เมื่อประสบอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บในภาวะคับขันเช่นนี้ หลายท่านอาจจะเกิดความสับสน และมีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจ จะทำอย่างไรต่อไปดี ... จะไปหาหมอที่ไหน ... ค่าใช้จ่ายเพียงพอหรือไม่ ... จะต้องติดต่อตัวแทนประกันหรือไม่ ... จะเบิกค่ารักษาพยาบาลจากที่ไหนได้บ้าง เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากรถ จะมีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้อย่างไร ?
ตามกฎหมายแล้ว รถไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์จะต้องทำประกัน พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถ กับบริษัทประกันภัยไว้ทุกคัน โดยท่านจะมีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ มีวงเงินเบื้องต้น 30,000 บาท ไม่ว่าท่านจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด จะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โยสาร หรือคนเดินถนน ก็มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ หากกรมธรรม์ที่ทำไว้ยังอยู่ในระยะความคุ้มครอง
สิทธิ์เบิก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ สามารถใช้สิทธิ์ได้ที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ได้หรือไม่…?
ท่านสามารถใช้สิทธิ์ที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-รามได้ โดยไม่ต้องชำระค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์ที่ท่านมี เพียงท่านเตรียมเอกสาร ประกอบการเบิกเงิน มาให้กับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม โดยทั้งนี้จะช่วยลดขั้นตอนการประสานงานในการเบิกค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันให้กับท่านได้
เอกสารประกอบเบิกต้องเตรียมอะไรบ้าง..?
เพียงท่านเตรียมเอกสารดังนี้ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- บันทึกประจำวันตำรวจ
- สำเนาบัตรประชาชนและ/หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้บาดเจ็บ
- สำเนาบัตรประชาชนและ/หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของเข้าของรถ (กรณีที่ท่านไม่ใช่เจ้าของรถ)
- สำเนาสูติบัตร (กรณีผู้บาดเจ็บอายุไม่ถึง 15 ปี)
- สำเนาทะเบียนรถ
- สำเนากรมธรรม์ประกันรถ
- ข้อแนะนำ เพื่อการเตรียมเอกสารให้ง่ายขึ้น ท่านควรมีเอกสารดังกล่าวติดไว้กับรถของท่านเสมอ
วงเงินความคุ้มครองตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
- หากมีการบาดเจ็บ
ผู้ขับขี่ คุ้มครอง 30,000 บาท
ผู้โดยสาร คุ้มครอง 80,000 บาท
บุคคลภายนอก คุ้มครอง 80,000 บาท
- การชดเชยรายวัน
ผู้ขับขี่ ไม่ได้รับ
ผู้โดยสาร ได้รับชุดเชย 200 บาท/
บุคคลภายนอก ได้รับชุดเชย 200 บาท/วัน
หมายเหตุ :
- ค่ารักษาพยาบาลตามจ่ายจริงสูงสุดไม่เกินสิทธิ์ที่กำหนด
- ค่าชดเชยรายวัน การพักรักษาตัวเป็นคนไข้ใน ไม่เกิน 20 วัน
กรณีฉุกเฉิน ต้องเข้ารับการักษา แต่ไม่ทราบข้อมูลการทำประกัน พ.ร.บ. ไว้กับบริษัทอะไร จะใช้สิทธิ์เครดิตค่ารักษากับทางโรงพยาบาลได้หรือไม่…?
ทางโรงพยาบาลมีระบบ อีเคลม (E-Claim) ซึ่งระบบการตรวจสอบสิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ตที่สามารถตรวจสอบว่ารถของท่านทำประกัน พ.ร.บ. ผู้ประสบภัยจากรถกับบริษัทอะไรรวมถึงระยะเวลาคุ้มครอง เพียงท่านแจ้งเลขทะเบียนรถทั้งอักษรและตัวเลขที่ถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดการเกิดเหตุ โรงพยาบาลก็จะสามารถตรวจสอบสิทธิ์เบื้องต้นให้กับท่านได้ ถ้ากรมธรรม์อยู่ในระยะเวลาคุ้มครองก็สามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ทันที โดยท่านไม่ต้องกลับไปติดต่อกับบริษัทประกันภัยด้วยตัวเอง หากบริษัทที่ท่านทำกรมธรรม์ไว้อยู่ในเครือข่ายระบบ อีเคลม
กรณีแพทย์นัดทำแผลในวันต่อๆไป จะใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. ต่อเนื่องได้หรือไม่…?
กรณีแพทย์นัดมาทำแผลต่อเนื่อง และวงเงินค่ารักษาพยาบาลของพ.ร.บ. ยังไม่เกินที่กำหนด ท่านยังสามารถใช้สิทธิ์เบิกต่อเนื่องได้จนหมดวงเงินค่ารักษาพยาบาลโดยที่ไม่ต้องเตรียมเอกสารประกอบเบิก พ.ร.บ.อีก
ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วมีพลเมืองดีพาไปส่งโรงพยาบาลอื่น หากเรามีความประสงค์จะย้ายมารักษาที่ โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ต่อได้หรือไม่…?
หากมีความประสงค์จะย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ก็สามารถทำได้ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย) ใช้สิทธิ์พ.ร.บ. ต่อได้ จนกว่าจะครบวงเงินที่กำหนด อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยที่บาดเจ็บและใช้สิทธิ์อื่นๆ เช่น ประกันอุบัติเหตุรัฐวิสาหกิจ ก็ยังคงนำสิทธิ์ดังกล่าวมาใช้ร่วมกันได้ ซึ่งจะช่วยให้ท่านจ่ายส่วนเกินที่มีน้อยลงไป หรือ อาจไม่ต้องจ่ายเลย หากค่ารักษาในครั้งนั้นไม่มีส่วนเกิน
ปัจจุบันโรงพยาบาลมีระบบ อีเคลม (E-Claim) ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบสิทธิ์ทางอินเตอร์เน็ต ที่สามารถแจ้งขอเลขที่เคลมและตรวจสอบว่ารถของท่าน ทำประกันภัยกับบริษัทอะไร รวมถึงระยะเวลาคุ้มครองของกรมธรรม์ได้ทันที
โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม
79/12 ถนนพหลโยธิน ตำบลสวนดอก อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง 52100
โทร 054 - 019619