19 สิงหาคม 2565 ที่ โรงพยาบาลขลุง จ.จันทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เปิด “โครงการภารกิจพิชิตโรคตับจังหวัดจันทบุรี” และกล่าวว่า โรคมะเร็งตับพบมากเป็น 3 อันดับแรก ของจังหวัดจันบุรี โดยพบมากที่สุดในเพศชาย จากข้อมูลศูนย์ความเชี่ยวชาญระดับสูงด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี พบว่า สาเหตุหลักเกิดจากไวรัสตับอักเสบบี, ซี และโรคตับแข็ง วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือการรักษาไวรัสตับอักเสบก่อนที่จะเกิดมะเร็งตับและมะเร็งเนื้อตับ ซึ่งพบเป็นมะเร็งตับระยะต้นที่สามารถเบิกค่ารักษาและมีโอกาสหายขาด เพียง 25% เท่านั้น อีก 75% พบเป็นระยะลุกลามแล้ว รักษาหายขาดได้ยาก และไม่สามารถเบิกค่ารักษาได้ โรงพยาบาลพระปกเกล้าจึงจัดโครงการภารกิจพิชิตโรคตับจังหวัดจันทบุรี และ พระปกเกล้า อีซี ลิเวอร์ คลินิก เพื่อให้ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบีเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น ลดระยะเวลารอคอยจาก 4 เดือน เป็น 4 สัปดาห์ และลดระยะเวลาพบโรคมะเร็งตับจาก 6 เดือน เป็น 6 สัปดาห์ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายจากทั้ง 2 โรคได้มากขึ้น
ดร.สาธิตกล่าวต่อว่า โครงการภารกิจพิชิตโรคตับจังหวัดจันทบุรี ได้รับการสนับสนุนชุดตรวจจากศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคตับอักเสบและมะเร็งตับ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำนวน 12,000 ชุด กระจายไปยังทุกอำเภอในจังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ได้แก่ ผู้สูงอายุ มีประวัติการป่วยด้วยโรคไวรัสตับอักเสบในครอบครัว รวมถึง อสม. ตั้งแต่ 27 กรกฎาคม 2565 ภาพรวมพบผลบวก 4-5% จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดจันทบุรี ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป เข้ารับการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี ที่โรงพยาบาลชุมชน และรพ.สต.ใกล้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากพบผลผิดปกติจะส่งต่อโรงพยาบาลพระปกเกล้าเพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมและให้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษา หรือหากพบโรคมะเร็งตับระยะต้น จะมีโอกาสรักษาหายขาดได้
