ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

คกก.ป.ป.ส.มีมติปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

คกก.ป.ป.ส.มีมติปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ HealthServ.net
คกก.ป.ป.ส.มีมติปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ThumbMobile HealthServ.net

25 ม.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สรุปมติคณะกรรมการ ป.ป.ส.ที่เห็นชอบในการปลดล็อกกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 แต่ให้มีผลบังคับใช้ 120 วัน

 

"สรุปมติ คณะกรรมการ ป.ป.ส.
เห็นชอบตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด แต่ให้มีผลบังคับใช้ 120 วัน นับตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อไม่เกิดช่องว่างทางเวลา เพื่อรอให้มีพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง ในการควบคุมดูแลให้ได้อย่างเหมาะสมต่อไป"


***

TNN Thailand 25 ม.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ปปส.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเสนอให้พิจารณา โดยร่างประกาศ ดังกล่าวได้ระบุชื่อยาเสพติดเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1.ฝิ่น 2.เห็ดขี้ควาย และ 3.สารสกัดจากกัญชา กัญชง ที่มีค่า THC กว่า 0.2% หลังจากนี้ ป.ป.ส.จะนำผลการประชุมไปยืนยัน แล้วส่งมาให้ รมว.สาธารณสุข ลงนาม ก่อนประกาศบังคับใช้ในราชกิจจาณุเบกษาตามกระบวนการกฎหมาย หลังลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ส่วนที่ 1-2 มีผลทันทีเพราะมีโทษชัดเจน แต่ในส่วนที่ 3 หรือสารสกัดจากกัญชา มีผลบังคับหลังจากประกาศราชกิจจาฯ 120 วัน
 
"ขอให้ท่านนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อตัวท่าน กรุณาไม่นำไปใช้ให้เกิดโทษ หลังจากประกาศในราชกิจจาฯ 120 วัน เราจะมีการกำหนดทิศทางการใช้กัญชา การปลูกตามบ้าน จะทำได้ด้วยการจดแจ้ง เป็นการแจ้งเพื่อทราบ ไม่ใช่การอนุญาต จะไม่มีการขัดขวาง ขอเพียงอย่านำไปใช้ในทางที่ผิด" นายอนุทิน กล่าว
 
สิ่งที่ภาครัฐจะต้องดำเนินการคือ การวางกฎ ตีกรอบการใช้สารสกัดจากกัญชา กัญชง เพื่อควบคุมการใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน ทั้งในเรื่องการแพทย์ การวิจัย การศึกษา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขกำลังจะเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชาและกัญชง เข้ามากำกับการใช้กัญชา และกัญชง



กรุงเทพธุรกิจ 25 ม.ค. 2565  รายงาน ถึง การเสนอร่าง พรบ.กัญชา-กัญชง ว่า นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ว่า  ในวันที่ 26 ม.ค.2565 พรรคภูมิใจไทย(ภท.) จะเสนอ(ร่าง)พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ซึ่งถือเป็นฉบับประชาชนต่อสภา เพื่อออกมารองรับการควบคุมการใช้กัญชา กัญชง จะได้ไม่ต้องไปตีความเรื่องการบังคับใช้อีก เพราะมีความเห็นต่างว่าประมวลกฎหมายยาเสพติดใหญ่กว่าประกาศฉบับนี้ เพราะต้องใช้เวลาตีความอย่างน้อย  6 เดือน - 1 ปี  จึงออกพ.ร.บ.ใหม่มาควบคุมจะเร็วกว่า ส่วนช่วงรอยต่อที่พ.ร.บ.กัญชา กัญชงยังไม่ออก ก็อย่าใจร้อน ขอให้ชะลอการปลูกในครัวเรือนไว้ก่อน แต่ถ้าจะปลูกช่วงนี้ก็ทำในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน แต่หากมีพ.ร.บ.กัญชา กัญชงออกมา แล้วอยากปลูกในบ้าน ก็แค่ไปจดแจ้ง
 
      สำหรับ(ร่าง)พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับที่พรรคจะยื่นต่อสภานั้น เมื่อราก ต้น ใบ ดอก ที่มีสาร THC น้อยกว่า 0.2% โดยน้ำหนัก ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายอีกต่อไป หากจะปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน ต้องมาจดแจ้ง หากจะสกัด แปรรูปต้องมาขออนุญาต รวมถึง การใช้ในครัวเรือนต้องทำอย่างไรจึงไม่ผิด ซึ่งคงจะรวมในเรื่องนันทนาการไปด้วย แต่หากจะเอามาเสพเพื่อให้เกิดฤทธิ์ต่อจิตประสาทไม่ได้แน่นอน


แนวทางป้องกันนักสูบหน้าใหม่อย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงเมื่อปลดกัญชาพ้นยาเสพติดจะมีแนวทางป้องกันนักสูบหน้าใหม่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า  ตนไม่พูดกับคนผิด ทำให้มันถูก ใครทำผิดก็เสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของประชาชนที่มีความกังวล ต้องชี้แจงว่าทำตามนโยบายของรัฐบาล กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผ่านกระบวนการ ผ่านคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ก็ต้องยึดกติกา กฎหมาย 
 
      “พรรคภูมิใจไทยเข้ามาได้ก็กัญชา ก็ต้องทำตามนโยบายที่พรรคสัญญาไว้ ก็ทำหมดแล้วนี่มันทะลุซอยแล้ว ” นายอนุทิน กล่าว
 
     ถามว่า(ร่าง)พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับ อย.ยกร่างต้องเสนอประกบหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การเสนอร่างกฎหมายฉบับพรรคต่อสภา จะเป็นช่องทางที่เร็วกว่าการเสนอโดย อย. ซึ่งก็จะพยายามเร่งให้ทันภายใน 120 วันทัน 
คกก.ป.ป.ส.มีมติปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ HealthServ
ก่อนการมีมติของ คณะกรรมการ ป.ป.ส. ปลดล็อกการนำกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 นั้น นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เผยแพร่ข้อมูลน่าสนใจ เป็นเหตุผลที่กัญชานั้น สมควรจะได้รับการยกออกจากบัญชียาเสพติดอย่างไร 


โค้งสุดท้าย กับการปลดล็อก “กัญชา” เป็นยาเสพติด

เรียน คณะกรรมการ ป.ป.ส.
 
จากผลการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ที่ได้ลงมติ 28 ต่อ 3 เสียง เห็นชอบให้กำหนดประเภทบัญชียาเสพติดเฉพาะ “สารสกัด” ที่ THC ที่เกินร้อยละ 0.2 เท่านั้นให้เป็นยาเสพติด (แต่ถึงแม้ สารสกัดจะมี THC เกินกว่าร้อยละ 0.2 เป็นยาเสพติดแต่ก็ยังมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการวิจัยได้) อีกทั้งยังเป็นแนวทางเดียวกันกับองค์การอนามัยโลกที่เสนอต่อองค์การสหประชาชาติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 ด้วย จึงขอให้ท่านพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมติในการให้ข้อเสนอแนะของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
 
ประการแรก ผลการศึกษาเชิงระบาดวิทยาตีพิมพ์ในวารสาร Drug and alcohol Depedence เมื่อปี 2554 พบว่า กัญชานั้น เสพติดยากกว่าเหล้าและบุหรี่อย่างชัดเจน แต่เหล้าและบุหรี่กลับไม่อยู่ในประเภทยาเสพติด แถมเหล้าและบุหรี่ยังสามารถขายได้ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ 
[sciencedirect.com]
 
ประการที่สอง เหล้าและบุหรี่เป็นผลร้ายต่อสุขภาพ แต่กัญชามีสถานะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ช่วยทำให้นอนหลับ ลดความเครียด ทำให้เจริญอาหาร ลดอาการเกร็งชัก พาร์กินสัน และลดผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็ง ฯลฯ ดังนั้นการปลดล็อกกัญชาจะช่วยทำให้ประชาชนสามารถมีสุขภาพที่ดีและลดการพึ่งพาการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้อย่างมหาศาล
 
ประการที่สาม แม้ข้อเสียของกัญชาแม้จะมีอยู่จริง (หากใช้เกินพอดี) แต่ทุกสมุนไพรทุกชนิดในโลกต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งสิ้น แม้แต่พาราเซตตามอลซึ่งหาซื้อได้โดยทั่วไปหากบริโภคเกินก็เกิดโทษต่อตับอย่างมหันต์  หรือแม้แต่น้ำตาลที่คนเชื่อว่าปลอดภัยและบริโภคได้เสรี ก็มีโทษมากหากบริโภคเกินพอดีก็สามารถเกิดได้สารพัดเช่นกัน 
 
จึงไม่ได้หมายความว่าเพียงเพราะสมุนไพรชนิดใดชนิดหนึ่งมีข้อเสีย จะต้องทำให้เป็น “ยาเสพติด”ที่ต้องนำผู้ที่ใช้สมุนไพรเหล่านั้นมาติดคุกตารางเสมอไป  เราสามารถหาวิธีการควบคุม ให้ความรู้ ติดตามผล รณรงค์ เช่นเดียวกับมาตรการที่เคยใช้กับเหล้า โดยไม่ต้องให้เหล้าเป็นยาเสพติดแต่ประการใด
 
ประการที่สี่ มีคนออกมาแสดงความเห็นว่ากัญชาจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมเพิ่มขึ้นจากเดิม เช่น อุบัติเหตุ สมองของเยาวชนเสื่อม ฯลฯ คำถามก็คือ แล้วเราควบคุมเหล้าอย่างไร ทำไมไม่ทำให้เหล้าหายไปจากสังคม ทั้งในความเป็นจริงแล้วเหล้าทำให้เสี่ยงก่อให้เกิดความฮึกเหิม ทะเลาะวิวาท ฯลฯ ซึ่งตรงกันข้ามกับกัญชาทำให้หลับแล้ว อารมณ์ดี และกลัวการทะเลาวิวาท ดังนั้นถ้าใช้ตรรกะว่ากัญชาสร้างปัญหาให้กับสังคมและควรให้เป็นยาเสพติด แล้วเหตุใดเหล้าจึงไม่ใช่ยาเสพติด
 
ประการที่ห้า ช่วงปี 2562-2563 ผลการศึกษาศูนย์ศึกษาปัญหาการเสพตติดพบว่า ผู้ใช้กัญชาการแพทย์จานวนมาก ที่ได้รับกัญชาการแพทย์จากตลาดมืด ถึงร้อยละ 54.5 สาหรับทั่วประเทศ และภาค กลางกับภาคใต้สัดส่วนสูงถึง 77.8 และ 80.4 ตามลำดับ 
 
ซึ่งหมายความว่ากัญชาในระบบบริการของกระทรวง สาธารณสุขนั้นเข้าถึงยากกว่ากัญชาจากภายนอก และจะกลายเป็นปัญหาต่อสังคม ทั้งการไม่ยอมรับความจริงนี้จากภาครัฐอันจะส่งผลทำให้ขาดการตรวจสอบคุณภาพและราคาที่เหมาะสม อีกทั้งยังทำให้ขาดโอกาสในการได้รับความรู้และข้อมูลอย่างถูกต้อง 
 
นอกจากนั้นการปกปิดความจริงที่ว่ามีผู้ใช้กัญชาจำนวนมากอยู่ใต้ดิน ยังทำให้ประชาชนและผู้บริโภคไม่สามารถได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องหากได้รับผลกระทบ การปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดเท่านั้น จึงจะเป็นจุดเร่ิมต้นให้สิ่งที่ดีจากใต้ดินมาอยู่บนดิน และขจัดอันตรายจากผู้ฉวยโอกาสจากการไม่เข้าถึงกัญชาภาครัฐของประชาชนได้ 
[cads.in.th]
 
ประการที่หก ผลการศึกษาสถานการณ์การใช้กัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย เผยแพร่ในคลังข้อมูลด้านสุขภาพ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)ระบุชัดเจนความตอนหนึ่งว่า ผู้ใช้กัญชา ส่วนใหญ่ได้รับกัญชาจากแหล่งนอกระบบ (ใต้ดิน)  ด้วยเพราะเข้าถึงคลินิกกัญชาในระบบยาก โรคที่เป็นไม่ตรงกับข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข แสดงให้เห็นว่าหากยังคงให้กัญชาเป็นยาเสพติดต่อไป ยังอาจจะกระทบทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติ ความเหลื่อมล้ำต่อผู้ที่ใช้กัญชาและผู้ผลิตกัญชา อีกทั้งยังทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงของเจ้าหน้าที่รัฐได้
[kb.hsri.or.th]
 
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นผมจึงขอเรียกร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ส. ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อการปลดล็อกกัญชาครั้งนี้
ขอแสดงความนับถือ
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
25 มกราคม 2565 
คกก.ป.ป.ส.มีมติปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว - ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ HealthServ


*****

มติ คกก.ควบคุมยาเสพติด ปลดล็อก "กัญชา" พ้นยาเสพติด

วันนี้ 20 ม.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการเดินหน้ากำหนดทิศทางกฎหมายควบคุมยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เป็นต้นมา ซึ่งไม่มีการระบุชื่อ กัญชา และกัญชง ในประเภทของยาเสพติดให้โทษ
 
ดังนั้น ขั้นตอนแรก คือ การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามระบุในประมวลฯ จะพิจารณาเห็นชอบ หลังจากนั้นจึงออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามต่อไป
 
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยมี นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นประธานฯ ได้เห็นชอบ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. .... คือ สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis ยกเว้นที่ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ คือ ก.สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชง เฉพาะที่ได้จากการอนุญาตปลูกในประเทศ ในทุกส่วนที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% โดยน้ำหนัก และ ข.สารสกัดจากเมล็ดกัญชา กัญชง ที่ได้จากการปลูกในประเทศเช่นกัน
 
ล่าสุด ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด กำหนดให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการฯ ซึ่งได้มอบหมายให้ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมฯ โดยมีวาระเพื่อพิจารณาที่สำคัญ คือ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. .... โดยองค์ประชุมประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานจากหลายภาคส่วน อาทิ อธิบดีจากทุกกรมของกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) นายกสภาการแพทย์แผนไทย นายกสภาเภสัชกรรม และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่ง รมว.สาธารณสุข แต่งตั้งจำนวน 10 คน จากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ ในจำนวนนี้ให้แต่งตั้งจากภาคเอกชน ไม่น้อยกว่า 3 คน
 
มติในที่ประชุมเห็นชอบตรงกันในร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อไป คือ การยกร่าง เสนอต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(คณะกรรมการ ป.ป.ส.) เห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งจะมีการประชุมกันในวันอังคารที่ 25 ม.ค. 2565 เวลา 13.00-14.00 น. นี้

ThaiPBS
20 มกราคม 65
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด