ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

เชิญชวนนั่งรถจักรไอน้ำกรุงเทพ–อยุธยา ย้อนประวัติศาสตร์ รถไฟไทย 127 ปี

เชิญชวนนั่งรถจักรไอน้ำกรุงเทพ–อยุธยา ย้อนประวัติศาสตร์ รถไฟไทย 127 ปี  Thumb HealthServ.net
เชิญชวนนั่งรถจักรไอน้ำกรุงเทพ–อยุธยา ย้อนประวัติศาสตร์ รถไฟไทย 127 ปี  ThumbMobile HealthServ.net

การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศกำหนดการ ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เส้นทางประวัติศาสตร์จากกรุงเทพ ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ 127 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มีนาคม 2567

  
 
         พร้อมเชิญชวน ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางย้อนอดีต ตลอดจนร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่างสถานีกรุงเทพ - สถานีกรุงเก่า เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 
 
 
            สำหรับการจัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวรถจักรไอน้ำ เส้นทางประวัติศาสตร์ กรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ การรถไฟฯ ได้นำหัวรถจักรไอน้ำ รุ่นแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรีมาให้บริการลากจูงแก่ประชาชน โดยขบวนที่ 901/902


 
เชิญชวนนั่งรถจักรไอน้ำกรุงเทพ–อยุธยา ย้อนประวัติศาสตร์ รถไฟไทย 127 ปี  HealthServ
กำหนดการ มีดังนี้
 
  1. ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 08.10 น. ถึงสถานีอยุธยา เวลา 10.20 น.
  2. จากนั้นจะปล่อยให้ทุกท่านสามารถ ท่องเที่ยวเดินทางได้อย่างอิสระ เดินทางไปกราบไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่องเที่ยวโบราณสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ชมสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ตลอดจน เดินชม ช็อป ชิม ตลาดเก่า ร้านอาหารผสมผสาน บรรยากาศความเป็นเมืองเก่าของพระนครศรีอยุธยา โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง
  3. เดินทางกลับ ออกจากสถานีอยุธยา เวลา 16.40 น. ถึงสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยสวัสดิภาพ เวลา 18.50 น.
 
การจองตั๋ว
 
ผู้สนใจสำรองตั๋วโดยสารพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
 
  • อัตราค่าโดยสาร รถธรรมดาชั้น 3 ไป-กลับ ผู้ใหญ่/เด็ก ราคา 329 บาท
  • รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 ราคา 529 บาท รถนั่งนอนปรับอากาศ
  • รถจัดเฉพาะปรับอากาศ (รถโอทอป) ราคา 799 บาท
        มีบริการอาหารว่างและน้ำดื่มทุกที่นั่งทั้งเที่ยวไป - กลับ
 
 
 
        สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารและสำรองที่นั่งล่วงหน้าด้วยระบบ D-Ticket หรือที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ โดยขบวนจะให้บริการหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีสามเสน บางซื่อ ดอนเมือง และรังสิต ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นและลงตามสถานีดังกล่าวได้ รวมถึงประชาชนที่ไม่ได้เดินทาง หรืออาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง สามารถร่วมบันทึกความทรงจำ ถ่ายภาพหัวรถจักรไอน้ำในเส้นทางที่ขบวนรถวิ่งผ่านได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย


ข้อมูล eatfuntravel
 
เชิญชวนนั่งรถจักรไอน้ำกรุงเทพ–อยุธยา ย้อนประวัติศาสตร์ รถไฟไทย 127 ปี  HealthServ

รถจักรไอน้ำออกวิ่งปีละ 6 ครั้ง

    การรถไฟฯ นำหัวรถจักรไอน้ำแปซิฟิก หมายเลข 824 และ 850 รุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลิตโดยบริษัท นิปปอน ชาร์เรียว จำกัด ซึ่งปัจจุบันเก็บรักษาและซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี โดยนำมาจัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยว เนื่องใน 6 วันสำคัญของทุกปี ประกอบด้วย
  1. วันที่ 26 มีนาคม วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
  2. วันที่ 3 มิถุนายน วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ
  3. วันที่ 28 กรกฎาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
  4. วันที่ 12 สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ
  5. วันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช เส้นทางกรุงเทพ – อยุธยา – กรุงเทพ
  6. วันที่ 5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ 

รู้จัก รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 คุณปู่ที่ยังฟิตปั๋ง

รู้จัก รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850 สักหน่อยเป็นไร  ที่บางคนแซวว่า เป็นคุณปู่ แต่ก็เป็นคุณปู่ที่ยังฟิตปั๋ง นะขอบอก 

          รถจักรไอน้ำแบบแปซิฟิค ทั้งสองคัน เป็นรถจักรไอน้ำที่ ถูกใช้การหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อทดแทนรถจักรที่เสียหายจากสภาวะสงคราม เป็นการสั่งรถจักรไอน้ำเข้ามาใช้งานเป็นครั้งสุดท้ายด้วย รถจักรรุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นมาจำนวน 30 คัน (หมายเลข 821-850) ระหว่าง พ.ศ.2492-2493 โดยสมาคมอุตสาหกรรมรถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่น มีการจัดวางล้อแบบ 4-6-2 เรียกว่า “แปซิฟิค” คือ มีล้อนำ 4 ล้อ – ล้อกำลัง 6 ล้อ – ล้อตาม 2 ล้อ ใช้สำหรับลากจูงขบวนรถที่ใช้ความเร็ว น้ำหนักน้อย
 
          รถจักรไอน้ำทั้ง 2 คันนี้ ผลิตจากบริษัทนิปปอน ชาร์เรียว โดยหมายเลข 824 นำมาใช้งานในเดือนสิงหาคม 2492 ใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิง ต่อมาได้ดัดแปลงให้ใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงแทนในปี 2514
ส่วนหมายเลข 850 นั้น ถูกนำมาใช้งานเมื่อเดือนมีนาคม 2494 เป็น 1 ใน 5 คันของรถจักรต้นแบบจากผู้ผลิตที่ติดตั้งระบบการใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงในการเผาไหม้แทนฟืน เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนไม้ฟืน
 
          ในปี 2555 การรถไฟฯ ได้ทำการซ่อมบำรุงหนักทุกส่วนของรถจักรไอน้ำ 2 คันนี้ โดยเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อการใช้งาน ทั้งยังติดตั้งระบบห้ามล้อใหม่จากเดิมที่เป็นระบบสุญญากาศ ให้เป็นระบบลมอัด เพื่อความคล่องตัวในการจัดรถพ่วงที่ใช้ห้ามล้อระบบลมอัดได้ด้วย ซึ่งลดปัญหาการจัดหารถพ่วงที่นำมาต่อขบวนได้เป็นอย่างดี โดยนำมาใช้การอีกครั้งในการเดินรถพิเศษวันที่ 5 ธันวาคม 2555
 
          ปัจจุบัน รถจักรไอน้ำทั้ง 2 คัน ถูกเก็บรักษาอยู่ที่ “โรงรถจักรธนบุรี” เพื่อใช้ในภารกิจการลากจูงขบวนรถที่จัดเดินในโอกาสพิเศษต่างๆ รวมถึงการถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วย
 
ข้อมูลรถจักรไอน้ำแปซิฟิค หมายเลข 824 และ 850
  • น้ำหนักรถจักร : 58,000 กิโลกรัม (58 ตัน)
  • น้ำหนักรถลำเลียง : 38,900 กิโลกรัม (38.9 ตัน)
  • รวมน้ำหนักรถจักร และรถลำเลียง : 96,900 กิโลกรัม (96.9 ตัน)
  • ปริมาตรความจุน้ำในรถลำเลียง : 15,000 ลิตร
  • ความยาวรถจักร : 19,335 มิลลิเมตร (19.3 เมตร)
  • ความจุน้ำมันเตาเพื่อการเผาไหม้ : 4,200 ลิตร
  • กำลังไอ : 13 กิโลกรัม / ตารางเซนติเมตร

ข้อมูลจากเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย 

พระราชพิธีปฐมฤกษ์เปิดเดินรถไฟหลวง วันที่ 26 มีนาคม 2439

         วันสถาปนารถไฟหลวงนับเอาเมื่อวันที่  26 มีนาคม 2439  อันเป็นวันที่มี "พระราชพิธีปฐมฤกษ์เปิดเดินรถไฟหลวง" โดย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนิน ทำพิธีที่พลับพลาที่ประดับ บริเวณที่ทรงขุดกระทำพระฤกษ์ เริ่มการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2434   ทรงตรึงหมุดที่รางทองรางเงินข้างเหนือ ให้ติดกับหมอนไม้มริดคาดเงิน มีอักษรจารึก เป็นพระฤกษ์   จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ จึงทรงตรึงรางเงินรางทอง ลงเหนือหมอนไม้มริดคาดเงิน มีอักษรจารึก ซึ่งทอดไว้ทางด้านใต้ แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และทูตานุทูต ทั้งชายหญิง ช่วยกันตรึงต่อไป จนเสร็จทั้ง 2 ราง  ซึ่งนับว่าทางรถไฟ ในระหว่างกรุงเทพฯ กับกรุงเก่าติดต่อกันแล้ว ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา อ่านประวัติการสถาปนารถไฟหลวงแบบเต็ม

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด