ข่าวสุขภาพ โรงพยาบาล77จังหวัด คลินิกทำฟัน30บาท กทม คลินิกทำฟัน30บาท ปริมณฑล+3 รพ.ประกันสังคม 2568
รพ.รายจังหวัด (รัฐ-เอกชน)รพ.รัฐบาลรพ.เอกชนรพ.เอกชน ประกันสังคมรพ.เอกชน บัตรทองรพ.มหาวิทยาลัยศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยสถาบัน/ศูนย์แพทย์รพ.สังกัดกทม.ศูนย์สาธารณสุข กทม.รพ.ศูนย์รพ.ทั่วไป (จังหวัด)รพ.ชุมชน (อำเภอ)รพ.สต.(ตำบล)รพ.กองทัพรพ.สมเด็จพระยุพราชรพ.จิตเวชรพ.มะเร็งรพ.แพทย์แผนไทยรพ.รัฐวิสาหกิจ/กระทรวงอื่นคลินิกรัฐบาล-ศูนย์อนามัยคลินิก-ร้านยา
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ
healthserv.net@gmail.com

ครม.อนุมัติหลักการ ร่างกำหนดปริมานครองยาบ้าเพื่อเสพ ไม่เกิน 500 กรัม

ครม.อนุมัติหลักการร่างฯ กฏกระทรวงควบคุมปริมาณครองยาบ้า ไม่เกิน 500 กรัม ถือว่าเป็นผู้เสพ ยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัด และไม่ต้องรับโทษหากบำบัดแล้ว และเพื่อให้ตำรวจและปปส.ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป

 
 
12 ธันวาคม 2566 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาต่อไป
 
 
          สืบเนื่องจาก นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ในด้านความปลอดภัยที่รัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง  รวมทั้งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ที่ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินการจัดทำกฎหมายว่าด้วยการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) และที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จและเสนอคณะรัฐมนตรีโดยด่วน
 
 
 
         กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทำร่างกฎกระทรวง ซึ่งออกตามความในมาตรา 107 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด เสนอต่อคณะรัฐมนต  มีสาระสำคัญ คือ
 
        การกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ โดยเฉพาะยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 อาทิ แอมเฟตามีน (ยาบ้า) ที่กำหนดปริมาณไม่เกิน 5 หน่วยการใช้หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่เกิน 500 มิลลิกรัม 
 
 
          ข้อสันนิษฐานดังกล่าว จะใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ เพื่อพิจารณาว่าผู้ที่ครอบครองยาเสพติดผู้ใดเป็นเพียงผู้เสพ 
 
          จะส่งผลให้ "ผู้ครอบครองยาเสพติดในปริมาณเล็กน้อย" สามารถสมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาการติดยาเสพติดได้
 
         และหากบุคคลดังกล่าวได้รับการบำบัดรักษาจนหายจากการติดยาเสพติดแล้ว ผู้นั้นก็จะ "ไม่ต้องรับโทษ" ในความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองตามประมวลกฎหมายยาเสพติด 
 
 
         ร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้เป็นการออกกฎหมายลำดับรองซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่มีผลใช้บังคับ (เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564) ภายหลังพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอขอขยายระยะเวลาการดำเนินการออกกฎกระทรวงในเรื่องนี้ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองซึ่งออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติดตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ


*ภาพจากเพจสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด