ผลงาน “เครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ภายในครัวเรือนเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ” ของ ดร.นรินทร์ บุญตานนท์ แห่ง คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2564 รางวัลสิ่งประดิษฐ์คิดค้น สาขาสังคมวิทยา
"ช่วยให้ปัญหาการจัดการขยะในชุมชนได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี นับเป็นผลงานที่มีศักยภาพในการพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือนำไปใช้ในทางอื่นได้ สร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศให้ยั่งยืน" คำกล่าวถึงรางวัลนี้ โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
เกี่ยวกับเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ภายในครัวเรือน
ดร.นรินทร์ บุญตานนท์ หัวหน้าโครงการ เล่าถึงความเป็นมาของแนวคิดการพัฒนาว่า เนื่องจากปริมาณขยะอินทรีย์ ในประเทศไทยมีมาก โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ในครัวเรือน เช่น เศษอาหาร เศษผัก การกำจัด จะใช้วิธีการฝังกลบ หรือสร้างถังหมักขยะอินทรีย์ ซึ่งทั้งสองวิธีต้องใช้ระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขลักษณะ ทัศนวิสัย
นักวิจัยจึงประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ภายในครัวเรือนขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาขยะในครัวเรือนที่ส่งกลิ่นเหม็น และยากต่อการกำจัด โดยสามารถกำจัดขยะอินทรีย์ได้เร็ว ในเวลา 48 ชั่วโมง มีกรรมวิธีที่เหมาะสม ประหยัดเวลา และพื้นที่ในการจัดการ สามารถลดปัญหาการจัดการขยะที่ต้นทาง ขยะอินทรีย์จึงปนเปื้อนน้อยลง ลดภาระการจัดการของส่วนกลาง ทำให้กระบวนการการคัดแยกขยะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ชุมชนได้รับการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธีโดยส่งเสริมให้รับผิดชอบร่วมกัน ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของชุมชน และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
"ต้นทุนการผลิตก็ต่ำกว่า มีราคาเพียงหลักพัน จากปกติหลักหมื่นบาท"
การทำงานของเครื่อง
เครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ภายในครัวเรือนเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมนี้ กลไกการทำงานไม่ซับซ้อน อาศัยหลักการของการย่อยสลายสารอินทรีย์ทั่วไป โดยอาศัย สารอินทรีย์ (เศษอาหาร) จุลินทรีย์ และออกซิเจน โดยจุลินทรีย์จะทำการย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะที่มีออกซิเจน ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวจะมีข้อจำกัด ที่ทำให้ระบบการย่อยสลายส่งกลิ่นเหม็น นักวิจัยจึงปรับมาใช้วิธีการทำให้กระบวนการย่อยสลายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการให้เครื่องหมุนกวนส่วนผสมดังกล่าวตลอดเวลา พร้อมกับเติมอากาศเข้าไปในระบบอย่างเพียงพอต่อความต้องการของจุลินทรีย์ ทำให้ความร้อนระบายออกจากระบบ การย่อยสลายก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงที่ และสมบูรณ์ภายในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง โดยไม่เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
หลังจากใช้เครื่องกำจัดขยะอินทรีย์แล้ว ส่วนที่เหลือจากกระบวนการ สามารถนำไปใช้ทดแทนปุ๋ยอินทรีย์ได้อีกด้วย
เครื่องนี้ เป็นระบบอัตโนมัติ ที่สามารถเติมขยะเข้าไปได้ตลอดทุกวัน มีการใช้วงจรไฟฟ้าขนาดเล็กในการทำงาน แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อย ค่าใช้จ่ายต่ำ ประมาณ 2 บาทต่อวัน และตัวเครื่องมีขนาดที่เหมาะสมกับปริมาณขยะอินทรีย์จากครัวเรือน วัสดุหาได้ง่าย
ประโยชน์
“หากมีการนำเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม จะสามารถลดปริมาณขยะโดยรวม กว่า 60% ลงได้ หรือคิดเป็นงบประมาณกว่า 64 ล้านบาทในแต่ละวัน จากการจัดการขยะอินทรีย์ นอกจากนี้ขยะประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ปนเปื้อนกับขยะอินทรีย์ก็ยังสามารถนำไปใช้งานใหม่ หรือใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ได้"
ตัวเครื่องผ่านการจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรแล้ว ขณะนี้ ได้นำไปใช้ประโยชน์ตามหน่วยงาน ผู้ประกอบการ และกลุ่มบุคคลต่าง ๆ รวม 100 กว่าเครื่อง พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ให้หน่วยงานและชุมชน อาทิ วัด โรงเรียน โรงไฟฟ้า เพื่อให้คนไทยหันมาตระหนักถึงการจัดการขยะมากยิ่งขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมกับ บริษัท เอ็นไวสมาร์ทเทค จำกัด โดยได้รับการสนับสนุนทุน Pre-Seed จากมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์
ข้อมูลและภาพจาก
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ