ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา

สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา HealthServ.net

สธ.การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร จากทวีปแอฟริกา

สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา ThumbMobile HealthServ.net
สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา HealthServ
กรมควบคุมโรค ออกประกาศ ปรับมาตรการ ป้องกันควบคุมโรค สำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรจากทวีปแอฟริกา  ฉบับวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564  จำแนกเป็น 2 กรณี หลัก ได้แก่ 
  1. ผู้เดินทางที่มีประวัติพำนัก หรือเดินทางไปยัง "ประเทศในทวีปแอฟริกา 8 ประเทศ"
  2. ผู้เดินทางที่มีประวัติพำนัก หรือเดินทางไปยัง "ประเทศในทวีปแอฟริกา" (นอกเหนือจาก 8 ประเทศ)

ทั้ง 2 กรณี จำแนกรายละเอียด ตามประเภทการขออนุญาต เดินทางเข้า  2 รูปแบบ คือ "Sandbox" และ "แบบกักตัวในสถานกักกัน"  ทั้ง 2 แบบมีเงื่อนไขร่วม และเงื่อนไขเฉพาะ กำกับไว้  ดังรายละเอียดด้านล่าง

การขอเดินทางเข้าประเภท "Test and Go"  ไม่มีการอนุญาต ตามประกาศของ ศปก.กต.



 

กรณี ที่ 1  ผู้เดินทางที่มีประวัติพำนัก หรือเดินทางไปยังประเทศในทวีปแอฟริกา 8 ประเทศ ในช่วง 21 วัน ก่อนเข้า ราชอาณาจักรไทย

ได้แก่ Botswana / Eswatini / Lesotho / Malawi / Mozambique / Namibia / South Africa / Zimbabwe
 

เงื่อนไขร่วม

สำหรับผู้เดินทาง ทั้งแบบ Sandbox และ กักตัวในสถานกักกัน 
  • ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 28 ผฤศจิกายน 2564 ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 3 ครั้ง ในวันที่ 0-1, 5-6 และ 12-13
  • ไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 (ยกเว้นผู้ที่มีสัญชาติไทย)
  • ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564
 
 
เงื่อนไขเพิ่มเติม กรณี "Sandbox"
ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564
 
  • ให้ จพต.ติดตามคุมไว้สังเกต จนครบ 14 วัน และติดตามมาตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR วันที่ 6 -14 ขึ้นกับจำนวนวันที่เข้าราชอาณาจักร
 
 
เงื่อนไขเพิ่มเติม กรณี "กักตัวในสถานกักกัน" 
ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564
 
  • กรณียังกักตัวในสถานที่กักกัน ให้ จพต.สั่งกักตัวต่อจนครบ 14 วันและตรวจหาเชื้อด้วยวิธีRT-PCR ในวันที่ 12-13
  • กรณีออกจากสถานที่กักกันแล้ว แต่ยังไม่ครบ 14 วัน ให้ จพต.ติดตามคุมไว้สังเกต จนครบ 14 วัน และตรวจเชื้อด้วยวิธี RT - PCR ในวันที่ 12-13
 
 
 
 
สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา HealthServ

 

2.ผู้เดินทางที่มีประวัติพำนัก หรือเดินทางไปยัง "ประเทศในทวีปแอฟริกา" ในช่วง 21 วัน ก่อนเข้าราชอาณาจักรไทย (นอกเหนือจาก 8 ประเทศ)

เงื่อนไขร่วม
ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทย ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2564 ให้เข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วัน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR 3 ครั้ง วันที่ วันที่ 0-1, 5-6 และ 12-13
 
 
เงื่อนไขเพิ่มเติม กรณี "Sandbox"
ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทย ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2564
 
  • ให้ จพต.ติดตามคุมไว้สังเกตจนครบ 14 วัน หรือตามจำนวนวันที่พำนักกรณีน้อยกว่า 14 วัน กรณีมีอาการให้ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR
  • ไม่อนุญาตให้ลงทะเบียนเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564
 
 
เงื่อนไขเพิ่มเติม กรณี "กักตัวในสถานกักกัน" 
ผู้เดินทางที่เข้ามาถึงไทย ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2564
 
  • กรณีครบกักตัวตามกำหนดแล้ว ให้ จพต. ติดตาม คุมไว้สังเกตจนครบ 14 วัน กรณีมีอาการให้ ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR
 
 
สธ.ปรับมาตรการ กรณี ผู้เดินทางจากทวีปแอฟริกา HealthServ

สธ. ประสานเครือข่ายควบคุมโรคระดับเขตเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาใต้ หากพบติดเชื้อ ให้ส่งตรวจแยกสายพันธุ์ เพื่อป้องกันควบคุมโรคทันท่วงที

 
       กระทรวงสาธารณสุข ประสานเครือข่ายการควบคุมโรคระดับเขต เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศแอฟริกาใต้ที่เดินทางเข้ามาแล้ว หากพบติดเชื้อให้ส่งตรวจแยกสายพันธุ์ เพื่อติดตามสถานการณ์และป้องกันควบคุมโรคได้ทันท่วงที ย้ำประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังที่มีมาตรฐานระดับโลก ส่วนประชาชนขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ปลอดภัยจากทุกสายพันธุ์
 
        วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ในประเทศไทย ว่า วันนี้มีผู้ป่วยรักษาหาย 6,165 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,753 ราย และเสียชีวิต 27 ราย แนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง ส่วนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ข้อมูลถึงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ฉีดแล้ว 92,360,417 โดส เข็มที่ 1 ครอบคลุม 66% ของประชากร ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน นอกจากทวีปแอฟริกา 8 ประเทศ ได้แก่ นามิเบีย ซิมบับเว บอตสวานา เลโซโท เอสวาตินี โมซัมบิก แอฟริกาใต้ มาลาวี มีรายงานพบในทวีปยุโรป ได้แก่ อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ เบลเยียม สาธารณรัฐเช็ก และเดนมาร์ก ทวีปเอเชียพบใน ฮ่องกง และอิสราเอล และทวีปออสเตรเลีย พบในประเทศออสเตรเลีย

 
 
       ส่วนประเทศไทยยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าว ซึ่งจากรายงานของผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้ พบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มักมีอาการเล็กน้อย บางรายมีอาการน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา โดยขณะนี้มีหลายประเทศปรับมาตรการเข้าประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ห้ามชาวต่างชาติจาก 8 ประเทศในแอฟริกาใต้ รวมทั้งหมู่เกาะเซเชลส์ เข้าประเทศ นอกจากนี้ ยังมีอังกฤษ สหภาพยุโรป สหภาพอเมริกา แคนาดา อิสราเอล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น อิหร่าน บราซิล สิงคโปร์ ซึ่งแต่ละประเทศมีมาตรการที่แตกต่างกันออกไป
 
         นายแพทย์เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยหลังเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามารวม 122,398 ราย แยกเป็นรูปแบบ Test and Go 96,970 ราย Sand box 20,331 ราย และระบบกักตัว 5,097 ราย พบผู้ติดเชื้อรวม 160 ราย คิดเป็น 0.13% โดยประเทศที่เดินทางเข้ามามากที่สุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น รัสเซีย ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศมากขึ้น โดยประสานเครือข่ายการควบคุมโรคระดับเขตติดตามนักท่องเที่ยวจาก 8 ประเทศแอฟริกาใต้ที่เข้ามาก่อนหน้านี้ หากพบการติดเชื้อจะส่งตรวจแยกสายพันธุ์เพื่อให้รู้สถานการณ์และควบคุมโรคทันท่วงที
 
       “ในการเฝ้าระวังเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ประเทศไทยมีระบบที่เป็นมาตรฐานระดับโลก มีการตรวจหาเชื้อในจำนวนที่เพียงพอ และส่งไปศูนย์ข้อมูลสากล ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบเฝ้าระวัง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะช่วยให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิดได้ทุกสายพันธุ์” นพ.เฉวตรสรรกล่าว
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด