ปี พ.ศ.2430 คณะกรรมการกลางเพรสไบทีเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อนุมัติเงินจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลที่จังหวัดเชียงใหม่โดยปรับปรุงบริเวณสถานที่ จำหน่ายยาดังกล่าวให้เป็นสถานพยาบาลที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนใช้ชื่อว่า "โรงพยาบาลอเมริกัน มิชชั่น" (American Mission Hospital) ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของโรงพยาบาลแมคคอร์มิค จาก บันทึกรายงานประจำปีของคณะมิชชันนารีถึงคณะกรรมการกลางเพรสไบทีเรียนประเทศสหรัฐ อเมริกา มีความตอนหนึ่งกล่าวว่า โรงพยาบาลได้ทำการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยในปีพุทธศักราช 2431 ไปมากกว่าสิบราย
พ.ศ.2432 นายแพทย์แมคเคน (Dr.James W. McKean) แพทย์มิชชั่นนารีชาวอเมริกันได้เดินทาง มาทำงานประจำที่โรงพยาบาล และในปี พ.ศ.2451 แพทย์มิชชั่นนารีผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค คือ นายแพทย์ อี. ซี. คอร์ท (Dr.Edwin Charles Cort) ได้เดินทางมาประจำ ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และนายแพทย์แมคเคนได้แยกไปสร้างนิคมโรคเรื้อนแมคเคน (McKean Leprosy Asylum) ที่บริเวณเกาะกลาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อนซึ่งมีเป็น จำนวนมาก ในเวลานั้น นายแพทย์ อี. ซี. คอร์ท หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า "พ่อเลี้ยงคอร์ท" ได้ทำงาน พันธกิจการบำบัดรักษาโดยทุ่มเทกำลังสติปัญญากำลังกายอย่างสุดจิตสุดใจ จึงเป็นที่รักที่เคารพยกย่อง นับถือของชาวบ้านตลอดจนเจ้านายและข้าราชการในเขตภาคเหนือแถบนี้เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มีผู้มารับการ รักษาพยาบาลเป็นจำนวนมากจนโรงพยาบาลมีสถานที่ไม่เพียงพอ
เมื่อนายแพทย์ อี. ซี. คอร์ท เดินทางกลับไปพักผ่อนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ท่านมีโอกาสได้ พบนางไซรัส แมคคอร์มิค (Mrs.Cyrus McCormick) มหาเศรษฐีนีในวงการอุตสาหกรรมและ เกษตรกรรม ซึ่งได้บริจาคเงินจำนวน 30,000 เหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 6-7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปัจจุบัน) เพื่อเป็นทุนในการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ นายแพทย์ อี. ซี. คอร์ท จึงก่อสร้าง โรงพยาบาลแห่งใหม่ขึ้นกลางผืนนาทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลแมคคอร์ มิคในปัจจุบัน และให้ชื่อโรงพยาบาลที่สร้างใหม่นี้ว่า "โรงพยาบาลแมคคอร์มิค" (McCormick Hospital) เพื่อเป็นเกียรติแก่นางไซรัส แมคคอร์มิค โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงอดิศรอุดม เดชเป็นผู้ทำพิธีวางศิลาหัวมุม (Corner Stone) เมื่อปี พ.ศ.2463 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี นับว่าเป็นโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด พรั่งพร้อมด้วยเวชภัณฑ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์จากสหรัฐ อเมริกา และเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซึ่งมีจำนวนเตียงรับผู้ป่วยไว้ค้างคืนได้ถึง 100 เตียง
วันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2467 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุน สงขลานครินทร์ (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก องค์พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย) พร้อมด้วยหม่อมสังวาล (สมเด็จพระศรีนครินทรา พระบรมราชชนนี) และพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดโรงพยาบาลแมคคอร์มิค ณ ตำแหน่งที่สร้างขึ้นใหม่ อันเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน
ปี พ.ศ.2470 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ได้เสด็จฯ ประพาสจังหวัด เชียงใหม่และเสด็จฯ เยี่ยมโรงพยาบาลแมคคอร์มิค
ปี พ.ศ.2472 สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ได้เสด็จฯ และทรงเปิดตึก ณ เชียงใหม่ ซึ่งพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระ บาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยเจ้าแก้วนวรัฐผู้ครองนครเชียงใหม่ ได้เป็นองค์ประธานบริจาคทรัพย์ในการสร้างเพื่อใช้เป็นอาคารตรวจ รักษาผู้ป่วยนอกในสมัยนั้น และในระยะเวลาใกล้เคียงกัน สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาพระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทราพระบรมราชเทวี พระ พันวสาอัยยิกาเจ้า) ได้เสด็จฯ ทรงเปิดตึกสูติกรรม ซึ่งได้บริจาคทรัพย์สร้างโดยหลวงอนุสารสุนทรและนางคำเที่ยง ชุติมา
วยไว้ค้างคืนจำนวน 400 เตียง