ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ฝันอยากหายปวดใบหน้าจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ทำงานผิดปกติ

เมื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องเป็นเรื่องจริง ใช่เพียงฝัน ปวดใบหน้าจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ทำงานผิดปกติ รักษาหายได้จากการผ่าตัด

ฝัน...อยากหายปวด หลุดพ้นจากความทรมาน
เมื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง  เป็นเรื่องจริง ใช่เพียงฝัน
“ปวดใบหน้าจากเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 ทำงานผิดปกติ”  
รักษาหายได้... จากการผ่าตัด
 
  เมื่อไหร่จะหายปวด ? อาจเป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในใจของ คุณวนิดา ทะวรรณา  นักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชน  ชั้นปีที่ 2 วัย 20 ปี  ที่ตลอด 2 ปี ต้องทรมานกับอาการปวดที่แก้มข้างซ้าย ลักษณะเหมือนปวดฟันพบทันตแพทย์หลายที่ไม่หาย คุณวนิดาเล่าว่า  “เริ่มปวดมาตั้งแต่ ปวช.3 ปวดที่กรามข้างซ้ายมาจนถึงปีกจมูก จะเคี้ยวข้าวก็ปวดแม้แต่ขยับปากก็ปวด ต้องกินยาแก้ปวดตลอดเวลา ตอนนั้นคิดว่าคงเป็นอาการปวดที่มาจากการปวดฟัน พอไปหาหมอ ก็มุ่งหน้าไปหาหมอฟันเลย ไปหาหมอฟัน 4 ที่ ที่แรกเริ่มจากการเคลียร์ช่องปากอย่างเดียว คลินิกที่ 2 เอกซเรย์แล้วพบปัญหาที่รากฟันชนกัน คลินิกที่ 3 พบรากฟันด้านหน้าเป็นหนอง ซี่ติดกันก็เป็นฟันคุดเลยตัดสินใจถอนซี่ที่รากฟันเป็นหนองตามที่หมอแนะนำ แต่ก็ยังไม่หาย ไปคลินิกที่ 4 ผ่าฟันคุดที่นี่ หยุดเรียน 3 สัปดาห์ ถึงกับหยอดน้ำข้าวต้ม สุดท้ายอาการไม่ดีขึ้นเลย” แต่แล้วความคิดเรื่องการรักษาของคุณวนิดา เริ่มเปลี่ยนจากคลินิกทันตกรรมทั่วไป เป็นโรงพยาบาลบ้าง ซึ่งเธอบอกว่า 


 “ยังคงพบแพทย์ด้านทันตกรรม เพราะอาการที่ปวดมันปวดที่แก้ม ปวดที่กราม ปวดฟันแน่ ยังไงก็ต้องรักษาฟัน ที่ผ่านมาอาจเป็นเพราะคลินิกทั่วไป ถ้าเป็นโรงพยาบาลเครื่องมือที่พร้อมกว่า จะต้องเจอสาเหตุ  จึงไปพบหมอที่โรงพยาบาลแทน เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง   ผลคือต้องรักษารากฟันเหมือนเดิม ไปรักษาตามจำนวนครั้งที่หมอนัด สุดท้ายพอหมดฤทธิ์ยาอาการปวดไม่ได้หายไป  การทำทุกอย่างเกี่ยวกับการรักษาช่องปาก ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ ไม่ว่าจะรักษารากฟัน ถอนฟันคุด อาการปวดบริเวณแก้มข้างซ้ายของคุณวนิดา ไม่ได้ลดลงทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ ระบบประสาท เธอจึงเริ่มค้นหาข้อมูลใหม่   


 “ถ้าปวดแบบนี้แต่ฟันก็ไม่ใช่ เลยนึกถึงระบบประสาท เปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ ซึ่งข้อมูลหลายที่ยืนยันว่า อาการที่เราเป็นอยู่เกี่ยวกับระบบประสาท จึงเดินทางมายังโรงพยาบาลวิภาวดี ตอนนั้นที่เลือกมาที่นี่ เพราะเป็นโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน มีข้อมูลยืนยันผลการรักษาที่ได้ผล ของผู้ที่เคยรับการรักษาจากโรงพยาบาลวิภาวดี   เมื่อมาลงทะเบียนยังไม่ได้ระบุแพทย์แค่เล่าอาการ เจ้าหน้าที่ก็ส่งตัว    ให้มาตรวจที่แผนกอายุรกรรม ผลคือ “เส้นประสาทรับรู้ไว”คิดในใจ ระบบประสาทจริงๆด้วย คราวนี้เราต้องหายแน่ กินยา 6 สัปดาห์ พร้อมกับการฝังเข็ม แต่ฝังเข็มที่คลินิกใกล้บ้าน ฝังเข็มแล้วก็รู้สึกว่าดีขึ้นมาก เหมือนจะหายขาด”   เมื่อเห็นว่าผลจากการฝังเข็มครั้งแรกดีมาก และคำแนะนำของคุณหมอฝังเข็ม คือ ต้องฝังเข็ม 2 คอร์ส ก็มาฝังเข็มตามที่นัด แต่คราวนี้ปวดไปถึงหัว  “ครั้งแรกฝังเข็มไป 1 คอร์ส 10 ครั้ง จากที่อาการดีขึ้นเหมือนจะหายขาด ทางคลินิกแนะนำฝังเข็มเพิ่มอีก   1 คอร์ส เราก็ไปฝังเข็มอีกตามนัดแต่ครั้งนี้พอเริ่มฝังเข็มกลับปวดหัวปวดมากๆ จึงเปลี่ยนไปฝังเข็มต่อที่โรงพยาบาลวิภาวดี ฝังเข็มมา 5-6 ครั้ง อาการปวดหัวเหลือนิดๆ จนครบคอร์ส 8 ครั้ง หายขาดเลย”  และก็มาถึงจุดเริ่มต้นของการผ่าตัด ที่ทำให้รู้ว่าการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องสำคัญแค่ไหน...

 
เมื่อการรักษาด้วยการฝังเข็มและทางทันตกรรม ไม่ได้ช่วยให้อาการปวดหายไปจากชีวิตจริงๆ โดยการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง เกี่ยวกับระบบประสาทบนใบหน้า ซึ่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตในครั้งนี้ทำให้ตัดสินใจผ่าตัด“อาการปวดกลับมาอีก จึงตั้งใจหาข้อมูลใหม่ ครั้งนี้หาข้อมูลเยอะมากๆซึ่งข้อมูลที่ได้ทำให้ตัดสินใจ มาที่โรงพยาบาลวิภาวดีอีก เพราะอ่านข้อมูลประสบการณ์ การผ่าตัดจากคนไข้ที่มีอาการเหมือนเรา ซึ่งคุณหมอที่ผ่าชื่อ คุณหมอเมธี วงศ์ศิริสุวรรณ อ่านแล้วเกิดความมั่นใจเข้ามาโรงพยาบาลวิภาวดี และตั้งใจจะระบุชื่อคุณหมอเลยว่า คุณหมอเมธี แต่ปรากฏว่ากลางดึกของคืนวันที่ 23 ก.ค. 56 ปวดมาก มาที่โรงพยาบาลวิภาวดี 

 คุณหมอฉีดยาแก้ปวดอย่างแรงให้ รอสังเกตอาการ แต่ไม่หายเลยต้องแอดมิท  เช้าของวันที่ 24 ก.ค. 56 เจอคุณหมอผู้หญิงก่อน เป็นคุณหมอด้านอายุรกรรม คุณหมอให้สแกนสมองด้วยเครื่อง MRI  ผลออกมา คือ พบเนื้องอกที่แกนสมองข้างซ้าย ซึ่งเนื้องอกก้อนนี้ไปกดทับเส้นประสาทคู่ที่ 5  ทำให้ปวดตามแนวเส้นประสาท คุณหมอจึงแนะนำให้พบคุณหมอเมธีตอนบ่ายของวันนั้นเลย ตอนนั้นคิดในใจอีกว่า ได้เจอคุณหมอเมธีแล้ว ฉันจะหายแล้ว และอีกอย่างคือ หายสงสัยทันทีว่า ทำไมปวดแก้มข้างซ้ายอยู่ได้นานขนาดนี้  จากข้อมูลที่ได้รับ จากการค้นคว้าในอินเตอร์เน็ต จากประสบการณ์จริงของผู้ที่ผ่าตัดโดยคุณหมอเมธี  และเมื่อได้คุยกับคุณหมอเมธี ประทับใจมากๆ เธอบอกว่า คือความโชคดี 

“เจอคุณหมอเมธีแล้ว คือ จะได้หายจากอาการปวดซะที เจอคุณหมอครั้งแรกประทับใจมากๆ คุณหมอให้ข้อมูลที่ชัดเจน เข้าใจง่าย คุณหมอน่าเชื่อถือมากๆค่ะ เมื่อคุณหมอเห็นผลMRI  คุณหมอบอกว่า ถ้าตัดสินใจผ่า ผ่าได้เลยในวันนั้น เพราะผ่าเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี เนื่องจากที่เป็นอยู่อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้ ช่วงเวลาที่คุณหมอเมธีให้ตัดสินใจก็ได้ปรึกษาครอบครัว แต่ตอนนั้นรู้สึกมั่นใจในตัวคุณหมอมากๆอยู่แล้ว คุณหมอแนะนำในการผ่าตัดดีมากๆ ที่สำคัญ คุณหมอรู้อาการ พูดถึงอาการปวดที่เราต้องเจอในช่วงที่ผ่านมาได้ชัดเจน ปวดอย่างไร ปวดบริเวณไหนบ้าง ดังนั้นไม่ลังเลที่จะให้คุณหมอเมธี  เป็นหมอผู้ผ่าตัดให้ ครอบครัวก็รับทราบ  เลยตัดสินใจผ่าในวันนั้น

อีกเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจผ่าที่นี่คือ ผ่าแบบแผลเล็ก เก็บแผลที่หลังหูค่ะ” คุณวนิดาบอกว่า ก่อนเข้าห้องผ่าตัด มีความรู้สึกเครียด คิดว่าจะตื่นไหม กลัวพิการบ้าง กลัวเสียชีวิตบ้าง เพราะเป็นการผ่าตัดสมอง ต้องฉีดยาสลบ “ก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุณหมอก็ได้คุยกับคุณแม่ (คุณแม่เล่าให้ฟังตอนที่ออกมาจากห้องผ่าตัดแล้ว) คุณแม่บอกว่า คุณหมอเมธีอธิบายเข้าใจดี ข้อมูลจากคุณหมอทำให้แม่มั่นใจ เข้าห้องไปประมาณ 3 ทุ่ม ตื่นมาอีกทีตอนนั้นอยู่ที่ ICU คุณหมอเมธีถามถึงอาการ ความรู้สึกตอนนั้น คือ มีเพียงอาการเวียนหัว อาเจียน แต่ที่สำคัญ เหมือนไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน ไม่มีความทรมานเหลือเลย กิน เคี้ยว พูด ปกติมาก รู้สึกแบบดีใจสุดๆ โล่งอกมากๆ มันเหมือนฝัน แต่ว่ามันคือเรื่องจริง”  น้องวนิดาเล่ามาถึงตอนนี้ ด้วยสีหน้าที่สดชื่น สังเกตเห็นมีผ้าก็อซปิดรอยแผลอยู่ข้างหูด้านซ้าย

 
 “หลังผ่าตัด พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล 3-4 วัน เพื่อเช็คอาการ รวมทั้งเริ่มทำกายภาพ โดยการฝึกเดิน  ฝึกยืน เพราะว่า เป็นเส้นประสาทที่เกี่ยวกับการทรงตัว การเดิน แต่ก็เดินได้ดี อาการปวดก็ไม่มี เป็นความรู้สึกเหมือนเกิดใหม่จริงๆค่ะ ต้องขอบคุณทุกสิ่งที่ทำให้มาเจอคุณหมอเมธี เจอโรงพยาบาลวิภาวดี การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องและการผ่าตัดของคุณหมอ ทำให้หายได้จริงๆ”
 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด