ข้อมูลบริการสุขภาพ

 

 

กรรมพันธุ์

หากมีประวัติครอบครัวเป็นสิวหรือมีผิวหนังบริเวณหลังไม่เนียนเรียบ มีรอยแผลเป็นหรือจุดด่างดำจากสิวที่หลังนั้น คุณก็มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวที่หลังมากกว่าคนทั่วไป เพราะด้วยปัจจัยทางพันธุกรรมที่มีอิทธิพลต่อขนาดและการทำงานของต่อมไขมัน การตอบสนองต่อการอักเสบของร่างกาย ที่นำไปสู่การเกิดสิวที่หลังได้ 
 

การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฮอร์โมนมีความผันผวน เช่น ช่วงวัยรุ่น การมีรอบเดือน หรือความไม่สมดุลของฮอร์โมน สามารถกระตุ้นการผลิตซีบัม (น้ำมัน) ส่วนเกินโดยต่อมไขมันในผิวหนังที่ส่งผลให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวที่หลังได้
 

ปัจจัยอีกข้อก็คือเหงื่อออกมากเกินไป ด้วยกิจกรรมระหว่างวันอย่างการออกกำลังกาย หรือสภาพอากาศที่ร้อนในบ้านเรา อาจทำให้ผิวหนังมีความชื้นเพิ่มขึ้น ซึ่งผสมไปกับน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วจนมีการอุดตันรูขุมขนเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเสียดสีจากเสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือสายสะพายจากกระเป๋าก็สามารถทำให้เกิดสิวที่หลังได้เช่นกัน เพราะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและการอักเสบที่ผิวหนัง
 

การอาบน้ำหรือการทำความสะอาดบริเวณที่ไม่ทั่วถึง หรือไม่ค่อยได้ทำความสะอาด ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บรรดาเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมัน และแบคทีเรียเกิดการสะสมอยู่บนผิวและนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและสิวที่หลังได้ นอกจากนี้ การใช้สบู่หรือการสครับร่างกายอย่างรุนแรงสามารถทำลายสมดุลตามธรรมชาติของผิว เกิดการระคายเคือง และกระตุ้นให้เกิดสิวที่หลังได้
 

ข้อนี้อาจจะเป็นอะไรที่คนทั่วไปคาดไม่ถึง ว่าอาหารกับการที่หลังไม่เนียนจะเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่อาหารบางชนิด เช่น อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลในเลือดสูง เช่น คาร์โบไฮเดรตขัดสีและอาหารที่มีน้ำตาล ผลิตภัณฑ์จากนม และอาหารที่อุดมด้วยไขมันอิ่มตัว อาจมีส่วนทำให้เกิดสิวรวมถึงสิวที่หลังด้วย
 

ยาบางชนิด เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ แอนโดรเจน และยาต้านโรคลมชักบางชนิด อาจกระตุ้นให้เกิดสิวที่หลังได้ โดยส่งอิทธิพลต่อระดับฮอร์โมนหรือการผลิตน้ำมันที่ผิวหนัง
 

คนที่มีระดับความเครียดควรระวังเรื่องนี้ เพราะระดับความเครียดที่สุดจะไปทำลายสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และอาจนำไปสู่การเกิดสิวรวมถึงสิวที่หลังด้วย
 

การเกิดสิวที่หลังและบริเวณหลังที่ไม่เนียนเรียบนั้นเกิดกับแต่ละคนได้หลายสาเหตุ ลองสังเกตตัวเองว่าสิวที่หลังเรานั้นเกิดจากพฤติกรรมหรือว่าฮอร์โมนกรรมพันธ์กันแน่ โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุเพื่อให้รักษาได้อย่างถูกต้องต่อไป

 

 

การรักษาสิวที่หลังนั้นต้องใช้หลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การดูแลผิว และบางครั้งก็ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย ใครที่คิดว่าปัญหาสิวที่หลังเริ่มรบกวนการใช้ชีวิต และกระทบต่อความมั่นใจในการแต่งตัว มาดูทริกช่วยจัดการและรักษาสิวที่หลังแบบง่ายๆ ทำเองได้
 

ทำความสะอาดร่างกายและบริเวณหลังเป็นประจำ โดยอาจจะใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพื่อขจัดความมันส่วนเกิน เหงื่อ และเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ให้มาอุดตันที่รูขุมขน โดยหลีกเลี่ยงการขัดหลังแรงๆ เพราะจะทำให้ผิวระคายเคือง ทำให้เกิดผลตรงข้ามและสิวเห่อหนักขึ้นได้

 

การขัดผิวสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเปิดรูขุมขน ใช้สครับขัดผิวอย่างอ่อนโยนหรือสารเคมีขัดผิวที่มีกรดซาลิไซลิก ซึ่งทราบกันดีว่ามีความสามารถในการแทรกซึมและคลายรูขุมขนที่หลังเพื่อช่วยป้องกันการเกิดสิว
 

เสื้อผ้าที่รัดแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ สามารถดักจับเหงื่อและน้ำมันบนผิวหนัง ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดสิวที่หลังได้ เลือกใช้เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อให้ผิวหนังได้หายใจและลดการเสียดสีที่บริเวณหลัง

รักษาสุขอนามัย

ซักชุดเครื่องนอนเป็นประจำ เพราะผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนจะเป็นจุดที่มีการสะสมของเหงื่อ น้ำมัน และแบคทีเรียมาก หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือแกะสิวที่หลังเพราะอาจทำให้อักเสบ เกิดแผลหรือจุดด่างดำเป็นตามมาได้ ซึ่งรวมถึงทำให้แผ่นหลังไม่เนียนเรียบสวยอีกต่อไป 
 

เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและดูแลผิวกาย เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีมกันแดด และโลชั่น ที่ระบุว่าไม่ก่อให้เกิดการอุดตันหรือปราศจากน้ำมัน เพื่อป้องกันการอุดตันของรูขุมขนที่ด้านหลัง
 

สารเคมีบางอย่างให้ฤทธิ์ที่มีความรุนแรงต่อผิว เช่น น้ำหอม และสีย้อมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือน้ำยาซักผ้าอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้สิวที่หลังแย่ลง ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้จะดีต่อผิวหนังมากกว่า

จัดการกับความเครียด

ความเครียดทำให้ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายแย่ลง รวมถึงเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วยอีกเช่นดัน  ดังนั้น ควรมีวิธีจัดการความเครียดและรู้จักที่จะผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ และการนอนหลับให้เพียงพอ พฤติกรรมเหล่านี้อาจเป็นอีกวิธีเล็กๆ ที่จะช่วยลดการเกิดสิวที่หลังได้
 

หากสิวที่หลังมีความรุนแรงหรือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังที่สามารถสั่งจ่ายยาที่เหมาะสมได้ เช่น ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานหรือการรักษาด้วยฮอร์โมน โดยพิจารณาจากความรุนแรงและสาเหตุของสิวที่หลัง ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ตรงจุดมากที่สุด 

 

อย่าลืมว่าการรักษาสิวที่หลังนั้นอาจต้องอาศัยความอดทนและความสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับอารมณ์ พฤติกรรม ไลฟ์สไตล์หลายๆ อย่าง รวมถึงสุขอนามัยด้วย จึงจะค่อยๆ เห็นผลในการที่ดีขึ้น ใครที่ต้องการปรึกษาแพทย์ผิวหนัง สามารถเข้ามาได้ที่เว็บไซต์ Lovely Eye & Skin Clinic คลินิกที่มีแพทย์และทีมงานมากประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องผิวหนัง สามารถให้คำปรึกษาพร้อมวิธีแก้ไขด้วยเทคนิคและนวัตกรรมรักษาสิว ให้หลังของคุณกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิม แถมยังช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงและกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
 

ติดต่อ Lovely Eye & Skin Clinic

โทร: 061-405-0044

Line: @Lovelyeye

Facebook: Lovely Eye & Skin Clinic