไงครับพี่น้องประชาชนสามารถปลูกกัญชาที่บ้านได้เลยหรือเปล่าคะ
ตอนนี้ยังไม่ได้นะครับ ยังเป็นการรอเวลาอย่างที่ท่านพิธีกรบอกนั่นแหละว่า ต้องรอวันที่ 25 ที่จะมีการประชุมกันนะครับว่า ประกาศกฏกระทรวงที่จะระบุรายชื่อประเภทยาเสพติด ที่เราเอากัญชาออกจะประกาศกระทรวงนะครับจะมีผลหรือไม่ เราก็คงต้องวิงวอนและเอาใจช่วย แนะนำว่าคณะกรรมการ ปปส. จะอนุญาตหรืออนุมัติหรือเปล่านะครับ
เมื่ออนุญาตอนุมัติแล้ว ก็จะกลับมาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีอำนาจ ลงนามอีกหนึ่งครั้ง
ถาม : สมมุติว่าถ้าเรามองไปสัปดาห์หน้า ถ้าผ่านปปส.ไปได้ การปลดล็อครอบนี้จะปลดล็อคทุกส่วนกัญชาเลยหรือไม่ครับ
ปลดล็อคทุกส่วนครับ เพียงแต่ว่าเรากำลังคุมแค่สารเมา ก็คือสาร THC ที่เกิน 0.2% จริงๆ แล้วการที่ทุกคนพยายามจะบอกว่าเสรีเนี่ย มันคือการที่ไม่ต้องขออนุญาตเลย หรือไม่ต้องขอการจดแจ้งใดๆ ซึ่งในความเป็นจริง
"ไม่มีประเทศใดบนโลกที่มีความเสรี ที่ไม่ต้องขออนุญาต"
ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ คือเราต้องการที่จะให้ออกจากกฎหมายยาเสพติด ที่แบ่งเป็นประเภทๆ เราไม่เอา เราบอกว่า เราจะมาควบคุมกำกับ ในเรื่องของกัญชากันชงแยกออกมาต่างหาก
การที่แยกออกมาต่างหากมันมีข้อดีนะครับ เพราะว่าที่เราทำเรื่องของการแพทย์ เรื่องการเข้าถึง ทุกคนจะเจอปัญหาเดียวกันหมดเลย ก็คือว่าขอปลูกที่บ้าน ใช้รักษาคนไข้แล้วก็ถูกจับ
อยากจะปลูกเล่น พื้นที่ว่างว่างก่อนบอกจีหลังคอนโดหรือหลังอื่นที่ว่างว่างนี้อยากจะปลูกอย่างเนี่ยค่ะถามจริงแล้วได้ไหม
คำตอบคือถ้าในสมัยก่อนปี 2522 ปลูกได้ก็จริง แต่ว่าในสมัยนั้นในนั้นตอนนั้นยังไม่มีระบบการขออนุญาต ปัจจุบันเองก็คิดว่าคงจะเป็นเรื่องการจดแจ้งเสียมากกว่า
ผมต้องให้ข้อมูลอย่างนี้ครับว่า
"ไม่มีประเทศไหนเลยนะครับ ที่ขนาดเสรีว่าเป็นแบบนันทนาการ ที่สูบเพื่อสนุกหรือสูบเพื่อการแพทย์ที่ไม่ต้องขออนุญาต"
แต่เราจะแบ่งเป็นแบบนี้ครับว่าการขออนุญาตในเชิงของพื้นที่เล็ก หรือพื้นที่ที่เป็นแบบใหญ่เลยตามระดับอุตสาหกรรม เราต้องแบ่งแยกกันโดยชัดเจน เพื่อจะให้การขออนุมัติในการดำเนินการเนี่ยมันง่าย และไม่เป็นไปตามประเภทของยาเสพติดประเภท 5 อื่นๆ ที่ยังถูกล็อกอยู่
ขยายความนิดหนึ่งว่า เราอยู่กับนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์มาสองถึงสามปี เราเห็นได้เลยว่า กฎหมายที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เราเข้าถึงทางการแพทย์ได้อย่างเสรีจริงๆ
อันที่สองคือการปลูกเพื่อบอกว่า เราอยากจะทำพืชเศรษฐกิจ แต่ว่าต้องขออนุญาตยากเย็นมาก ต้องล้อมรั้ว ต้องมีกล้องวงจรปิด หรือต้องเป็นภาครัฐอย่างเดียว ขณะที่ยังไม่มีการพัฒนาตำรับยาที่สามารถขึ้นทะเบียนได้ แล้วส่งออกได้ เหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญ
เนื่องจากพื้นฐานของตัวของกฎหมาย มีไว้เฉพาะเรื่องการป้องกันและปราบปราม แต่ไม่ได้เอามาใช้เพื่อส่งเสริมในการที่จะเข้าถึงทางการแพทย์ หรือส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ
อันนี้ต่างหากครับที่กำลังจะบอกว่า เรากำลังใช้กฏหมายนี้ มาบังคับทุกอย่างคงไม่ใช่ เราคิดว่าถ้าออกจากกฏหมายบัญชียาเสพติดแล้ว เราอาจจะต้องมี พรบ.ในการควบคุม กำกับ ดูแล เมื่อนั้น เรื่องของการขออนุญาตการจดแจ้ง หรือการทำให้เกิดเป็นเพื่อเศรษฐกิจ ก็จะง่ายมากขึ้น จะเข้าถึงได้มากขึ้น การปลูกในระดับครัวเรือน หรือใช้รักษาตนเองก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น