New Normal ในการให้บริการ ถือเป็นเรื่องที่โรงพยาบาลต้องปรับตัว และเพิ่มเติมมาตรการการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบ มากกว่าสถานที่อื่นอาทิ ในเรื่องการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในจุดให้บริการ เช่น ลิฟท์โดยสาร, บันไดเลื่อน, ห้องตรวจ, ห้องพักคนไข้, สถานที่นั่งคอย และพื้นผิวสัมผัสอื่นๆ มีจุดคัดกรองและจุด Screening สำหรับผู้รับบริการทุกท่าน และมีการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ทุกจุด พร้อมทั้งมีการแยกสถานที่เป็นสัดส่วนสำหรับคนไข้ด้านโรคทางเดินหายใจ และคนไข้กลุ่มเสี่ยงต้องตรวจ COVID-19 อย่างชัดเจนอยู่นอกอาคาร เพื่อไม่ให้ไปปะปนกับคนไข้ทั่วไป อีกทั้งยังมีการปรับวิธีบริการเป็นแบบ New Normal เข้ามาใช้กับบริการต่างๆ อาทิ
- Tele Med To Go ที่สามารถ VDO Call คุยกับแพทย์และทำการจัดส่งยาให้ถึงบ้าน
- Fast Track Flow การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบ One Stop เพียง 30 นาที ที่เดียวจบ
- Fit To Fly โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานและก่อนเดินทาง
- ARI Clinic แผนกระบบทางเดินหายใจ แยกจากตัวอาคารไม่ปะปนกับคนไข้โรคอื่น
- ACF ตรวจหาเชื้อ COVID เชิงรุก สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงแต่ไม่มีอาการ
- Negative Pressure ห้องพักคนไข้ระบบความดันลบ สำหรับคนไข้โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ
- Revive Health การฟื้นฟูสุขภาพให้กับมาสุขภาพดีแบบวิถีใหม่ ที่สะดวกรวดเร็วเสร็จภายใน 2 ชั่วโมง
บริการต่างๆ ของทาง รพ.วิภาวดี ได้มุ่งเน้นในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้รับบริการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจเมื่อต้องมารับบริการที่ รพ.วิภาวดี ซึ่งห้องพักผู้ป่วยในที่เป็น Negative Pressure ก็แยกชั้นอย่างชัดเจน และยังได้เพิ่มห้อง Negative Pressure อีกหลายห้องสำหรับรองรับ หากต้องเผชิญกับโรคอุบัติใหม่ รพ.วิภาวดี มีโรงแรมในเครือ คือ รร.ปริ๊นซ์ตั๊น ปาร์ค สวีท ได้ร่วมกับภาครัฐในการเป็น ‘Hospitel’ และกำลังจะทำเป็น ‘Alternative State Quarantine (ASQ)’ และร่วมมือกับภาครัฐในการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก COVID-19 ให้กับหน่วยงาน และประชาชนที่มีความเสี่ยง ตามมาตรการของทางภาครัฐในการตรวจคัดกรอง COVID-19 เชิงรุก
โดย นพ.ชัยสิทธิ์ คุปต์วิวัฒน์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า รพ.วิภาวดี ดูแลคนไข้ทุกคนเป็นอย่างดี ในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมา มีการป้องกันที่ดีทั้งการคัดกรองผู้รับบริการ และการป้องกันในส่วนของแพทย์ และบุคลากรโรงพยาบาล มีจุดแอลกอฮอล์เจลล้างมืออยู่ทุกชั้นภายในโรงพยาบาล จึงไม่อยากให้คนไข้ต้องกลัวการมาโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลถือได้ว่าเป็นสถานที่ๆ ปลอดภัยมากในระดับหนึ่ง อาจจะปลอดภัยมากกว่าพื้นที่เสี่ยงอื่นๆ ด้วย เพราะถูกควบคุมด้วยมาตรการอันเข้มข้น
ในแง่ของประชาชนทั่วไปที่ต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal ในช่วงของ COVID-19 นี้ ประชาชนเริ่มคุ้นชินกับการสวมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และมีความระมัดระวังในการสัมผัสสิ่งของในที่สาธารณะมากขึ้น ล้างมือบ่อยมากขึ้น และรักษาระยะห่างในที่แอดอัด ซึ่งป็นเรื่องที่ดี ทำให้โรคต่างๆ ที่เป็นโรคติดต่อ มีการแพร่เชื้อน้อยลง แต่ก็จะต้องระวังหลังจากการปลดล็อค อย่ากลับไปทำพฤติกรรมแบบเดิม ให้รักษามาตรฐานนี้เอาไว้ “การ์ดอย่าตก” เพียงเท่านี้เราก็จะป้องกันโอกาสที่เชื้อ COVID-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 ได้