ข้อมูลบริการสุขภาพ

 

แต่ที่แน่ๆ เลย ไม่ใช่โรคที่ติดต่อผ่านการหอมหรือจูบ เนื่องจากฟันจะผุได้นอกจากเชื้อโรคแล้ว ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกด้วย เช่นความเป็นกรดของน้ำลาย การไหลของน้ำลาย สภาพของผิวฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะเวลาการสัมผัสของเชื้อโรคและกรดต่อผิวฟัน

 

 

1. ขยันแปรงฟัน (เช้า-เย็น-ก่อนนอน)

2. เลือกยาสีฟันผสมฟูลออไรด์

3. ใช้แปรงสีฟันขนนิ่ม มีมาตรฐาน

4. พบทันตแพทย์ทุก 4-6 เดือน

5. กินผัก-ผลไม้ ลดปัญหาปากแห้ง

นอกจากนี้ควรลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ควรกินจุกจิก พร้อมกับหมั่นสังเกตฟันของตนเอง หากพบสัญญาณของฟันผุขอให้รีบพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

 

อย่างไรก็ตามขอเพิ่มเติมในส่วนการจูบ แม้ว่าจะไม่ทำให้เกิดโรคฟันผุ แต่ก็เป็นโอกาสส่งผ่านเชื้อโรคทางน้ำลายได้ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ โรคเริม เป็นต้น และหากมีแผลในช่องปากด้วยแล้วอาจทำให้ได้รับเชื้อเอชไอวี เชื้อซิฟิลิส และเชื้อโรคอื่นๆ ที่ติดต่อผ่านเลือดได้ ดังนั้นควรดูแลสุขภาพในช่องปากควบคู่ด้วย

 

ข้อมูลจาก กรมการแพทย์

 

สำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพ หากมีอาการฟันผุ แนะนำเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลประจำตามสิทธิ เพื่อปรึกษาทันตแพทย์ในการรักษาเช่น อุดฟัน ถอนฟัน หากสถานพยาบาลตามสิทธิไม่มีแพทย์เฉพาะด้าน จะพิจารณาออกหนังสือส่งตัวไปยังสถานพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางที่สามารถรักษาได้ [สปสช]