ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

บอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ เห็นชอบ 4 แนวทางเปิดท่องเที่ยว

บอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ เห็นชอบ 4 แนวทางเปิดท่องเที่ยว HealthServ.net
บอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ เห็นชอบ 4 แนวทางเปิดท่องเที่ยว ThumbMobile HealthServ.net

บอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ เห็นชอบ 4 แนวทางเปิดท่องเที่ยว

 "อนุทิน" ประชุมบอร์ดขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ เห็นชอบ 4 แนวทางสร้างรายได้ปลอดภัยจากโควิด 19
ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพนัดแรก เห็นชอบในหลักการลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน การกักกันในสนามกอล์ฟ การท่องเที่ยวแบบ Exclusive Travel Area กักตัวในพื้นที่เฉพาะ 14 วันโดยให้ท่องเที่ยวในเส้นทางที่กำหนด
 
 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพนัดแรก เห็นชอบในหลักการ
  1. ลดวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน
  2. การกักกันในสนามกอล์ฟ
  3. การท่องเที่ยวแบบ Exclusive Travel Area กักตัวในพื้นที่เฉพาะ 14 วันโดยให้ท่องเที่ยวในเส้นทางที่กำหนด
  4. เปิดสนามบินเพิ่ม 17 แห่ง ด่านบก 2 แห่งและด่านน้ำ 2 แห่ง

    รองรับต่างชาติเข้ามารักษาและท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยยังคงมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ประชาชนมีความปลอดภัย เตรียมเสนอ ศบค.
 
          วันนี้ (22 ตุลาคม 2563) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ ภายใต้นโยบายการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ครั้งที่ 1/2563 โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ปลัดกระทรวง อธิบดี และผู้บริหารจาก 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม
 
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพฯ ครั้งแรก หลังได้รับการแต่งตั้งตามมติคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) เพื่อกำหนดกรอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อให้รายได้กระจายไปสู่ผู้ประกอบการภายในประเทศ และคงความปลอดภัยของประชาชน
 
          นายอนุทินกล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการด้านการส่งเสริมสุขภาพ อาทิ
  • การลดจำนวนวันกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วันตามข้อเสนอของกรมควบคุมโรค
  • การดำเนินงานสถานกักกันในสนามกอล์ฟ (Golf Quarantine)
    ซึ่งเป็นสถานกักกันในกิจการเพื่อสุขภาพกลุ่มที่ 3 ต่อจากกลุ่มสปาทางการแพทย์/รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ/สปารีสอร์ท และกลุ่ม Long Term Care สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีชาวต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมาก โดยมีมาตรการเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา คือ ต้องมีการนัดหมายจองสถานที่ล่วงหน้า มีผลตรวจปลอดเชื้อโควิด 19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ระหว่างกักตัว 14 วัน มีการตรวจคัดกรอง 3 ครั้ง จัดระบบการเล่นกอล์ฟ ต้องยึดหลักเว้นระยะห่าง การทำความสะอาดยานพาหนะ อุปกรณ์ และสถานที่ คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 1 แสนบาทต่อราย 
     
  • นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการท่องเที่ยวแบบ Exclusive Travel Area (ETA)
    โดยให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกักกันตัวในพื้นที่เฉพาะ (Area Quarantine) และสามารถท่องเที่ยวในช่วงเวลากักตัว 14 วัน ได้ในเส้นทางที่กำหนด ซึ่งจะนำร่องในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ 6 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต เชียงราย บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี และกระบี่ โดยคัดเลือกนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศหรือเมืองที่มีความเสี่ยงต่ำ มีระบบการจัดการระบาดของโรคโควิด 19 ที่ดี มีผลการตรวจว่าปลอดเชื้อโควิด 19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง ผ่านการกักกันตนเองที่บ้านก่อนเดินทางในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อถึงประเทศไทยมีการคัดกรองและตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโควิด 19 จำนวน 3 ครั้ง โดยจะจัดให้มีสายการบินตรงไปยังพื้นที่  มีระบบ Seal นักท่องเที่ยวและกำหนดเส้นทางท่องเที่ยวไว้ เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการในจังหวัด ที่พัก ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยว สถานพยาบาลต้องความพร้อมในการรักษา และมีระบบการติดตามตัว
     
  • รวมทั้งเห็นชอบหลักการเปิดสนามบินนานาชาติและสนามบินในประเทศเพิ่มเติม จำนวน 17 แห่ง ได้แก่
    • ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง-พัทยา)
    • ท่าอากาศยานสมุย 
    • ท่าอากาศยานภูเก็ต 
    • ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 
    • ท่าอากาศยานตราด 
    • ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน
    • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย 
    • ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี 
    • ท่าอากาศยานอุดรธานี 
    • ท่าอากาศยานขอนแก่น 
    • ท่าอากาศยานกบินทร์บุรี 
    • ท่าอากาศยานพิษณุโลก 
    • ท่าอากาศยานแม่สอด 
    • ท่าอากาศยานระนอง 
    • ท่าอากาศยานนครพนม 
    • ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ 
    • ท่าอากาศยานหาดใหญ่

    เปิดด่านทางบกเพิ่ม 2 แห่ง ได้แก่ ด่านบ้านแหลม และด่านบ้านหาดเล็ก เพื่อมาจังหวัดจันทบุรี และ

    ด่านทางน้ำ 2 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง  จ.ชลบุรีและระยอง และท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคอื่นและเข้ามาท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น

    โดยให้เปิดศูนย์บริการข้อมูลสุขภาพ (Counter Service) ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและผู้ติดตามชาวต่างชาติ
  • เห็นชอบการเตรียมจัดงาน Thailand Health Expo เพื่อแสดงศักยภาพของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทั้งในรูปแบบ Virtual และ on site
  • ตลอดจนการพิจารณาให้จัดหาสายการบินเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับผู้ป่วยและผู้ติดตามประมาณ 2700 ราย เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาลใน Alternative Hospital Quarantine

    โดยทั้งหมดจะเสนอ ศบค.เพื่อพิจารณาต่อไป
 
รัฐบาลไทย
22 ตุลาคม 2563
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด