เสวนาสื่อมวลชน “หญิงไทยกำลังตกเป็นเหยื่อบุหรี่ไฟฟ้า” และ “บุหรี่ไฟฟ้าตัวร้ายทำลายผู้หญิง” วันนี้ 6 มีนาคม 2568 เวลา 09.00-12.00 น. จัดโดย มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)
วัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นกว่าวัยรุ่นชาย
ผศ.ดร.ศรัณญา เบญจกุล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า ผลการรณรงค์ที่ผ่านมา ส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่มวนของหญิงไทยลดลง จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 พบว่าอัตราการสูบบุหรี่ของหญิงไทยลดลงเหลือ 1.3% เทียบกับเพศชาย 34.7% เนื่องด้วยกระแสตื่นตัวของสังคมไทยทั้งภาคนโยบายและภาคประชาสังคมร่วมกันสื่อสารสร้างการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้
แต่อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบัน การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้หญิง ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูด มีกลิ่นหอม ทำให้เสพติดได้ง่าย ส่งผลให้การสำรวจระดับประเทศ ปี 2565 พบว่า วัยรุ่นหญิงอายุ 13-15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้า 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าบุหรี่มวน 10 เท่า ในขณะที่ผู้ชายสูบบุหรี่ไฟฟ้า 20.2%
นอกจากนี้ จากการสำรวจการบริโภคยาสูบในเยาวชนไทย(GYTS) ปี 2558 และ 2565 ของเยาวชนไทยอายุ 13 - 15 ปี ชี้ให้เห็นว่า เยาวชนไทยตกเป็นเหยื่อบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า (รวมบุหรี่มวน) เพราะมีเยาวชน 6 ใน 10 คน พบเห็นการโฆษณาส่งเสริมการขายบุหรี่ผ่าน Social media และได้รับตัวอย่าง บุหรี่มวนและบุหรี่ซิกาแรตฟรีเพิ่มขึ้น จาก 7.3% เป็น 11.1 %
หญิงไทยสูบบุหรี่ แนวโน้มเลิกยากกว่าผู้ชาย
ด้าน ศ.เกียรติคุณ นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า การสำรวจปีต่อ ๆ มา ในประเทศไทย พบว่า วัยรุ่นหญิงและชายมีอัตราการสูบบุหรี่ที่ใกล้เคียงกัน หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นดังข้อมูลข้างต้นที่ ผศ.ดร.ศรัณญา นำเสนอจะส่งผลให้อัตราการสูบบุหรี่โดยภาพรวมทั้งบุหรี่ปกติและบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้หญิงเพิ่มสูงอย่างก้าวกระโดดซึ่งเกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า
หญิงไทยสูบบุหรี่ทุกรูปแบบจะมีแนวโน้มเลิกได้ยากกว่าผู้ชาย และที่น่าเป็นห่วงคือ ผลของการเสพติดจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพทุกระบบระยะยาวด้วย ทั้งนี้ ในประเทศ อเมริกา แคนาดา และอังกฤษ วัยรุ่นติดบุหรี่ไฟฟ้าหนักมากกกว่าบุหรี่มวนและเลิกยากกว่าซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และที่สำคัญผู้หญิงที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าจนเสพติดจะมีความเสี่ยงด้านสุขภาพมากกว่าผู้ชายซึ่งเป็นผลจากความแตกต่างของฮอร์โมนเพญิงหญิงกับชาย จึงมีโอกาสเป็นโรคร้ายที่ระบบอวัยวะอื่นที่มากกว่าผู้ชายด้วย
แม่ตั้งครรภ์สูบบุหรี่ ทำให้มดลูกแปรปรวน เสี่ยงแท้ง
ด้าน ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีต่อสตรีตั้งครรภ์ ไม่แตกต่างจากผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของบุคคลประเภทอื่น กล่าวคือ ทำให้เกิดโรคเรื้อรังของระบบหายใจหลายชนิด เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคมะเร็งปอด ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยไม่ดี ดำเนินชีวิตด้วยความทุกข์ทรมานและเสียชีวิตก่อนเวลาอันควร หากคุณแม่สูบบุหรี่ในขณะตั้งครรภ์ จะทำให้สารพิษทั้งนิโคติน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารอื่น ๆ ถูกส่งผ่านระบบทางเดินหายใจของมารดาเข้าไปสู่รก ซึ่งสารพิษเหล่านี้จะทำให้มีการแปรปรวนภายในมดลูก และก่อผลร้ายหลายประการ เช่น การแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด (ซึ่งทำให้ทารกเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ยังไม่สมบูรณ์พอ)
อีกทั้ง ในสตรีบางราย รกอาจจะไปเกาะผิดตำแหน่งที่ควรจะเป็น เช่น ควรจะเกาะบริเวณยอดมดลูก แต่เมื่อมีสารพิษจากการสูบบุหรี่เข้ามารบกวนบริเวณยอดมดลูก รกก็จะไปเกาะที่บริเวณส่วนล่างของมดลูกหรือคลุมปากมดลูกที่มีหลอดเลือดมาเลี้ยงมากกว่าที่เรียกว่า รกเกาะต่ำแทน ซึ่งมีอันตรายต่อการคลอดมากเพราะขัดขวางการคลอดของทารกและทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากการเสียเลือดมาก นอกจากนี้ รกของสตรีที่เสพบุหรี่มาก บางรายจะมีการเสื่อมสภาพและเกิดการสร้างสารพิษออกมาไปกระตุ้นให้ระบบอวัยวะของร่างกายแปรปรวน ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง มีการบวม ทั่วร่างกาย มีการรั่วไหลของสารโปรตีนทางปัสสาวะ ถ้าอาการของโรครุนแรง อาจทำให้ผู้ป่วย ชัก หลอดเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตได้ ซึ่งเราเรียกภาวะนี้ว่า ครรภ์เป็นพิษ
แม่ตั้งครรภ์สูบบุหรี่ไฟฟ้า พบลูก IQ ต่ำ
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนผลกระทบของมารดาที่สูบบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้าในขณะตั้งครรภ์ สารพิษในบุหรี่จะไปขัดขวางการลำเลียงสารอาหารและก๊าซออกซิเจนจากรกไปเลี้ยงทารกในครรภ์ ทำให้ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ และถ้าการขาดสารอาหารและก๊าซออกซิเจนที่ไปเลี้ยงทารกในครรภ์ค่อนข้างรุนแรง จะทำให้ทารกตายในครรภ์ได้
ดังนั้น ภายหลังคลอดทารกแรกเกิดจำนวนไม่น้อยจะมีภาวะทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ ทารกกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายที่เรื้อรังในอนาคตเมื่อเป็นผู้ใหญ่หลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น นอกจากนี้ ภายหลังคลอดในระยะเวลาต่อมา พบว่าทารกจำนวนหนึ่งจะมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการล่าช้า ซึ่งแสดงออกด้วยอาการหลายอย่าง เช่น การทรงตัวล่าช้า หกล้มง่าย การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่สอดคล้องกัน มีปัญหาด้านความคิด ความจำ การตัดสินใจ มีอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือมี IQ ต่ำ
อัตราการเพิ่มของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กผู้หญิงพุ่งสูง ด้าน รศ.ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า บริษัทบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้ากำลังทำการตลาดล่าเหยื่อพุ่งเป้าไปที่หญิงไทย ซึ่งจากเอกสารลับของบริษัทบุหรี่ ระบุว่า “ผู้หญิง” เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญสำหรับเตรียมการเปิดตลาดบุหรี่มวน โดยใช้กลยุทธ์ อ้างความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย เพื่อโปรโมทการสูบบุหรี่ในกลุ่มผู้หญิง ตัวอย่างเช่น การสื่อสารผ่านโซเซียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ เพื่อโฆษณา ชูประเด็นที่ผู้หญิงสนใจ ให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ชูความเป็นหญิงสาวที่ทันสมัย มีเสน่ห์ รักอิสระ สนุกสนานแต่ใส่ใจด้านสุขภาพ เชิญชวนให้ร่วมกิจกรรม อีเว้นท์ต่าง ๆ เช่น การประชุม กีฬา สันทนาการที่ผู้หญิงสนใจ มีการรีวิวสินค้าผ่าน Influencer ที่เป็นผู้หญิง มีการแจกตัวอย่างให้ทดลอง รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ กลิ่น รสชาติสำหรับผู้หญิง ที่ร้ายที่สุดบิดเบือนข้อมูลผลกระทบทางสุขภาพ โดย บริษัทบุหรี่โปรโมทว่า
ความจริง ให้เปลี่ยนมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะตั้งครรภ์ดีกว่าการเลิกสูบบุหรี่!!?
“การหยุดสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์เป็นวิธีที่ดีทีสุดและ ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งมารดาและทารกในครรภ์”
สูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดน้ำหนัก?
“สูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักและยังส่งผลเสีย ต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว”
สูบบุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดความเครียด?
สูบบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่วิธีลดความเครียด แต่ทำให้เครียดเพิ่มและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
รศ.ดร.พญ.เริงฤดี กล่าวทิ้งท้ายว่า การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทยในขณะนี้ถือ เป็นบทเรียนสำคัญของพวกเราทุกคนในสังคมไทย รวมถึงรัฐบาลที่ต้องมีความรอบคอบอย่างมากในการกำหนดนโยบายบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากไปกว่านี้ ที่น่ากังวลคือ อัตราการเพิ่มของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กผู้หญิงพุ่งสูงเร็วมากกว่าการลดลงของอัตราการสูบบุหรี่ธรรมดาอย่างชัดเจน ยิ่งทำให้ข้ออ้างของกลุ่มเชียร์บุหรี่ไฟฟ้าที่ว่า เด็กสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะต้องการเลิกสูบบุหรี่ธรรมดาจึงไม่จริง ซ้ำยังทำให้เห็นภาพชัดขึ้นด้วยว่า บุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นสิ่งเสพติดใหม่ที่ดึงดูดเด็กและเยาวชนเข้ามาสู่วงจรการเสพติด สังคมไทยต้องตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันป้องกันไม่ให้วัยรุ่นหญิงไทยตกเป็นเหยื่อของบุหรี่ไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (8 มีนาคม 2568) กล่าวว่า “การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทยในปัจจุบัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งปราบปราม เน้นย้ำให้ดำเนินตามกฎหมายให้ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่จะต้องจับดำเนินการตามกฎหมายให้หมด ทั้งนี้ ประชาชนที่ประสงค์จะเลิกสูบบุหรี่ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
www.thailandquitline.or.th หรือ โทร. สายด่วน 1600”
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นหญิง ปัญหาใหญ่ที่ท้าทายสังคมไทย - ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่นหญิง ปัญหาใหญ่ที่ท้าทายสังคมไทย
ผมไม่ได้เขียนถึง ปัญหาการใช้ยาสูบของหญิงไทยในวันสตรีสากล 8 มีนาคม มาหลายปีแล้ว เพราะหญิงไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป สูบบุหรี่เพียง 1.3% (ปี 2564)
ข้อมูลจาก เครือข่ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่อาเซียน SEATCA ทั่วโลกมีเพศหญิงอายุ 15 ปีขึ้นไป 224 ล้านคนที่สูบบุหรี่มวน 103 ล้านคนที่เคี้ยวยาสูบ และวัยรุ่นหญิงที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าน่าจะมีนับล้านคน
ที่น่ากังวลมากที่สุดคือ วัยรุ่นหญิงไทยมีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เท่ากับหรือสูงกว่าของวัยรุ่นชาย ในหลาย ๆ การสำรวจ คืออยู่ที่ 20-30% สูงกว่าอัตราการสูบบุหรี่มวน ของหญิงไทยวัยผู้ใหญ่มากกว่า 10 เท่า
อันตรายของยาสูบในเพศหญิง มีมากกว่าในผู้ชาย
เพราะหญิงที่สูบบุหรี่ นอกจากเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ เหมือนกับที่เป็นในเพศชายแล้ว เพศหญิงยังมีอวัยวะที่เพศชายไม่มี คือมดลูกที่ทำหน้าที่เจริญพันธุ์
นิโคตินจากยาสูบทุกชนิด เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์ ต่อทารกในครรภ์ และการคลอด แต่แม้พยายามจะ เลิก หญิงที่ตั้งครรภ์จำนวนมากก็เลิกสูบไม่ได้
ในอังกฤษมีข้อมูลว่า ในจำนวนหญิงตั้งครรภ์ 5 แสนคน ในแต่ละปี มี 7.4% ใน ปีค.ศ.2023-2024 หรือเท่ากับ 37,000 คน ที่ไม่สามารถจะเลิกสูบบุหรี่ได้จนถึงวันคลอด แม้จะมีโปรแกรมพิเศษที่ช่วยให้หญิงตั้งครรภ์เลิกสูบบุหรี่
หลักฐานจนถึงปัจจุบัน วัยรุ่นที่เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า เสพติดนิโคตินรุนแรงกว่าวัยรุ่นที่สูบบุหรี่มวนและเลิกยากกว่า การปกป้องวัยรุ่นหญิงไทยจากการเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า จึงมีความสำคัญยิ่ง
จึงขอร่วมเห็นด้วยกับที่ รศ.ดร.วิทยา กุลสมบูรณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. ที่เขียน “บทบาทผู้นำสตรีไทย ในการปกป้องเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า” ชื่นชมนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร รมต.ประจำสำนักนายก จิราพร สินธุไพร และ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่า กทม. ที่แสดงความมุ่งมั่นเอาจริงในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า
ทำให้เรามีความหวังมาก ที่จะเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจังต่อเนื่อง เพื่ออนาคตของเด็กไทย โดยเฉพาะเด็กหญิง
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ มูลนิธิรณรงค์ เพื่อการไม่สูบบุหรี่ 8 มีนาคม 2568
โปรดใช้ถ้อยคำสุภาพ เหมาะสม เพื่อบรรยากาศที่ดีในการสนทนา และแบ่งปันข้อมูลอันมีคุณค่าต่อกัน