ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี

ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี HealthServ.net

ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี

ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี ThumbMobile HealthServ.net
ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี HealthServ
ค่ารักษา
 
  1. ล้างลำไส้ / 1 ครั้ง
  2. ล้างลำไส้ / คอร์ส 3 ครั้ง
  3. ล้างลำไส้ / คอร์ส 5 ครั้ง
  4. ล้างลำไส้ / คอร์ส 10 ครั้ง
     
 หากคุณกำลังมีปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก ท้องอืด ท้องเฟ้อ อึดอัดท้อง และผายลมบ่อย นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า “ลำไส้ของคุณกำลังมีปัญหา” เพราะมีของเสียและสารพิษคั่งค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งการขับถ่ายตามธรรมชาติก็ยังไม่สามารถขับออกมาได้ทั้งหมด และถ้าร่างกายสะสมสารพิษต่อไปเรื่อย ๆ ก็อาจก่อให้เกิดอาการผิดปกติตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงโรคร้ายแรงต่าง ๆ ได้ อาทิ โรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี HealthServ
 ทำไมต้องทำ “ดีท็อกซ์”
การรับประทานอาหารประเภทแป้งขัดขาว น้ำตาล เนื้อสัตว์ ไขมัน เมื่อผ่านการย่อยจะไม่เหลือกากอาหารเพียงพอให้ถูกขับออกจากร่างกาย จนนานวันสิ่งที่เหลือจากการย่อยจะมีสภาพเหนียวหนับ เกาะเป็นตะกรันบนผนังลำไส้ใหญ่ จนเกิดเป็นของเสียและสารพิษที่คั่งค้างอยู่ในร่างกาย ปิดกั้นการดูดซึมสารอาหาร รวมถึงกีดขวางไม่ให้ผนังลำไส้ขับสารหล่อลื่นออกมา เมื่ออุจจาระถูกขัดขวางจนเคลื่อนตัวได้ไม่สะดวกจึงคั่งค้างอยู่ภายในลำไส้ เป็นจุดเริ่มต้นของ “อาการท้องผูก” และส่งผลให้เกิดอาการและความเจ็บป่วยต่าง ๆ ตามมา จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาวิธีที่มีประสิทธิภาพอย่าง “การทำดีท็อกซ์” เพื่อล้างคราบตะกรันที่เกาะผนังลำไส้ และช่วยล้างพิษที่สะสมในลำไส้ออกไป เป็นวิธีการล้างทั่วทั้งลำไส้ใหญ่ โดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่เรียกว่า เครื่องล้างลำไส้ (Colonic) ซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิ แรงดัน และปริมาณของน้ำได้ การทำดีท็อกซ์ด้วยเครื่องนั้น ควรทำในสถานพยาบาลที่มีเครื่องล้างลำไส้เท่านั้น โดยระหว่างขั้นตอนการทำจะมีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล โดยการสวนล้างลำไส้ หรือ การทำดีท็อกซ์ เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก ปลอดภัย แถมมีประสิทธิภาพมากกว่าการสวนล้างด้วยตัวเองหลายเท่า
 
 
ทำดีท็อกซ์ ปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก
  • ก่อนทำ ไม่ต้องอดอาหาร หรือ กินยาระบาย แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย วัดความดันเพื่อประเมินสภาพร่างกาย หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • การทำดีท็อกซ์จะทำในห้องที่มิดชิด ผู้มารับบริการจะนอนบนเตียงล้างลำไส้ซึ่งมีโถรองรับของเสียที่จะกำจัดออก เริ่มจากสอดหลอดสวนทวารที่เคลือบสารหล่อลื่น (หลอดปลอดเชื้อ ใช้ครั้งเดียวทิ้ง) เข้าทางทวารหนักลึกประมาณ 2 นิ้ว
  • ใช้น้ำยาสวนปริมาณ 25 ลิตร เครื่องจะปรับอุณหภูมิน้ำยาให้เท่ากับลำไส้ และฆ่าเชื้อในน้ำยาก่อนส่งเข้าลำไส้ เมื่อหลอดสวนทวารถูกสวนเข้าไปทางทวารหนักแล้ว จึงจะเริ่มเปิดน้ำอุ่นเข้าสู่ลำไส้อย่างช้า ๆ เพื่อให้ลำไส้ค่อย ๆ ปรับสภาพรับน้ำยาที่ไหลเข้าไป
  • ช่วงแรก ผู้มารับบริการอาจรู้สึกอยากถ่าย ควรกลั้นไว้ก่อนประมาณ 5-10 วินาที เมื่อรู้สึกปวดเบ่งอยากถ่ายให้ถ่ายออกมาได้เลย ในระหว่างนั้นผู้ให้บริการจะช่วยนวดหน้าท้องเพื่อให้คราบตะกรัน หรือเศษอุจจาระที่เคลือบจับอยู่ตามผนังด้านในของลำไส้เคลื่อนออกได้ดีขึ้น
  • การสวนล้างลำไส้ด้วยเครื่องล้างลำไส้จะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที และควรนอนพักต่ออีกประมาณ 5-10 นาที เพื่อขับถ่ายส่วนที่เหลือค้างอยู่ในลำไส้ออกให้หมดแล้วจึงค่อยทำความสะอาดร่างกาย

 ควรทำ “ดีท็อกซ์” บ่อยแค่ไหน
สำหรับผู้ที่ขับถ่ายปกติควรทำ 1 เดือน/ประมาณ 3 ครั้ง ถ้าสุขภาพปกติแต่มีอาการท้องผูก ควรทำ 1-2 สัปดาห์/ประมาณ 3 ครั้ง แต่หากถึงขั้นท้องผูกเรื้อรังแล้ว ควรทำดีท็อกซ์ต่อไปเดือนละครั้งจนกว่าอาการท้องผูกจะดีขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลเกี่ยวกับอาหารที่รับประทาน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันเพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพลำไส้ และเพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
 
 
ดีท็อกซ์ สวนล้างลำไส้…กำจัดของเสียและสารพิษ โรงพยาบาลยันฮี HealthServ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด