ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

Institute of Child and Adolescent Mental Health

Logo Thumb preview

ที่อยู่/ติดต่อ
75/1 ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. 10400
โทรศัพท์ 02-248-8999
โทรสาร 02 248-8998
สายด่วนสุขภาพจิต 1323

*ข้อมูลรวบรวมโดย Healthserv.net เพื่ออำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้กับผู้ชมที่ต้องการข้อมูลสถานพยาบาล ไม่ใช่เว็บทางการของรพ./สถานพยาบาลแต่อย่างใด แนะนำให้ไปยังเว็บไซต์/เฟซบุ๊ค หรือช่องทางติดต่อของรพ./สถานพยาบาลนั้นๆ โดยตรง

ข้อมูล/ประกาศ/บริการ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์


บริการของเรา

คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น

คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ให้บริการตรวจรักษาและให้คำปรึกษากับผู้ปกครองเกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์ พฤติกรรม ปัญหาด้านการเรียนรู้ ให้กับผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 2 ถึง 18 ปี โดยทีมสหวิชาชีพ
 
คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น
ให้บริการตรวจรักษาและให้คำปรึกษากับผู้ปกครองเกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์ พฤติกรรม ปัญหาด้านการเรียนรู้ ตลอดจนวิธีการเลี้ยงดูเด็กให้มีพฤติกรรมทางสังคมที่เหมาะสม รับผู้ป่วยเด็กตั้งแต่อายุ 2 ถึง 18 ปี โดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งมีบริการด้านต่างๆ ดังนี้
 
โรคทางจิตเวชในเด็กและวัยรุ่น
  • ปัญหาพัฒนาการ เช่น พูดช้า ช่วยเหลือตนเองได้ช้าไม่สมวัย โรคออทิสติก
  • ปัญหาพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว พูดปด หนีโรงเรียน
  • ปัญหาการเรียน เช่น บกพร่องด้านการเรียนรู้ ปฏิเสธไม่ไปโรงเรียน
  • ปัญหาครอบครัว เช่น การอบรมเลี้ยงดูลูกที่ไม่เหมาะสม
  • ปัญหาวิกฤตทางจิตเวชเด็กและวัยรุ่น เช่น ซึมเศร้า ฆ่าตัวตาย
  • ปัญหาทั่วๆไป เช่น พี่อิจฉาน้อง เด็กปัสสาวะรดที่นอน เด็กติดเกม เบี่ยงเบนทางเพศ เด็กแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม
เวลาทำการ
สำหรับผู้ป่วยใหม่ : ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 10:00 น.
ในการบริการครั้งแรกผู้ป่วยอาจไม่ได้รับการตรวจรักษาโดยแพทย์ทันที
สำหรับผู้ป่วยเก่า : สามารถรับบัตรนัดได้ตั้งแต่เวลา 08:30 น. ถึง 11:00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์ : 0-2248-8999
facebook.com/สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์


5 โรคหลัก
โรคออทิสติค
กลุ่มโรคแอลดี LD
โรคติดเกม
โรคซึมเศร้า
โรคสมาธิสั้น

Facebook สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์

 ประวัติความเป็นมาสถาบัน
 
 
การก่อตั้งคลินิกสุขวิทยาจิต-การพัฒนาเป็นศูนย์สุขวิทยาจิต และสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์
 
       ก่อนหน้าจะเป็นสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ย้อนหลังไป 58 ปี ได้มีการก่อตั้งคลินิก สุขวิทยาจิต เมื่อ พ.ศ. 2496 มีสถานที่ตั้งอยู่ที่ตึกสุขวิทยาจิตใน โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา คลินิกสุขวิทยาจิต เกิดขึ้นจากการร่วมมือของกระทรวง สาธารณสุข และองค์การอนามัยโลก โดยศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน แสงสิงแก้ว ในฐานะ ผู้ริเริ่มงานสุขภาพจิตในประเทศไทย มีแนวคิดว่าการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตแล้ว ค่อนข้างจะสิ้นเปลืองงบประมาณมาก และเป็นการช่วยเหลือที่สายเกินไป แต่การป้องกัน ก่อนที่จะเกิดปัญหา และการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเสียแต่ในระยะเริ่มแรกจะได้ผลดีกว่า ในส่วนขององค์การอนามัยโลกได้ส่งผู้เชี่ยวชาญคือ Dr.Magaret Stepan ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา คลินิกชาวเวียนนาให้มาเป็นที่ปรึกษาในการก่อตั้งและการดำเนินงานของคลินิกสุขวิทยาจิต ในระยะ 2 ปีแรก รวมทั้งการจัดหลักสูตรสอนและฝึกอบรมด้านจิตเวชศาสตร์ขึ้นที่โรงพยาบาล สมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งไม่เคยมีการ ฝึกอบรมด้านนี้มาก่อนในประเทศไทย
 
งานด้านบริการของคลินิกสุขวิทยาจิต  
       ภายหลังการก่อตั้งตึกสุขวิทยาจิตขึ้นในบริเวณโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา  (ปัจจุบันคือ ตึกวิชาการจิตเวช) เสร็จเรียบร้อยแล้ว คลินิกสุขวิทยาจิตได้เปิดให้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี  ที่มีปัญหาพฤติกรรม และปัญหาทางอารมณ์ เช่น เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว  เด็กหนีโรงเรียน  เด็กถูกทิ้ง และเด็กปัสสาวะรดที่นอน เป็นต้น
 
       เนื่องจากในขณะนั้นความเข้าใจของประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรม และปัญหาทางอารมณ์ เกือบจะไม่มีเลย  ส่วนใหญ่จะรู้จักเด็ก ที่มีปัญหาในลักษณะที่เห็นได้ชัดเจน  และมีความลำบากในการดูแล  เช่นเด็กปัญญาอ่อนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมซึ่งมีสาเหตุจาก ความพิการทางสมอง และเด็กที่เป็นโรคลมชัก  เป็นต้น สถิติผู้ป่วยเด็กซึ่งมารับบริการแก้ไขปัญหาที่คลินิกสุขวิทยาจิตจึงเป็นเด็กที่มีปัญหาดังกล่าว เสียเป็นส่วนใหญ่ 
 
การริเริ่มการให้บริการโดยทีมจิตเวช (Psychiatric Team)
       วิธีการแก้ไขช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมและปัญหาทางอารมณ์เน้นในการศึกษาที่มาหรือสาเหตุความเป็นมาของปัญหาโดยละเอียด เพื่อให้การแก้ไขได้อย่างถูกต้อง จึงได้มีการริเริ่มการปฎิบัติงานเป็นทีมซึ่งประกอบด้วย จิตแพทย์ ทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัย และให้การบำบัดรักษา
นักสังคมสงเคราะห์ทางจิตเวช ทำหน้าที่ศึกษาประวัติความเป็นมาของปัญหาจากพ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเด็ก ขณะเดียวกันก็ให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ เกี่ยวกับพัฒนาการเด็ก และการอบรมเลี้ยงดูที่เหมาะสมเพื่อมิให้กลายเป็นปัญหาที่รุนแรง และป้องกันการลุกลามอื่น ๆ กลายเป็นปัญหาต่อไป
นักจิตวิทยาคลินิก ศึกษาเด็กโดยใช้แบบทดสอบทางจิตวิทยา และการสังเกตุพฤติกรรม เพื่อเข้าใจกลไกที่มาของปัญหา (Dynamic formulation)ลักษณะบุคลิกภาพ ข้อบกพร่อง วิธีการปรับตัว รวมทั้งศักยภาพความสามารถด้านเชาว์ปัญญา และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ในการแก้ไขปัญหา
       ภายหลังการดำเนินงานของบุคลากรในทีมจิตเวชได้มีการประชุมร่วมกัน   (Clinical Conference)เพื่อสรุปผลการวินิจฉัยโรค และแนวทางช่วยเหลือ แก้ไข ปัญหาเด็กต่อไป ในระยะ  2-3  ปีแรกที่เริ่มมีClinical Conference  ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน ได้เข้ามาร่วมในการประชุม เพื่อให้คำแนะนำและข้อคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์  นอกจากนี้ยังได้เชิญ ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศซึ่ง ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน    รู้จักคุ้นเคย  เช่น ศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ ซุง ยี ลิน  และ Professor W. Line มาเข้ามาร่วมในการประชุมด้วย  ทำให้บรรยากาศในการประชุมมีลักษณะเป็น Teaching conference และผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนได้ความรู้ ที่เป็นประโยชน์ในการปฎิบัติงาน
 
Clinical Staff 
ในระยะแรกที่ก่อตั้งคลินิกสุขวิทยาจิต มีผู้ปฏิบัติงานเพียง 3 ท่านคือ 
แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา ทำหน้าที่จิตแพทย์เด็ก หัวหน้าทีมในขณะที่ยังไม่มีผู้ได้รับการฝึกอบรมมาโดยตรงในด้าน จิตวิทยาและสังคมสงเคราะห์ 
 
นายแพทย์ประสิทธิ หะรินสุดา ทำหน้าที่นักจิตวิทยาคลินิกร่วมกับ Dr. Stepan
นางสาวสุภวัลภ์ หินแก้ว ซึ่งจบมาทางด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ ต่อมา นายแพทย์ประสิทธิ หะรินสุดา ได้ทุน WHO ไปศึกษาต่อด้านจิตวิทยาคลินิกที่มหาวิทยาลัย Toronto ประเทศ Canada และ นางสาวสุภวัลภ์ พินแก้ว ได้ทุน Colombo Plan ไปศึกษาต่อด้านสังคมสงเคราะห์ทางจิตเวชที่ประเทศออสเตรเลีย
 
       ใน พ.ศ. 2498 คลินิกสุขวิทยาจิต ได้รับเจ้าหน้าที่เพิ่มอีก 1 คน ซึ่งมีคุณวุฒิอักษรศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้ปฎิบัติงานตำแหน่งเลขานุการ คลินิกสุขวิทยาจิต และเป็นเลขานุการของ Dr. Stepan ผู้เชี่ยวชาญองค์การอนามัยโลกด้วย 
 
ในการนี้ นางสาวสมทรง บุญนาค (ปัจจุบันนางสมทรง สุวรรณเลิศ) ได้รับการบรรจุให้เข้ารับราชการ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 ขณะที่ น.พ.ประสิทธิ หะรินสุดา อยู่ในระหว่างศึกษาต่อต่างประเทศ นางสมทรง สุวรรณเลิศจึงได้ปฎิบัติงานในฐานะนักจิตวิทยาภายใต้การแนะนำดูแลของ Dr. Stepan อีกด้วย ขณะเดียวกัน เมื่อมีการเปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านทางจิตเวชรุ่นแรกที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ก็ได้มีโอกาสเข้ารับฟังการสอน และบรรยายโดยตลอด เมื่อปฎิบัติงานอยู่ได้ 4 ปี ก็ได้รับทุน Colombo Plan ให้ไปศึกษาต่อด้าน Child Study และจิตวิทยาคลินิกที่มหาวิทยาลัย Toronto ประเทศ Canada เมื่อพ.ศ. 2504-2506 โดยได้รับการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฎิบัติ (Internship) เพื่อให้กลับมาปฎิบัติงานเป็น นักจิตวิทยาคลินิกได้ และสามารถสอน ฝึกอบรม เพื่อการผลิตบุคลากรวิชาชีพจิตวิทยาคลินิก สำหรับหน่วยงาน จิตเวชและสุขภาพจิตต่อไป
 
งานด้านการเผยแพร่ความรู้   
       เป็นการดำเนินงานที่คู่ขนานไปกับงานบริการโดยการเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพจิตสู่ประชาชนทั่วไป และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กรวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับพัฒนาการเด็กและการดูแลเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสม เพื่อป้องกันมิให้เด็กมีปัญหาจนสายเกินกว่าจะแก้ไขได้ 
 
       เจ้าหน้าที่ทุกคนของคลินิกสุขวิทยาจิตในขณะนั้นต่างร่วมมือกันในการเผยแพร่ความรู้โดยการเขียนบทความออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงเกี่ยวกับการให้บริการของ คลินิกสุขวิทยาจิต และปัญหาของเด็กที่ควรมารับการแก้ไข รวมทั้งความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก พัฒนาการของเด็กวัยต่างๆและปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละวัย และแนวทางการป้องกันมิให้เกิดเป็นปัญหา
 
 
       การเผยแพร่ความรู้อีกวิธีหนึ่งคือ การเป็นวิทยากร ไปบรรยายตามสถาบันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกับการดูแลเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงเรียน แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา มีบทบาทค่อนข้างมากในเรื่องนี้ จนทำให้คลินิกสุขวิทยาจิตได้เป็นที่รู้จักและยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ผลที่ตามมาคือเด็กที่มีปัญหาพฤติกรรมและปัญหาทางอารมณ์ได้รับการแนะนำ หรือส่งมารับบริการ ที่คลินิกสุขวิทยาจิตเพิ่มขึ้น
 
       นอกจากนี้ก็มีการเผยแพร่ความรู้อีกวิธีหนึ่งคือการจัดพิมพ์เอกสารแจกแก่ผู้มารับบริการและประชาชนทั่วไป โดยจัดทำในลักษณะของแผ่นพับ มีเนื้อหาข้อความที่เข้าใจได้ง่าย และเป็นเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ของเด็ก และวิธีการป้องกัน แก้ไข เช่น เรื่องเด็กหนีโรงเรียน เด็กพูดปด เด็กปัสสาวะรดที่นอน เด็กดูดนิ้ว เด็กลักขโมย เด็กก้าวร้าว และพ่อแม่กับการเลี้ยงดูเด็กเป็นต้น
 
ระหว่าง  พ.ศ.  2506-2507      
       หลัง Dr. Stepan  หมดวาระการปฎิบัติงานที่คลินิกสุขวิทยาจิต  องค์การอนามัยโลกได้ส่ง Dr.Alan Stollen ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็ก จากประเทศ ออสเตรเลีย  มาเป็นที่ปรึกษา ให้คลินิกสุขวิทยาจิต เนื่องจากขณะนั้นมีจิตแพทย์เด็กปฎิบัติงานอยู่เพี่ยงคนเดียวคือ  แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา  ต่อมาจึงได้มีจิตแพทย์เด็กซึ่งจบการฝึกอบรม ทางด้านจิตเวชเด็กจากสหรัฐอเมริกามาปฎิบัติงานที่คลินิกสุขวิทยาจิตเพิ่มขึ้นอีกหลายคน  เช่น แพทย์หญิงศรีธรรม ธนภูมิ แพทย์หญิงวาสนา ศรมณี  และแพทย์หญิงอัมพร โอตระกูล เป็นต้น  ซึ่งในระยะหลังก็ได้ย้ายไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี  โรงพยาบาลจุฬาฯ  และคณะสาธารณสุขศาสตร์  ตามลำดับ
 
การขยายงานด้านบริการเข้าสู่ชุมชน 
       ในช่วงที่คลินิกเริ่มให้บริการแก้ไขปัญหาประชาชนบางส่วนยังมีอคติที่จะพาเด็กมารับ บริการที่คลินิกสุขวิทยาจิตโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา  เพราะมีความเห็นว่า เด็กไม่ได้เป็นโรคจิต  ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน  จึงได้มอบนโยบายให้มีการขยายงานด้านบริการของคลินิกสุขวิทยาจิตให้เข้าถึง ชุมชนเพื่อให้ไปรับบริการได้สะดวกขึ้น  และเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึง   ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน  ได้กล่าวถึงการขยายงานด้านนี้ว่าเป็น
“ คลินิกสี่มุมเมือง “  ซึ่งได้แก่
คลินิกสุขวิทยาจิตที่อาคารราชดำเนินติดกับอาคารศึกษาภัณฑ์  ซึ่งเป็นองค์การค้าของคุรุสภา  มีแพทย์หญิงฉวี  สิงหวิสัย  เป็นจิตแพทย์เด็ก หัวหน้าทีม หม่อมหลวง วารุม ลดาวัลภ์  ทำหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์  และนางสาวอุ่นเรือน  อำไพพัสตร์   ทำหน้าที่นักจิตวิทยาคลินิก 
บริการคลินิกสุขวิทยาจิตที่แผนกกุมารโรงพยาบาลราชวิถีมี  แพทย์หญิงพะยอม อิงคณานุวัฒน์  เป็นจิตแพทย์หัวหน้าทีม  นางสาวลัดดา อะยะวงศ์ทำหน้าที่นักจิตวิทยา  และนางสาวจันทิรา   ทำหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ 
บริการคลินิกสุขวิทยาจิตที่สถานสงเคราะห์แม่และเด็กสาธร  มีแพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา ทำหน้าที่หัวหน้าทีม  มีนักสังคม สงเคราะห์และ นักจิตวิทยาคลินิกผลัดเปลี่ยนเวรกันไปให้บริการสัปดาห์ละครั้ง  นอกจากให้บริการแล้วยังได้มีการทำ  Clinical Conference   เพื่อให้ความรู้ แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นอีกด้วย 
       การให้บริการของคลินิกสุขวิทยาจิตทั้ง  4  แห่ง  ดังกล่าวแล้ว  ได้ดำเนินการอยู่ระยะหนึ่งในช่วง พ.ศ. 2506-2511  จนเป็นที่รู้จักของประชาชน ทั่วไป  แต่เริ่มมีปัญหา จำนวนเจ้าหน้าที่ ไม่เพียงพอ และบางแห่งก็ไม่สะดวกในเรื่องสถานที่  เช่นที่อาคารราชดำเนินเพราะมีความต้องการสถานที่คืน  แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา  จึงมีนโยบาย ให้รวมหน่วยงานต่างๆ  เข้าด้วยกันเป็นหน่วยเดียวคือที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา  เพื่อความเข้มแข็งในการปฎิบัติงาน ขณะเดียวกันก็ยังคงมีวัตถุประสงค์เดิม คือต้องการที่จะให้ผู้มารับบริการมีความสะดวกในการเดินทาง มารับบริการ  และไม่มีอคติในการมาที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา  แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา ในฐานะผู้อำนวยการคลินิกสุขวิทยาจิต จึงได้ พยายามที่จะหาสถานที่ใหม่เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ดังกล่าวมาแล้ว ขณะเดียวกันก็ดำเนินการยกระดับคลินิกสุขวิทยาจิตซึ่งเดิมเป็นหน่วยงานในสังกัด โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาให้ขึ้นตรงกับกองโรงพยาบาลโรคจิตในขณะนั้น  และเปลี่ยนชื่อจากคลินิกสุขวิทยาจิตมาเป็น “ ศูนย์สุขวิทยาจิต” (Clinical Mental Health Center)  นโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน  ประกอบกับองค์การ เภสัชกรรม ก็ได้เอื้อเฟื้อแบ่งที่ดิน ให้ก่อสร้างอาคารบริเวณถนนพระรามที่ 6  ติดกับถนนโยธี  ตรงข้ามโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเป็นจุดที่สะดวกในการเดินทาง และเป็นที่รู้จักของประชาชน ทั่วไป  เมื่อได้รับงบประมาณที่เหมาะสมจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารจนแล้วเสร็จ  เมื่อ  พ.ศ. 2512
 
การย้ายศูนย์สุขวิทยาจิตมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบัน 
       ศูนย์สุขวิทยาจิตได้ย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบันเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2512  ศูนย์เป็นตึกอาคาร 4 ชั้น รวมดาดฟ้าเป็นชั้นที่5 มีสถานที่กว้างขวาง พอสมควร สำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้น และได้ใช้บริเวณอาคารชั้นที่1 ให้บริการรับปรึกษาแก้ไขเด็กที่มีปัญหาตั้งแต่แรกเกิด- อายุ 12 ปี ต่อมาจึงได้ ขยายการให้บริการสำหรับเด็กวัยรุ่นด้วย  เนื่องจากมีความต้องการจากเด็กกลุ่มหลังนี้เพิ่มขึ้น
 
งานด้านการสอนและฝึกอบรม 
       นอกเหนือจากงานด้านบริการ  งานเผยแพร่ความรู้ก็ได้มีงานด้านการสอนและฝึกอบรมซึ่งเป็นงานที่สืบเนื่องจากที่ดำเนินการไว้แล้วเมื่อยังเป็น คลินิกสุขวิทยาจิต แต่มีความชัดเจนและ เข้มแข็งยิ่งขึ้นเมื่อศูนย์สุขวิทยาจิตย้ายมาที่ตั้งปัจจุบัน
 
การสอนฝึกอบรมทางจิตเวชเด็ก 
       ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน  แสงสิงแก้วได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าศูนย์สุขวิทยาจิตจะเป็นที่ให้การสอนฝึกอบรมทางจิตเวช แก่แพทย์ ประจำบ้านทางจิตเวชที่จะต้องมาปฏิบัติงาน ที่ศูนย์สุขวิทยาจิต  เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนและเป็นที่แห่งแรกซึ่งให้การฝึกอบรมด้านนี้ในประเทศไทย แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา เป็นผู้บุกเบิกและทุ่มเทในงานด้านนี้อย่างมาก ทั้งในด้านการสอนและการดูแลให้คำปรึกษาในการทำ case study 
 
การสอนฝึกอบรมด้านสังคมสงเคราะห์ทางจิตเวช
       ศาสตราจารย์นายแพทย์ฝน  แพทย์หญิงคุณหญิงสุภาและนางสาวสุภวัลภ์ พินแก้ว ซึ่งได้รับการฝึกอบรมด้านสังคมสงเคราะห์ทางจิตเวช จาก ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการกระตุ้นให้คณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเดิมมีหลักสูตรการเรียนการสอน ด้าน สังคมสงเคราะห์ทั่วไป ให้สนใจเรื่องสังคมสงเคราะห์ทางจิตเวช และได้มีการฝึกอบรมด้านนี้ขึ้น ในคณะสังคมสงเคราะห์  ซึ่งต่อมาก็ได้ผลิตบุคลากรวิชาชีพ สังคมสงเคราะห์ทางจิตเวช  เพื่อให้ปฏิบัติงานในหน่วยงานจิตเวชและสุขภาพจิต หลังได้รับการเรียนการสอนภาคทฤษฎีและมาฝึกปฏิบัติ งานที่ศูนย์ สุขวิทยาจิต
 
การสอนฝึกอบรมด้านจิตวิทยาคลินิก 
Inservice-Training
       ในประเทศไทยยังไม่มีการสอนฝึกอบรมด้านจิตวิทยาคลินิกในสถาบันการศึกษาต่างๆมาก่อนเลย เมื่อนางสมทรง สุวรรณเลิศ ซึ่งได้รับการฝึกอบรม ในด้านนี้จากมหาวิทยาลัย Toronto, Canada ระหว่างพ.ศ.2504-2506 และกลับมาปฏิบัติงานที่ศูนย์สุขวิทยาจิตก็ได้ริเริ่มการสอนฝึกอบรมInservice-Training ให้แก่ผู้ได้รับการบรรจุเข้าทำงานในตำแหน่งนักจิตวิทยาคลินิก ของหน่วยงานสังกัดกองโรงพยาบาลโรคจิต ซึ่งบุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความรู้ พื้นฐานทางจิตวิทยาทั่วไปและจิตวิทยาเด็กอยู่บ้าง โดยจบการศึกษาวุฒิ  ค.บ.และกศบ. การสอนฝึกอบรม Inservice-Training จัดเป็นหลักสูตร 6เดือน โดยมีการสอนภาคทฤษฎีในวิชาต่างๆ ที่จำเป็นและควรรู้เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจิตเวชและผู้มีปัญหาสุขภาพจิต ได้โดยเป็นการสอนบรรยาย ในภาคบ่ายตลอดระยะ เวลา 6 เดือน ส่วนในภาคเช้าผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกคนจะต้องฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยโดยใช้แบบทดสอบทางจิตวิทยาชนิดต่างๆ  และมีการทำ Clinical Psychology Conference สัปดาห์ละครั้ง เป็นการตรวจสอบและให้คำแนะนำที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน  สำหรับการสอนฝึกอบรม Inservice Trainingได้จัดขึ้นที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา  3  รุ่น มีนักจิตวิทยาคลินิกที่ได้รับการอบรม และกลับไปปฎิบัติงานในหน่วยงานจิตเวชและ สุขภาพจิตประมาณ  20-25  คน
 
       การสอบฝึกอบรมในหลักสูตรจิตวิทยาวิชาเอกจิตวิทยาคลินิก เมื่อมีการประชุมสัมนาเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนขึ้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เมื่อ พ.ศ. 2506  โดยศจ.มล.ตุ้ย  ชุมสาย  ได้เชิญหน่วยงานต่างๆ  ที่เกี่ยวข้องหรือต้องการบุคลากรที่จบปริญญาตรีด้านจิตวิทยาบรรจุเข้าทำงาน  ศจ.นพ. ฝน  และนางสมทรง  สุวรรณเลิศ  จึงได้เข้าร่วมในการประชุมได้เสนอแนะการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนสาขาจิตวิทยา  วิชาเอกจิตวิทยาคลินิก  เพื่อให้มีบุคลากรที่จบปริญญาตรีในสาขานี้ สามารถเข้าปฎิบัติงานในหน่วยงานจิตเวช  และสุขภาพจิตได้  ซึ่งความต้องการบุคลากรเหล่านี้มีมากขึ้น  เนื่องจากมีการปฎิบัติงานเป็นทีมจิตเวชในเกือบทุกหน่วยงาน
 
       ในพ.ศ. 2507  จึงได้มีการเปิดการเรียนการสอนในสาขาจิตวิทยา วิชาเอกจิตวิทยาคลินิกขึ้นเป็นครั้งแรกที่คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ ต่อมาก็ได้มีการ เปิดการเรียนการสอนสาขานี้ขึ้นในสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้แก่ คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง  มหาวิทยาลัยนเรศวรพิษณุโลก  วิทยาลัยเซนต์หลุยส์  และการเรียนการสอน ในระดับปริญญาโทที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  และมหาวิทยาลัยรามคำแหง หลักสูตรการเรียนการสอนสาขาจิตวิทยา  วิชาเอกจิตวิทยา คลินิกในปัจจุบันมีมาตรฐานกลาง  ซึ่งจัดทำโดย คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก  ซึ่งสถาบันการศึกษาต่างๆ  จะต้องปฎิบัติตามเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะสามารถเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรนี้ได้  ตลอดเวลาที่มีการเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนดังกล่าวมาแล้ว  นางสมทรง  สุวรรณเลิศ  ได้มีส่วนอย่างมากในการให้คำแนะนำการจัดทำหลักสูตร  และเป็นอาจารย์พิเศษ ในการสอนทั้งภาคทฤษฎี  และภาคปฎิบัติ  โดยเฉพาะในระยะเวลาแรก  เริ่มจาก  พ.ศ.2507-2535 และในปัจจุบันยังมีส่วนในการดูแลด้านพัฒนาวิชาการในฐานะประธาน คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิกอีกด้วย
 
       อาจกล่าวได้ว่าจิตวิทยาคลินิกเกิดขึ้นที่ศุนย์สุขวิทยาจิตเป็นครั้งแรก และมีการพัฒนาที่ดีขึ้นตามลำดับมีมาตรฐานที่เป็นสากลทัดเทียมกับของต่างประเทศ ในขณะนี้นักจิตวิทยาคลินิกเป็นวิชาชีพที่ต้องมีการสอบเพื่อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเพื่อให้ประกอบโรคศิลปะ ตามพระราชบัญญญัติ การประกอบโรคศิลปะ  พ.ศ.2542  ซึ่งในขณะนี้มีนักจิตวิทยาคลินิกที่ได้สอบขึ้นทะเบียนแล้ว  400  กว่าคน
 
       ในช่วง พ.ศ.2512 เป็นต้นมา  ศูนย์สุขวิทยาจิตมีอัตรากำลังนักจิตวิทยาคลินิกเพิ่มขึ้นตามลำดับและมีจำนวนสูงสุดถึง   คน นักจิตวิทยาคลินิกทุกคน มีส่วนรับผิดชอบในการสอนภาคทฤษฎีในสถาบัน การศึกษาต่างๆ  และให้การควบคุมดูแลนิสิตนักศึกษาที่มาฝึกปฎิบัติงานที่ศูนย์สุขวิทยาจิตด้วย
 
งานสุขภาพจิตโรงเรียน 
       เป็นงานเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพจิต จิตวิทยาด้านพัฒนาการเด็ก การอบรมเลี้ยงดูที่ เหมาะสม และการป้องกันมิให้เด็กกลายเป็นปัญหา ซึ่งเป็นงานที่ทำต่อเนื่องจากที่เคยทำมาแล้วที่คลินิกสุขภาพจิต รพ.สมเด็จเจ้าพระยา แต่เมื่อย้ายที่ทำการมาที่ศูนย์สุขวิทยาจิต งานเผยแพร่ความรู้ก็ได้ ทำเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความรู้แก่ผู้เกี่ยวข้องกับเด็กรองจากพ่อแม่ ก็คือ ครู ผู้ดูแลเด็ก งานสุขภาพจิต โรงเรียนจึงได้เกิดขึ้นโดย พญ.คุณหญิงสุภา มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มจัดโครงการฝึกอบรมครูในเขตการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ โดยจัดทีมจิตแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์และ นักจิตวิทยาคลินิกไปเป็นวิทยากร บรรยาย ซึ่งในระยะต่อมานายณรงค์ศักดิ์  ตะละภัฎ นักจิตวิทยาคลินิกของศูนย์สุขวิทยาจิต ได้เป็นผู้สืบทอดโครงการ สุขภาพจิตในโรงเรียนต่อจากพญ.คุณหญิงสุภา เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่ต้องดำเนินการ จำนวนมาก
 
       งานที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิตโรงเรียนอีกอย่างหนึ่งคือ การอบรมครูแนะแนว โดยการ ร่วมมือกับสมาคมนักแนะแนวแห่งประเทศไทย ซึ่งทาง แพทย์หญิงคุณหญิงสุภา ก็ได้มีบทบาทสำคัญ ในการเป็นวิทยากรบรรยาย ซึ่งทำให้ครูแนะแนวเข้าใจเรื่องสุขภาพจิตและการคัดกรอง ช่วยเหลือเด็กที่มี ปัญหาในโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากโครงการฝึกอบรมแล้ว ทีมจิตเวชของศูนย์สุขวิทยาจิต ยังได้ไปให้บริการแก้ไขเด็กที่มีปัญหาที่โรงเรียนสาธิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนมักกะสัน เป็นการไปให้บริการถึงที่แทนการเดินทางมารับบริการที่ศูนย์สุขภาพจิต และครูในโรงเรียนเหล่านั้น ก็ได้ความรู้ในการสังเกตเด็กที่เป็นปัญหา และให้การช่วยเหลือในระยะเริ่มแรกได้ก่อนส่งมารับบริการจากทีมของศูนย์สุขวิทยาจิตในกรณีที่เป็นปัญหารุนแรง
 
งานโรงพยาบาลกลางวัน (Day Care)
       เดิมมีการให้บริการด้านนี้มาก่อนที่คลินิกสุขวิทยาจิตรพ.สมเด็จเจ้าพระยา มีพญ.วาสนา  ศรมณี เป็นผู้ดูแล ต่อมาศูนย์สุขวิทยาจิตเปิดให้บริการที่ชั้น 2 ของอาคาร วัตถุประสงค์ในการมี Day Care ก็เพื่อดูแลรักษา เด็กที่มีปัญหาค่อนข้างรุนแรง แต่ทางครอบครัวยังพอดูแลเด็กได้ที่บ้าน เช่น เด็กที่ไม่ยอมไป โรงเรียน เด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำลายของและเด็กอยู่ไม่สุข เป็นต้น ซึ่งในบางรายต้องการการรักษาทางยา ร่วมด้วย ต่อมาก็มีการรับเด็กออทิสติกและ มีการอบรมพ่อแม่ให้ดูแลเด็กที่บ้านได้อย่างเหมาะสม Day Care สำหรับเด็กที่มีปัญหานี้ ยังเป็นที่สำหรับการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ทางจิตเวชที่มารับ การฝึกอบรม ทางจิตเวชเด็กที่ศูนย์สุขวิทยาจิตอีกด้วย
 
       Day Care สำหรับเด็กปกติก่อนวัยเรียน อยู่ที่บริเวณชั้น 4 ของอาคาร วัตถุประสงค์ในการมีบริการด้านนี้ คือการแบ่งเบาภาระพ่อแม่ที่ทำงาน และไม่มีผู้ดูแลเด็กที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่พ่อแม่ ทำงานในหน่วยงานใกล้เคียงกับศูนย์สุขวิทยาจิต เช่นองค์การเภสัชกรรม รพ.รามาธิบดี รพ.ราชวิถี เป็นต้น
 
       นอกจากนี้ศูนย์สุขวิทยาจิตยังมีโครงการอบรมความรู้แก่ผู้ปกครองเด็กที่มารับบริการโรงพยาบาลกลางวัน โดยได้มีการจัดประชุมผู้ปกครอง และมี วิทยากรบรรยายความรู้ด้านสุขภาพจิต พัฒนาการเด็ก และการอบรมเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม  เป็นการให้การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา (Primary prevention) ต่อไป หรือเมื่อเด็กเกิดปัญหาการปรับตัว ระหว่างมารับบริการที่ศูนย์สุขวิทยาจิต พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็จะได้รับ คำแนะนำในการแก้ปัญหาเด็กด้วย เช่น เด็กบางคนมีปัญหาการแยกจาก เมื่อพ่อแม่พาเด็กมาส่ง เด็กจะร้องไห้เป็นชั่วโมงกว่าจะหยุด หรือเด็กบางคนแยกตัวเองไม่เข้ากลุ่มเพื่อนเป็นต้น
 
       อนึ่ง Day Care สำหรับเด็กปกติก่อนวัยเรียนยังเป็นที่สำหรับเจ้าหน้าที่ของศูนย์แพทย์ประจำบ้านทางจิตเวช ซึ่งมีความสนใจในการศึกษา พฤติกรรมของเด็กปกติ หรือทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ การปรับตัวของเด็กปกติรวมทั้งการเป็นต้นแบบให้หน่วยงานอื่น ซึ่งจะเปิด Day Care สำหรับเด็กปกติ ได้มาศึกษาดูงานที่ศูนย์สุขวิทยาจิตด้วย
 
สรุป  ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคลินิกสุขภาพจิต เมื่อพ.ศ. 2496 แล้วยกระดับเป็นศูนย์สุขวิทยาจิต และย้ายมาที่ตั้งปัจจุบัน เลขที่ 81/15 ถนนพระรามที่ 6 ตรงข้าม รพ.รามาธิบดี เมื่อพ.ศ. 2512 ต่อมาก็ได้เปลี่ยน เป็นสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ จะเห็นพัฒนาการของสถาบันฯ ซึ่งเติบโตขึ้น ทั้งสถานที่ ทำงาน และจำวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในระยะแรกมีเพียงทีมจิตเวชเพียง 3 คน ต่อมา ก็มีสหวิชาชีพอื่นที่เข้ามาร่วมปฏิบัติงาน เช่น พยาบาล เภสัชกร เจ้าหน้าที่ธุรการและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ช่วยให้การปฏิบัติงานของสถาบันฯ เป็นไปด้วยความเข้มแข็ง ราบรื่น ทั้งนี้เริ่มมาจากนโยบาย การสนับสนุน ของ ศจ.นพ.ฝน  แสงสิงแก้ว บิดาแห่งสุขภาพ และ ศจ.พญ.คุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา ผู้อำนวยการคนแรกของคลินิกสุขวิทยาจิต ซึ่งมีความมุ่งมั่น ในการที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ ของ ศจ.นพ.ฝน ที่จะให้สถาบันฯเป็นศูนย์กลางของงานสุขภาพจิตในแง่ของการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นทั้งการป้องกันก่อนเกิด ปัญหา และการแก้ไขปัญหาเสียแต่ในระยะเริ่มแรก สถาบันฯจึงมีบริการแก้ไขปัญหาเด็ก และวัยรุ่นที่มีปัญหาพฤติกรรม และปัญหาทางอารมณ์ โดยให้บริการ ในแบบผู้ป่วยนอก และโรงพยาบาลกลางวันในระยะแรก
 
       งานที่สำคัญอีกด้านหนึ่งคือ การเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ซึ่งทำโดยการเผยแพร่ความรู้ผ่านสื่อมวลชน การอบรมความรู้ให้แก่ผู้ใกล้ชิดเด็ก เช่นครู ครูแนะแนว ซึ่งทำเป็นโครงการสุขภาพจิตโรงเรียน โรงเรียนพ่อแม่ และการจัดทำเอกสารเผยแพร่ เป็นต้น
 
       สถาบันฯ ยังเป็นที่แห่งแรกซึ่งให้การสอนฝึกอบรมด้านกุมารจิตเวชศาสตร์ (Child Psychically ) และเป็นหน่วยงานที่มีวิชาชีพใหม่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย ได้แก่ วิชาชีพสังคม สงเคราะห์ทางจิตเวช และจิตวิทยาคลินิก ซึ่งในปัจจุบันหน่วยงานจิตเวชและ สุขภาพจิตทุกแห่ง จะมีทั้งสองวิชาชีพนี้ปฏิบัติงานอยู่ทั่วประเทศ
 
       อาจกล่าวได้ว่าสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ได้มีพัฒนาการในเชิงก้าวหน้าขึ้นจากอดีตสู่ปัจจุบัน ซึ่งสมควรที่ผู้สืบทอดงานที่ ศจ.นพ.ฝน  แสงสิงแก้ว และพญ.คุณหญิงสุภา มาลากุล ณ อยุธยา ได้ริเริ่มไว้จะได้คงเอกลักษณ์ และสานต่องานด้านต่างๆ ให้มีความเข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับ และมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้นตลอดไป สมกับที่ศจ.นพ. ฝน แสงสิงแก้ว เคยพูดถึงอยู่เสมอว่า ศูนย์สุขวิทยาจิต (สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ในปัจจุบัน)คือ “ไข่แดงของงานสุขวิทยาจิต”
 
“ความสุขของเด็ก ความสุขของครอบครัว คือความสุขของเรา”
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์