ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

หน้าร้อนปีนี้ ร้อนปรอทแตกชัวร์ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อย ก็ดีนะ

หน้าร้อนปีนี้ ร้อนปรอทแตกชัวร์ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อย ก็ดีนะ HealthServ.net
หน้าร้อนปีนี้ ร้อนปรอทแตกชัวร์ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อย ก็ดีนะ ThumbMobile HealthServ.net

หน้าร้อนปี 2567 ร้อนแน่นอน ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดไว้ว่าปีนี้จะร้อนกว่าปี 2566 และจะร้อนกว่าปกติประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณฝนรวมเฉลี่ยจะต่ำกว่าค่าปกติ ดังนั้นต้องให้ความสำคัญการดูแลสุขภาพ

กรมอุตุฯ ประกาศเริ่มต้นฤดูร้อน ปี พ.ศ. 2567


22 กุมภาพันธ์ 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่องการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ. 2567 
 
       "ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 โดยในตอนกลางวันบริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดมากกว่า 35 องศาเซลเซียส เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากรังสีดวงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีลมฝ่ายใต้พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งเป็นรูปแบบลักษณะอากาศของฤดูร้อน อย่างไรก็ตามบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าจนถึงประมาณกลางเดือนมีนาคม และคาดว่า ฤดูร้อน จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567"


        5 จังหวัดร้อนจัดที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และอุดรธานี ร้อนติดอันดับ อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 44 องศาเซลเซียส
 
        ขณะที่ กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส มีฝนคะนองบางช่วง


 
หน้าร้อนปีนี้ ร้อนปรอทแตกชัวร์ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อย ก็ดีนะ HealthServ
หน้าร้อนปีนี้ ร้อนปรอทแตกชัวร์ เตรียมตัวรับมือไว้หน่อย ก็ดีนะ HealthServ

สธ.ห่วงประชาชน ให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพหน้าร้อน

กรมอนามัย สธ. มีคำแนะนำรับมือหน้าร้อนปรอทแตก ให้ระวังภัยจากอาหารและโรคทางเดินอาหาร  การทาครีมกันแดดช่วยได้มาก  ความรู้เกี่ยวกับฮีทสโตรก การออกกำลังกายกลางแจ้ง และวิธีปฐมพยาบาล

การป้องกัน โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)

 อากาศร้อน ระวัง...โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) สังเกตอาการ ตัวร้อนจัด ผิวหนังแดงและแห้ง เหงื่อไม่ออก สับสน มึนงง
การป้องกัน
  • ติดตามข่าวสาร พยากรณ์อากาศ อุณหภูมิสูงสุดรายวัน
  • ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ วันละ 6-8 แก้ว
  • ใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา  ระบายความร้อนได้ดี 
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 
  • อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี 
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน

ระวังภัยจากอาหารและโรคทางเดินอาหาร

อากาศร้อน ระวังโรคอุจจาระร่วง และอาหารเป็นพิษ


ระวัง! อาหาร
  • ที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบและอาหารประเภทยำ
  • ปรุงสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ ก้อย พล่า ฯลฯ
  • ที่มีฟองอากาศ กลิ่นเหม็นบูด รสชาติเปรี้ยวผิดปกติ


ข้อแนะนำ
  • ควรนำอาหารมาอุ่นให้เดือดก่อนรับประทานอาหาร
  • หากอาหารที่อุ่นไม่ได้ให้ทำในปริมาณที่พอรับประทานแต่ละมื้อ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบและเมนูที่ไม่ผ่านการทำให้สุกด้วยความร้อน หรือปรุงสุกๆ ดิบๆ
  • สังเกตสภาพอาหารก่อนรับประทานทุกครั้ง
  • เลือกน้ำดื่มบรรจุขวดที่ได้มาตรฐานน้ำบริโภค และมี อย.
  • เลือกน้ำแข็งที่ผลิตเพื่อการบริโภคและได้มาตรฐาน รับรอง GMP และ อย. เท่านั้น

การทาครีมกันแดดช่วยได้มาก

การตากแดดจัดเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหนังได้รับสาร UV ที่เป็นอันตรายต่อผิว

3 จุดสำคัญห้ามละเลย ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

ริมฝีปาก : ควรทาลิปบาล์มที่มีสารป้องกัน แสงแดด เพิ่มความชุ่มชื้น โดยสามารถทาซ้ำได้บ่อย

ผิวหน้า&ตัว : ทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 20 นาที โดยทาผิวหนังและทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง

ผิวมือ : ควรทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวมือบ่อย ๆ และทาครีมกันแดดร่วมด้วย

ความรู้เกี่ยวกับฮีทสโตรก การออกกำลังกายกลางแจ้ง และวิธีปฐมพยาบาล

อากาศร้อนจัด ออกกำลังกายกลางแจ้ง เสี่ยงโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)

5 วิธี ออกกำลังกายอย่างปลอดภัย
 
  1.  ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ หากสูญเสียเหงื่อมากควรดื่มเครื่องดื่มประเภทเกลือแร่
  2. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน
  3. ควรออกกำลังกายในช่วงเช้าหรือเย็น หรือเปลี่ยนมาออกกำลังกายในอาคาร หรือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท
  4. สวมชุดออกกำลังกายที่ระบายความร้อนได้ดี
  5. ควรออกกำลังกายเป็นกลุ่ม และหากมีอาการผิดปกติให้รีบแจ้งบุคคลใกล้ชิด

วิธีปฐมพยาบาล

รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล

ระหว่างที่รอรถพยาบาล ให้พาผู้ป่วย เข้าที่ร่มและเย็น ถอดเสื้อผ้าให้เหลือเท่าที่จำเป็น

จัดให้นอนราบ ยกขา และเท้าสูงกว่าลำตัว

ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น เช็ดตามตัวและใช้พัดลมเป่าช่วย หรือ วางถุงน้ำแข็งตามซอกคอ รักแร้ และ ขาหนีบ

หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคง เพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดตันทางเดินหายใจ
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด