ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ไทรอยด์เป็นพิษ

ไทรอยด์เป็นพิษเป็นการเสียสมดุลของฮอร์โมนไทรอยด์ โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่เกี่ยวข้องกับอาหารทะเลแต่มีปัจจัยบางอย่างที่เกี่ยวข้อง เช่น เพศหญิง กรรมพันธุ์ ความเครียดทางจิตใจ

โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือโรคคอพอกเป็นพิษ ต่อมไทรอยด์ ซึ่งอยู่ที่ลำคอด้านหน้าต่ำกว่าลูกกระเดือกเล็กน้อย ทำหน้าที่สร้างและหลั่งฮอร์โมนไธรอยด์ออกสู่กระแสเลือด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ โดยเฉพาะหัวใจและประสาท โรคคอพอกเป็นพิษ เป็นการเสียสมดุลของฮอร์โมนไธรอยด์ โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่เกี่ยวข้องกับอาหารทะเลแต่มีปัจจัยบางอย่างที่เกี่ยวข้องดังนี้ 

  1. เพศหญิง โรคนี้เกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย 4-8 เท่า
  2. กรรมพันธุ์ บางครอบครัวเป็นกันทั้งมารดา และลูกสาว
  3. ความเครียดทางจิตใจ พบว่าทำให้เกิดอาการคอพอกเป็นพิษได้


ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ อาจสร้างฮอร์โมนออกมามากเกินไป ต่อมจะมีขนาดโตขึ้นจนมองเห็นได้ชัดเจน ถ้าคลำดูจะมีลักษณะหยุ่นไม่แข็ง อาจฟังได้ยินเสียงฟู่ ๆ เนื่องจากมีเลือดไปเลี้ยงต่อมมากกว่าปกติ วิธีการตรวจหาระดับฮอร์โมนในร่างกายทำได้ 2 วิธี

  1. เจาะเลือดตรวจหาระดับฮอร์โมนไทรอยด์ว่าสูงกว่าปกติหรือไม่
  2. การตรวจโดยกัมมันตรังสีไอโอดีน
เพศหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่สงสัยว่าตั้งครรภ์ควรบอกแพทย์เพราะอาจมีผลเสียต่อเด็กในครรภ์ได้

คอพอกเป็นพิษอย่างไร
อาการแสดงเป็นพิษเกิดจากฮอร์โมนไทรอยด์ไปกระตุ้นการำงานของร่างกายมากขึ้นดังนี้
  1. หัวใจจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากจึงมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นได้ขณะที่นั่งสบาย ๆ ได้แก่ ใจสั่น หัวใจเต้นแรงและเร็ว จับชีพจรจะเต้นไม่สม่ำเสมอในบางครั้ง เหนื่อยง่าย
  2. เนื้อเยื่อของร่างกายเผาผลาญสร้างพลังงานออกมามาก และเปลี่ยนเป็นความร้อนออกจากร่างกายได้มากเช่นกัน จากอาหารที่รับประทานเข้าไปและที่เก็บสำรองไว้เป็นไขมันและกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้มีอาการเหล่านี้ ร้อนและเหงื่อออกมาก มือมักจะอุ่นและชื้น กินจุ แต่ผอมลง
  3. ระบบประสาทถูกฮอร์โมนไทรอยด์กระตุ้นมากขึ้นทำให้อวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายถูกกระตุ้นให้ทำงานผิดปกติได้เช่นเดียวกัน มือสั่น ตกใจง่าย ลำไส้ถูกกระตุ้นทำให้ถ่ายอุจจาระบ่อยวันละหลาย ๆ ครั้ง กล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนและขามักอ่อนแรง บางครั้งเมื่อนั่งยอง ๆ ก็ลุกไม่ไหว ประจำเดือน อาจมาน้อย หรือห่างออกไป นัยน์ตาอาจโตโปนถลนหรือหนังตาบนหดรั้งขึ้นไป ทำให้เห็นตาขาวข้างบนชัด ดูคล้ายคนดุ


การรักษาคอพอกเป็นพิษมี 3 วิธี

วิธีแรก ยาเม็ดรับประทาน
เพื่อควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น เช่น น้ำหนักเพิ่มขึ้น ชีพจรเต้นช้าลง ใจสั่นลดลง ฯลฯ ต้องใช้ยาติดต่อกันตั้งแต่ปีครึ่งถึงสองสามปี บางรายต้องรับประทานยาเป็นประจำ ถ้าหยุดยาทำให้มีอาการเป็นพิษได้อีก ข้อควรสังเกตอาการที่ควรรายงานให้แพทย์ทราบจากการใช้ยาเม็ด
  1. มีโรคติดเชื้อบ่อยเนื่องจากฤทธิ์ยาทำให้มีเม็ดเลือดขาวต่ำในร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการไข้สูง เจ็บคอ แต่พบได้น้อยมาก
  2. มีผื่นคันตามผิวหนัง มักเป็นไม่รุนแรง
  3. มีผมร่วงจากที่ไม่เคยร่วง
  4. คอพอกโตขึ้นกว่าเดิม
  5. ตะคิวจับบ่อย 6.ท้องผูกบ่อย

วิธีที่สอง การผ่าตัดเพื่อเอาต่อมไทรอยด์บางส่วนออก
ซึ่งจะให้ผลการรักษาเร็วกว่าวิธีกินยาเม็ด การผ่าตัดเหมาะที่จะใช้ในรายที่คอโตมาก ๆ หรือเมื่อรักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล ข้อเสีย การผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออกมากไป ทำให้ต่อมส่วนที่เหลือสร้างฮอร์โมนไม่พอใช้ ต้องกินยาฮอร์โมนไธรอยด์ทดแทนตลอดชีวิตและอาจมีเสียงแหบได้

วิธีที่สาม การกินน้ำแร่สารกัมมันตรังสีไอโอดีน 131
จะไปสะสมที่ต่อมไทรอยด์แล้วปล่อยรังสีทำลายต่อมให้หายเป็นพิษ วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยรักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผลหรือผู้ป่วยที่มีอายุมาก แต่ห้ามใช้ในหญิงกำลังตั้งครรภ์ ข้อเสีย ถ้าได้รับน้ำแร่จำนวนน้อยก็ไม่หายขาด ต้องกินซ้ำอีก หรือมากเกินไปอาจเกิดภาวะขาดฮอร์โมนได้เช่นกัน

การดูแลสุขภาพ
  1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมมิให้อาการคอพอกเป็นพิษรุนแรงขึ้น
  2. สังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นของผลข้างเคียงของยาหรือการรักษา เพื่อรายงานอาการได้ถูกต้อง
  3. ติดตามการรักษา เพื่อเป็นผลดีต่อการรักษา
  4. รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะได้ทุกประเภท
หนังสือรู้เรื่องโรค
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด