ความรู้เรื่องการมีบุตรยาก

ดิฉันขอเล่าเหตุการณ์ก่อนที่จะได้รับการผ่าตัดก่อนนะค่ะ ..... ในตอนเย็นของวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคน ดิฉันมีอาการปวดและเจ็บท้อง จากท้องน้อยไปจนถึงทวารหนัก ในขณะที่เข้าห้องน้ำถ่ายหนักและถ่ายเบา และตลอดเวลา โดยมีอาการท้องอืด จุก เสียด แน่นท้อง มีอาการเลอด้วย ท้องก็ป่องอืด มีอาการแบบนี้อยู่นานมาก จึงทานอีโนไป ครั้งละ 1 ซอง ทานไป 2 ซอง และนอนพักจึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง ในตอนเช้า วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2552 ดิฉันก็มีอาการเดิมเกิดขึ้นอีก และมีอาการเจ็บบริเวณท้อง แต่ดิฉันก็ทนไปทำงานต่อ แต่อาการปวดก็เริ่มมากขึ้น จึงไปพบแพทย์ ในส่วนของประกันสังคมส่งให้ทางอายุรกรรม แพทย์ตรวจดิฉันโดยการกดบริเวณท้องและท้องน้อย ดิฉันรู้สึกเจ็บบริเวณท้องที่แพทย์กด และแพทย์สรุปว่าอาจจะเป็นโรคกระเพาะหรือกรดไหลย้อน จึงให้ยาเกี่ยวกับโรคกระเพาะมาทาน ดิฉันทานตามคำสั่ง แต่อาการไม่ดีขึ้น วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2552 อาการเริ่มปวดและเจ็บมากขึ้นที่ท้องและท้องน้อย มีอาการท้องอืดท้องป่องขึ้นกว่าเดิม จนเดินไม่ค่อยไหว ตอนเย็นจึงไปพบแพทย์ แผนกเดิมแต่ไม่ใช่คนเดินที่ตรวจ แพทย์ตรวจโดยการกดบริเวณท้องและท้องน้อย แต่พอแพทย์กดที่ท้องน้อยของดิฉันๆ เจ็บมากจนต้องดึงมือหมอออก แพทย์จึงของตรวจปัสสาวะ พอได้ผลปัสสาวะมา แพทย์แจ้งว่าปกติ อาจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เพราะดูจากอาการที่มีต่างๆ จึงสั่งยาให้ ดิฉันทานยาตามสั่งเหมือนเดิมแต่ไม่ดีขึ้นอีกเช่นกัน จึงไปพบแพทย์ วันพุธที่ 19 สิงหาคม 2552 ดิฉันทานยาตามสั่งเหมือนเดิมแต่ไม่ดีขึ้นอีกเช่นกัน อาการปวดและเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ท้องและท้องน้อย มีอาการท้องอืดท้องป่องมากขึ้นกว่าเดิมอีก ดิฉันปวดและเจ็บท้องน้อยมากจนเดินไม่ไหว จึงไปพบแพทย์อีกครั้ง ในส่วนของประกันสังคม ก็ส่งให้ทางอายุรกรรมอีกเช่นเดิม แต่แพทย์ที่ตรวจก็เปลี่ยนคนอีก แพทย์ตรวจดิฉันแบบเดิมอีก แต่ท่านนี้ให้นอนบนเตียงเพื่อกดท้องดู แพทย์ท่านนี้ขอตรวจปัสสาวะ และตรวจเลือดดูอีกครั้ง ได้ผลมาแจ้งว่าปกติดี ไม่มีการตั้งครรภ์ แพทย์ท่านนี้บอกว่าอาจจะเป็นที่ช่องท้องต้องให้แพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวชตรวจดู จึงนัดให้พบแพทย์เฉพาะทาง วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2552 อาการปวดและเจ็บท้อง ท้องอืด ท้องป่อง ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แพทย์เฉพาะทางตรวจดูโดยการตรวจภายในแบบใช้มือ ไม่พบอะไร และสรุปผลว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ จึงสั่งยาให้ ดิฉันทานยาตามสั่งเหมือนเดิมแต่ไม่ดีขึ้นอีกเช่นกัน วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2552 อาคารการหนักมาก มีอาการวูบ หน้ามืด เวียนหัว เดินไม่ไหวเนื่องจากเจ็บท้องน้อยมากทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ ถ่ายหนัก ถ่ายเบา แต่ไม่มีเลือดปนออกมาทางช่องคลอดหรือตอนขับถ่าย (อาการท้องอืด จุก เสียด แน่นท้อง มีอาการเลอด้วย ท้องก็ป่องอืด อาการเหล่านี้ยังคงอยู่ตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันศุกร์) ดิฉันมาทำงานอยู่จนกระทั่ง เวลา 15.30 น. ดิฉันทนไม่ไหวถึงกับหน้ามืดเป็นลมตัวซืด หน้าซืด ใน OFFICE จึงถูกส่งตัวด่วนไปที่ โรงพยาบาลอีกแห่งใกล้ OFFICE แพทย์ตรวจพบว่าอาจมีก้อนเนื้ออยู่ในช่องท้องให้ทำการอัลตร้าซาวด์ด่วน ดิฉันถูกส่งตัวด่วนกลับไปที่ โรงพยาบาลเดิมที่ทำการรักษาแต่แรก ในส่วนของประกันสังคมถึงจะส่งให้แผนกฉุกเฉินตรวจปัสสาวะซ้ำอีก (ในช่วงนี้ดิฉันเป็นลมหน้ามืดในห้องน้ำด้วย) แพทย์ทำการอัลตร้าซาวด์ และตรวจปัสสาวะผลออกมาบอกว่า ดิฉันตั้งครรภ์!!!!!! และท้องนอกมดลูกและมีภาวะเลือดออกในช่องท้อง ให้ทำการแอดมิดด่วน หลังจากทำการผ่าตัดนำปีกมดลูกข้างขวาออกเรียนร้อย แพทย์ที่รักษามาตรวจอาการ “กลับแจ้งอาการว่ามีปัญหาที่ผ่าตัดไปไม่ใช่ท้องนอกมดลูก !!!!!” แต่ขอตรวจเลือดอีกครั้งว่ายังตั้งครรภ์ตามปกติหรือไม่ หลังจากกลับมาตรวจอีกครั้งแจ้งให้ทราบว่า ผลสรุปไม่มีการตั้งครรภ์ !!!!!! อาจจะแท้งไปเมื่อไหร่ไม่รู้ !!!!!! หลังจากกลับมาตรวจอีกครั้งแจ้งให้ทราบว่า ผ่าตัดปีกมดลูกข้างขวาออกไปเป็นเพราะรังไข่ข้างขวาแตก !!!!!! (วันสุดท้ายของการตรวจ) จากที่ดิฉันเขียนมาเล่าอาการข้างต้น ให้คุณหมออ่านแล้ว คุณหมอพอจะแนะนำอะไรดิฉันได้บ้างมั้ยค่ะ คือดิฉันงง กับการวินิจฉัยของแพทย์โรงพยาบาลนี้มากค่ะ คุณหมอกรุณาชี้แนะให้ความเห็นแก่ดิฉันหน่อยเถอะค่ะ ดิฉันต้องเสียความรู้สึกที่รู้ว่าดิฉันท้องนอกมดลูก ต้องถูกตัดปีกมดลูกข้างขวาทิ้ง และการที่ต้องทำใจว่าอาจจะมีบุตรยาก (ถึงแม้ว่าแพทย์จะบอกว่ามีได้ 100% แต่ความเชื่อถือในตัวแพทย์และจรรยาบรรณของแพทย์ทำให้ดิฉันไม่เชื่อถือคำพูดอีกต่อไป) ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีค่ะ 1. ตรวจปัสสาวะ 2 ครั้งแรก พร้อมกับตรวจเลือด 1 ครั้ง ทำไมไม่พบการตั้งครรภ์ 2. ทำการอัลตร้าซาวด์ และตรวจปัสสาวะ ผลออกมาบอกว่า ดิฉันตั้งครรภ์ !!!!!! (ในวันรับการผ่าตัด) 3. ผลออกมาบอกว่า ดิฉันท้องนอกมดลูก (ในวันรับการผ่าตัด) 4. ผลออกมาบอกว่า ดิฉันไม่ใช่ท้องนอกมดลูก (หลังรับการผ่าตัดแล้ว) 5. ผลสรุปไม่มีการตั้งครรภ์ !!!!!! อาจจะแท้งไปเมื่อไหร่ไม่รู้ !!!!!! 6. ผ่าตัดปีกมดลูกข้างขวาออกไปเป็นเพราะรังไข่ข้างขวาแตก !!!!!! (ทำไมถึงไม่ทราบตั้งแต่ตอนอัลตร้าซาวด์) ผลข้างเคียงของการผ่าตัดที่ดิฉันรู้สึกเองมีดังนี้ 1. ท้องอืด แน่น เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว (แต่ปริมาณไม่เยอะนะค่ะ) 2. ท้องไม่ยุบลง (ยังใส่กางเกงไม่ได้เลยค่ะ) 3. นั่งทำงานนานๆ รู้สึกชา ท้องน้อยตรงบริเวณแผลเย็บเข็มล่างสุด (ผ่าตัดเปิดหน้าท้องในแนวตั้ง) 4. เวลา ไอ จาม หัวเราะ จะเจ็บแผลข้างในท้องมากค่ะ หมายเหตุ : ดิฉันขอความกรุณาคุณหมอช่วยอธิบายดิฉันหน่อยเถอะค่ะ จนถึงทุกวันนี้ แฟนดิฉันก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าสรุปแล้วดิฉันเป็นอะไรและเกิดอะไรกับดิฉันกันแน่