20 พฤษภาคม 2565 ที่รอยัล พารากอนฮอล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเสวนาในหัวข้อ “คุณภาพชีวิตยุคใหม่ ดูแลทุกวัย ยกระดับสวัสดิการ” ภายในงาน “Better Thailand Open Dialogue : ถามมา-ตอบไปเพื่อประเทศไทยที่ดีกว่า” โดยกล่าวว่า ประเทศไทยต้องรับมือกับการระบาดของโรคโควิด 19 ต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ 3 ซึ่งในช่วงแรกทราบกันเพียงว่าเป็นไวรัสจากประเทศจีน แต่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถถอดรหัสพันธุกรรมได้สำเร็จ จนนำมาสู่การผลิตน้ำยาตรวจหาเชื้อและตรวจพบผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้ และเมื่อมีการระบาดใหญ่ไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย การรับมือของรัฐบาลได้มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยพยายามกำจัดโรคระบาดให้เร็วที่สุดและให้ประชาชนเกิดผลกระทบน้อยที่สุด หากกำจัดไม่ได้ก็ต้องให้อยู่กับโรคระบาดได้โดยเกิดผลกระทบน้อยที่สุด
“สิ่งที่ทำให้การควบคุมโรคประสบความสำเร็จ ไม่กดดันจนระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้ คือ ความร่วมมือของประชาชน รวมถึง อสม.กว่า 1 ล้านคน ที่ร่วมกันสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือ ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด วันนี้มีการผ่อนคลายมาตรการ เนื่องจากเชื้อมีความรุนแรงลดลง มีการฉีดวัคซีนมากขึ้น มีความพร้อมด้านสาธารณสุข และมีความมั่นใจที่จะเปิดประเทศ โดยรักษาสมดุลทั้งเศรษฐกิจและสุขภาพความปลอดภัยของประชาชน” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า การบริหารจัดการโควิด 19 ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการบูรณาการการทำงานของรัฐบาล ส่วนการเดินหน้าในอนาคต กระทรวงสาธารณสุขจะใช้แนวคิด “Health for Wealth” พัฒนาสุขภาพให้ดี ส่งผลให้เศรษฐกิจและสังคมดีตามมา โดยใช้ซอฟต์เพาเวอร์ที่มีมาเพิ่มเติมเรื่องสุขภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงเดินหน้าเรื่องเทเลเมดิซีน เพื่อให้การดูแลรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทั้งหมดจะทำให้ประเทศไทยแข็งแรง ไม่ใช่แค่ Better Thailand แต่เป็น Best Thailand