25 เมษายน 2566 ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กทม. นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม World Immunization Week 2023: Vaccine for Everyone "Episode I : สร้างภูมิปฐมวัย ทุกช่วงวัยสุขภาพดี (Kids Vaccination)" โดยมีนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ
นายแพทย์โอภาสกล่าวว่า การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ที่จะปกป้องชุมชนจากโรคติดต่อที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน แต่จากการระบาดของโรคโควิด 19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ทำให้มีกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี กว่าร้อยละ 20 ที่ตกหล่นการรับวัคซีนตามกำหนดการรับวัคซีนพื้นฐานในเด็กของกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2566 นี้ กระทรวงฯ จึงมีเป้าหมายการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการเร่งรัดติดตามและให้วัคซีนในกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ (Catch-Up vaccination) ซึ่งสอดคล้องกับกรอบแนวคิดของสัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสากล ภายใต้หัวข้อ "The Big Catch-Up" ขององค์การอนามัยโลก โดยมีกรมควบคุมโรคที่ดูแลงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคและริเริ่มการรณรงค์การฉีดวัคซีนให้ครบในเด็ก และกรมการแพทย์ที่เป็นต้นแบบของหน่วยบริการฉีดวัคซีนเด็ก หรือ well baby clinic และขอให้ทุกหน่วยงานได้ช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้ปกครองรีบพาบุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว ทั้งนี้ หากผู้ปกครองมีบุตรหลานที่พลาดการรับวัคซีน สามารถพาบุตรหลานของท่านไปติดต่อรับได้ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อรับวัคซีนให้ครบต่อไป
ด้านนายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า ประเทศไทยได้ดำเนินแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เป็นระยะเวลานานกว่า 40 ปีมาแล้ว จนปัจจุบันมีจำนวนวัคซีนมากถึง 11 ชนิด ในการป้องกันโรคถึง 13 โรคในเด็ก ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนของทุกปี องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้เป็นสัปดาห์สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสากล (World Immunization Week) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็ก ผู้ใหญ่ และชุมชนได้รับการปกป้องจากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน และเพื่อรณรงค์ให้กลุ่มเด็กได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ดังนั้น กรมควบคุมโรค ร่วมกับ กรมการแพทย์ จึงได้จัดกิจกรรม World Immunization Week 2023: Vaccine for Everyone ภายใต้กรอบแนวคิด "สร้างภูมิปฐมวัย ทุกช่วงวัยสุขภาพดี (Kids Vaccination)" ขึ้นในวันนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันและเพื่อเข้ารับวัคซีนให้ครบถ้วนตามเกณฑ์ รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดบริการฉีดวัคซีนให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข โดยในปีนี้จะมีการเร่งรัดการฉีดวัคซีนในเด็กให้ได้ครบตามเกณฑ์รวมถึงเด็กหญิงอายุ 12 - 15 ปีที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน HPV ตามสิทธิประโยชน์
ด้านนายแพทย์ธงชัย กล่าวว่า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เป็นโรงพยาบาลรัฐบาลเฉพาะทางด้านโรคเด็ก ให้การดูแลสุขภาพเด็กในทุกมิติ ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มุ่งเน้นเพื่อให้เด็กไทย มีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี (Good health and Well-being) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นส่วนสำคัญช่วยสร้างอนาคตเด็กไทยให้แข็งแรง มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นคลินิกเด็กดีต้นแบบในการช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเร่งพาบุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์ โดยที่ผ่านมาสถาบันสุขภาพเด็กฯ ได้จัดบริการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายเด็กทั้งพื้นฐานและวัคซีนทางเลือก เพื่อให้เด็กมีสุขภาพดีและเกิดภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข