ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

Walailak University Hospital

Logo

โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โทรนัดตรวจล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 0 7567 3058 และ 0 7567 3059 ในวันและเวลาราชการ

ที่อยู่/ติดต่อ
222 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ตำบล ไทยบุรี อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช 80160

✅ รับประกันสังคม [คลินิกเครือข่าย]

*ข้อมูลรวบรวมโดย Healthserv.net เพื่ออำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้กับผู้ชมที่ต้องการข้อมูลสถานพยาบาล ไม่ใช่เว็บทางการของรพ./สถานพยาบาลแต่อย่างใด แนะนำให้ไปยังเว็บไซต์/เฟซบุ๊ค หรือช่องทางติดต่อของรพ./สถานพยาบาลนั้นๆ โดยตรง

HealthServ ชวนร่วมตอบแบบสอบถาม สำรวจความต้องการบริการสุขภาพของคนไทย

HealthServ ชวนร่วมตอบแบบสอบถาม สำรวจความต้องการบริการสุขภาพของคนไทย

ผลสำรวจ

ข่าวสาร-สาระ-ข้อมูลบริการ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
โทรนัดตรวจล่วงหน้าได้ที่เบอร์ 0 7567 3058 และ 0 7567 3059 ในวันและเวลาราชการ
 
คลินิกทั่วไป
1.คลินิกโรคทั่วไป
2.คลินิกตรวจสุขภาพ
 
คลินิกเฉพาะโรค
ตรวจเฉพาะโรค  2 คลินิก
1.คลินิกถันยเมตต์(เต้านม)
2.คลินิกโรคหอบหืดและภูมิแพ้
 
ตารางออกตรวจอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

 
คลินิกเฉพาะทาง
ตรวจเฉพาะทาง  8 คลินิก
1.คลินิกอายุรกรรม
2.คลินิกเด็ก
3.คลินิกศัลยกรรม
4.คลินิกตา
5.คลินิกเวชศาสตร์ครอบครัว
6.คลินิกกระดูกและข้อ
7.คลินิกรักษ์ใจ(จิตเวช)
8.คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟู
 
ตารางออกตรวจอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาโทรนัดล่วงหน้า
 
คลินิกพิเศษ
เปิดนอกเวลาหรือคลินิกที่เปิดเดือนละ 1 วัน จำนวน 4 คลินิก
1.คลินิกสูตินรีเวช
2.คลินิกตา
3.คลินิก หู คอ จมูก
4.คลินิกโรคผิวหนัง เลเซอร์ผิวพรรณ และความงาม
 
ตารางออกตรวจอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาโทรนัดล่วงหน้า

*ภาพจากเว็บโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
 
สิทธิการรักษา

1. สิทธิผู้ป่วยนอก
ติดต่อสอบถามเรื่องสิทธิต่าง ๆ ของท่าน
ได้ที่ เบอร์ 0 7567 3060 แผนกประกันสุขภาพภาพ
ในวันและเวลาราชการ

2. สิทธิข้าราชการเบิกจ่ายตรง
คำถาม: ต้องมาขึ้นทะเบียนหรือไม่?
คำตอบ: ไม่ต้องมาขึ้นทะเบียน ไม่ต้องสำรองจ่าย นำบัตรประชาชนมาเพียง    1 ใบก็สามารถใช้สิทธิ์ได้เลยค่ะ
 
3. สิทธิองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น(อปท)
คำถาม: สามารถใช้สิทธิ์ได้เลยหรือไม่?
คำตอบ: สามารถใช้สิทธิได้เลยโดยไม่ต้องสำรองจ่าย เพียงนำบัตรประชาชนมาเพียง 1 ใบก็สามารถใช้สิทธิ์ได้เลยค่ะ
 
4. สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท(เฉพาะนักศึกษา)
คำถาม: ใช้สิทธิได้เลยหรือไม่?
คำตอบ: ต้องขึ้นทะเบียนบัตรทอง 30 บาท กับทางโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิ์ได้ค่ะ
 
5. สิทธิพรบ.
คำถาม: ต้องจ่ายเงินเองหรือไม่?
คำตอบ: หากเอกสารครบไม่ต้องสำรองจ่าย แต่หากเอกสารไม่ครบ ณ วันที่เกิดเหตุให้สำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำหลักฐานมายื่นขอคืนเงินทีหลังค่ะ
 
6. สิทธิรัฐวิสาหกิจ
คำถาม: ใช้สิทธิได้เลยหรือไม่?
คำตอบ: ต้องมีใบส่งตัวจากต้นสังกัดจึงจะสามารถใช้สิทธิได้ กรณีที่ไม่มีต้องชำระเงินไปก่อนแล้วนำใบเสร็จไปเบิกกับต้นสังกัดค่ะ
 
7. สิทธิพนักงาน มวล.
คำถาม: ต้องสำรองจ่ายหรือไม่?
คำตอบ: พนักงาน มวล. ไม่ต้องสำรองจ่ายใช้สิทธิหักงบได้เลยค่ะ
 
8. สิทธิประกันอุบัติเหตุ มวล
คำถาม: ต้องสำรองจ่ายหรือไม่?
คำตอบ: ต้องสำรองจ่าย แล้วนำใบเสร็จ ใบรับรองแพทย์พร้อมหลักฐานไปเบิกกับทางมหาวิทยาลัย
 
9. สิทธิชำระเงิน
คำถาม: ค่าใช้จ่ายแพงหรือไม่?
คำตอบ: ไม่แพงค่ะ เท่าๆกับโรงพยาบาลรัฐทั่วไป โดยค่าบริการในเวลา 50 บาท นอกเวลา 100 บาท และคลินิกพิเศษ 250-300 บาท (ไม่ร่วมค่ารักษาและค่ายา)
 
10. สิทธิอื่นๆ
คำถาม: นอกจากสิทธิที่กล่าวมาข้างต้นสามารถใช้สิทธิอื่นได้หรือไม่?
คำตอบ: ไม่ได้ค่ะ สำหรับสิทธิอื่นๆ อยู่ระหว่างดำเนินการ
  ประวัติความเป็นมา
โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
 
"โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โรงพยาบาลของคนนครศรีธรรมราช"
 
         วันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นวันกำเนิดมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยถือเอาวันลงพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นหลัก ครั้น ๕ ปีต่อมา ในต้นปี พ.ศ.๒๕๔๑ มหาวิทยาลัยฯ ก็เปิดสอนนักศึกษารุ่นที่ ๑ เป็นความโชคดีของชาวนครศรีธรรมราช และชาวไทยภาคใต้ ในปี พ.ศ.๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีในขณะนั้น มาประชุมสัญจรหรือ ค.ร.ม.นกขมิ้น สถานที่ประชุมคือศาลา ๑๐๐ ปี วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือวัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ก่อนถึงวันประชุมของ ค.ร.ม.นกขมิ้น ชาวนครศรีธรรมราชได้นัดประชุมบรรดาผู้ที่สนใจบ้านสนใจเมืองเป็นพิเศษประมาณ ๓๐ คน เพื่อนำเสนอเรื่องสำคัญต่อที่ประชุม ค.ร.ม.ที่ห้องประชุมพุทธสมาคมนครศรีธรรมราช พระเทพวินยาภรณ์(ขณะนั้น พระราชธรรมสุธี) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานฝ่ายฆราวาส การประชุมก่อนการมาประชุมของค.ร.ม.สัญจรของชาวนครศรีธรรมราชรวม ๓ ครั้ง มติที่ประชุมเสนอของบประมาณเรียงลำดับความสำคัญ เช่น สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ถนนสี่ช่องจราจรหัวถนนนครฯ ไปหัวไทร พุทธภูมิ ถนนเทอดพระเกียรติ(เพื่อแก้ปัญหาคอขวดสี่แยกไปปากนครเพราะด้านข้างเป็นที่ดินของเอกชน) การจราจร ปะการังเทียม และน้ำ เป็นต้น ผลการประชุมของ ค.ร.ม.นกขมิ้น อนุมัติโครงการและงบประมาณ ๔ รายการ ตามลำดับ ในครั้งนั้นนำความปลาบปลื้มมาสู่ชาวนครศรีธรรมราชและชาวไทยภาคใต้เป็นอย่างยิ่ง
 
          เมื่อได้รับอนุมัติการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์และเปิดสอนในปีการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๐ แล้ว กลุ่มคิดและดำเนินการเพื่อให้มีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ทั้งในส่วนของคณะกรรมการรณณรงค์ฯ บุคลากรมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คลังสมอง และชาวนครศรีธรรมราชที่สนใจก็ร่วมคิดและดำเนินการต่อตั้งปณิธาณกันว่าภายใน  ๕ ปี จะต้องมีโรงพยาบาลที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เพื่อเป็นที่ฝึกและปฏิบัติงานของนักศึกษาแพทย์ซึ่งมีปีละ ๔๘ คน ด้วยการคัดเลือกจากนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้ตอนบนและตอนกลาง เวลาผ่านไปสองปีกว่าเป็นโชคดีของชาวนครศรีธรรมราชอีกครั้งหนึ่ง เมื่อทางรัฐบาลสื่อสารมาว่ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีโครงการใหญ่อะไรบ้างมีงบประมาณพันกว่าล้าน อธิการบดีในขณะนั้นได้สอบถามความเห็นของผู้บริหารและคณาจารย์ส่วนหนึ่ง ในที่สุดก็ได้คำตอบคือสร้างโรงพยาบาลหรือต่อมาใช้ชื่อว่าศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติทางการแพทย์ของนักศึกษาและให้บริการรักษาผู้ป่วยด้วย ต่อมาก็มีการดำเนินการตามขั้นตอนลำดับการงบประมาณและการก่อสร้าง ก่อนที่งบประมาณจำนวนนี้จะมานั้นได้มีการประสานงานกับนักการเมืองระดับชาติที่วัดพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ในวันมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ณ หน้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช การประสานงานดำเนินการต่อไปสู่รัฐบาล รัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง(เลขาธิการ สกอ.ขณะนั้นเดินเรื่องต่อ) ด้วยหลายฝ่ายร่วมมือกันอย่างแข็งขันความสำเร็จจึงได้เกิดตามมาอย่างน่าภาคภูมิใจและหายเหนื่อย ครั้นต่อมาเกิดปัญหางบประมาณไม่พอสร้างด้วยเวลาผ่านไปวัสดุขึ้นราคา จึงมีการเสนอของบประมาณเพิ่ม ๒ ครั้ง สุดท้ายเสนองบประมาณ ๕,๖๐๐ ล้านบาท เข้าที่ประชุม ค.ร.ม.สัญจร ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในครั้งนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการประสานงานเพื่อให้ ค.ร.ม.อนุมัติงบประมาณก้อนนี้ แม้กระทั่งการทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีสาธารณสุข และนักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลในข ณะนั้นที่มีน้ำหนักในการผลักดันให้ ที่ประชุมค.ร.ม.อนุมัติงบประมาณก็ต้องทำ ที่สำคัญคือนมัสการท่านเจ้าคุณพระเทพวินยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรวิหารในขณะนั้นได้เมตตาบอกกับนายกรัฐมนตรีผู้หญิงเรื่องโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เพราะก่อนที่จะไปประชุม ค.ร.ม.สัญจร หรือทัวร์นกขมิ้นนั้นนายกรัฐมนตรีมากราบบูชาพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชก่อน และประชุมในวันรุ่งขึ้น ในการประชุมที่เกาะสมุยนั้น อดีตอธิการบดีฯ รองอธิการบดีฯ และผู้ช่วยอธิการบดีฯ รวม ๓ ท่านไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชในขณะนั้นทำงานในเรื่องนี้อย่างขยันขันแข็ง จริงจังมาก วันนั้นมีการติดตามข่าวกันตลอดทั้งวัน เมื่อถึงวาระการประชุมเรื่องงบประมาณของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยลักษณ์ ข่าวบอกว่าข้ามไปก่อน นั่นคือให้รองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งตรวจสอบรายละเอียดเสียก่อนเพื่อความรอบคอบ และบ่ายใกล้เย็นของวันนั้นเสียงโทรศัพท์ของผู้ว่าฯ บอกว่า “อาจารย์งบประมาณผ่านเรียบร้อยแล้ว” เป็นข่าวดีที่ดีสุดๆ ในชีวิตข่าวหนึ่งของผมยากจะบรรยาย ในไม่ช้าข่าวโรงพาบาลมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้รับอนุมัติจาก ค.ร.ม.นกขมิ้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็แพร่สะพัดไปในกลุ่มบุคลากรทุกฝ่าย และชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช บัดนี้การก่อสร้างโรงพยาบาลที่สำคัญยิ่งของชาวนครศรีธรรมราช ชาวใต้ และชาวไทย ได้เริ่มขึ้นแล้วจากงบประมาณทั้งสิ้น ๕,๖๐๐ ล้านบาท จำนวนเตียงผู้ป่วย ๗๕๐ เตียง แม้ช่วงระหว่างทางกว่าจะมาถึงวันนี้จะมีอุปสรรคหนักเบาอยู่บ้างแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้พยายามแก้ไขจนปัญหาต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดีได้ และดำเนินการสร้างต่อไปได้อย่างราบรื่น ผู้บริหารชุดปัจจุบันได้พยายามดูแลควบคุมการก่อสร้างให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามสัญญาคือในปี พ.ศ.๒๕๖๒ แต่เนื่องจากปัญหามีอยู่บ้างเป็นต้นว่าฝนฟ้าของภาคใต้ที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยให้ก่อสร้างได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นอาจจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในต้นปี พ.ศ.๒๕๖๓ บัดนี้ความฝันและความตั้งใจของชาวนครศรีธรรมราช ชาวมหาวิทยาลัยลัยลักษณ์ ชาวไทยภาคใต้ ที่จะมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ดั่งฝันและสมความตั้งใจแล้ว
 
จากใจชาวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
รศ.ดร.สืบพงศ์ ธรรมชาติ
อาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
อาทิตย์ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐

คลินิกเครือข่ายประกันสังคม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์