ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

น้ำมันมะกอก ดีต่อกระเพาะอาหารและลำไส้

นอกจากน้ำมันมะกอกจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหารแล้วยังเป็นผลดีต่อลำไส้ด้วย โดยการรับประทานน้ำมันมะกอกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนรับประทานอาหารเช้าขณะกระเพาะว่างจะช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคท้องผูกเรื้อรังมีอาการดีขึ้น ที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อระบบน้ำดี เพราะน้ำมันมะกอกเป็นผลดีอย่างมากต่อการอ่อนแอของถุงน้ำดี เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่รวดเร็ว นุ่มนวลและเนิ่นนานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยาและอาหารอื่น ๆ ทั้งหลายที่ใช้รักษาอาการดังกล่าว โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยยับยั้งการหลั่งน้ำดีจากตับในระหว่างที่ถุงน้ำดีไม่เกิดการสะสม จึงทำให้ได้น้ำดีที่บริสุทธิ์และมีคุณสมบัติทางยา

จากผลงานการวิจัยของ Charbonnier กล่าวไว้ว่า น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันชนิดที่ทนทานต่อกระเพาะได้มากที่สุด เนื่องจากมีกรดโอเลอิคอยู่ในปริมาณสูง จึงมีผลในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบและอาการอักเสบที่กระเพาะและลำ ไส้ตอนต้น จึงถือว่าเป็นคุณสมบัติในเชิงป้องกันโรค ซึ่งจากการทดลองโดยการเปลี่ยนน้ำมันมะกอกแทนไขมันสัตว์ในอาหารของผู้ป่วยที่ เป็นโรคเรื้อรัง ปรากฏว่าคนไข้จำนวน 33% สามารถลดอาการของบาดแผลลงได้ และอีก 55% ก็ลดการรักษาที่ทำให้เกิดแผลเป็นได้อีกด้วย แต่การใช้น้ำมันมะกอกช่วยบำบัดต้องควบคู่ไปกับการรักษาด้วยยา

นอกจากน้ำมันมะกอกจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะอาหารแล้วยังเป็นผลดีต่อลำไส้ด้วย โดยการรับประทานน้ำมันมะกอกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนรับประทานอาหารเช้าขณะกระเพาะว่างจะช่วยให้ผู้ที่เป็นโรคท้องผูก เรื้อรังมีอาการดีขึ้น ที่สำคัญยังมีประโยชน์ต่อระบบน้ำดี เพราะน้ำมันมะกอกเป็นผลดีอย่างมากต่อการอ่อนแอของถุงน้ำดี เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่รวดเร็ว นุ่มนวลและเนิ่นนานกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับยาและอาหารอื่น ๆ ทั้งหลายที่ใช้รักษาอาการดังกล่าว โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยยับยั้งการหลั่งน้ำดีจากตับในระหว่างที่ถุงน้ำดีไม่ เกิดการสะสม จึงทำให้ได้น้ำดีที่บริสุทธิ์และมีคุณสมบัติทางยา

สำหรับคุณสมบัติของน้ำมันมะกอกในการนำมาใช้ในการทอดอาหารนั้น Fedeli ได้ทำการทดสอบความคงสภาพของน้ำมันมะกอก โดยการทอดด้วยอุณหภูมิสูง และ Varela ก็ได้ทำการพิสูจน์โดยทดลองทอดเนื้อ ทอดปลาซาร์ดีนด้วยน้ำมันมะกอก ผลปรากฏว่าประสิทธิภาพการย่อยอาหารจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แม้ว่าจะใช้น้ำมันนั้นทอดซ้ำ ๆ กันเกินกว่า 10 ครั้งขึ้นไปก็ตาม การวิจัยนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าน้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่เหมาะสำหรับการทอด อาหารมากที่สุด เนื่องจากเป็นน้ำมันที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าน้ำมันชนิดอื่นใด

อย่างไรก็ตามน้ำมันมะกอกยังสามารถช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ อีกด้วย เพราะมีปริมาณของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง ขณะเดียวกันก็ยังมีสัดส่วนของไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่สมดุลเหมาะสมต่อการ ป้องกันโรค โดยมีส่วนประกอบของอัลฟา-โทโคเฟอรอล หรือโพลีฟินอลที่ทำหน้าที่ในการขจัดอนุมูลอิสระ หลักโภชนาการนี้ได้รับการยืนยันจากการทดลองและงานวิจัยโรคระบาดแล้วว่า สามารถป้องกันภาวะไขมันอุดตันในเส้น เลือดและช่วยควบคุมพลาสมา คอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยไม่มีความเสี่ยงในเรื่องผลข้างเคียงแต่อย่างใด

ดังนั้นน้ำมันมะกอกจึงถือเป็นน้ำมันมหัศจรรย์ที่นอกจากจะใช้ในการเสริมความ งามแล้วยังนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารเพื่อสุขภาพและช่วยป้องกันรักษาโรคได้ อีกด้วย เมื่อทราบอย่างนี้แล้วอย่าลืมเลือกน้ำมันมะกอกมาใช้อย่างเหมาะสมเพื่อสุขภาพ ที่ดีของเรานะคะ

(ข้อมูลจาก โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี)
ที่มา: เดลินิวส์ 8 เมษายน 2555

ได้รับอนุญาตเผยแพร่โดยบ.ดีชัย


ผลิตภัณฑ์ น้ำมันมะกอก



ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด