เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วยผู้บริหารกรมอนามัย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมขับเคลื่อนการดำเนินงานคลินิกเวชศาสตร์วิถีชีวิต Lifestyle Medicine Clinic แห่งแรกของภาคเหนือ เพื่อส่งเสริมประชาชนในพื้นที่ให้มีสุขภาพดี
แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งประเทศไทยมีผู้สูงอายุถึงร้อยละ 20.66 ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด พบว่ามากกว่าครึ่งมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง เป็นผลสืบเนื่องจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
กรมอนามัย ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพบุคคลตามวิถีชีวิต เพื่อให้เกิดการมีภาวะสุขภาพที่ดีและเกิดความยั่งยืน จึงได้ให้มีการดูแลสุขภาพด้วยเวชศาสตร์วิถีชีวิต และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการส่งเสริมสุขภาพ มุ่งเน้นให้ประชาชนมีความรู้ ทักษะในการดูแลตนเอง และครอบครัว ด้วยหลัก“เวชศาสตร์วิถีชีวิต” หรือ Lifestyle Medicine เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่เป็นปัจจัยการเกิดโรครายบุคคล เหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวมี 6 องค์ประกอบหลัก คือ
1) การบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
2) การนอนหลับอย่างเพียงพอ
3) การจัดการ ความเครียดและอารมณ์
4) การจัดการด้านความสัมพันธ์
5) การจัดการบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด และ
6) การมีกิจกรรมทางกาย
โดยผสมผสานและบูรณาการศาสตร์การรักษาต่างๆ มาวางแผนปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวัน ลดปริมาณการใช้ยา ที่ไม่จำเป็นลง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาสุขภาพอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ผู้ป่วยเกิดแรงจูงใจและมีความสุขในการปรับเปลี่ยนฤติกรรมของตนเอง
ด้าน แพทย์หญิงศรินนา แสงอรุณ ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ กล่าวว่า ศูนย์อนามัยที่ 3 นครสวรรค์ เปิดให้บริการคลินิกเวชศาสตร์วิถีชีวิต ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 มีการขับเคลื่อนงานพัฒนาระบบบริการ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานและเป็น Wellness ประเภทสถานพยาบาลนำร่อง ระดับเขตสุขภาพที่ 3 ร่วมกับสหสาขาวิชาชีพ วางแผนการปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพร่วมกันระหว่างแพทย์ ผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชน เช่น นักโภชนาการวางแผนการรับประทานในแต่ละวันให้สอดคล้องกับกิจกรรมในวันนั้น ๆ การร่วมมือกับนักกายภาพบำบัดหรือเทรนเนอร์ในการจัดการออกกำลังกาย การใช้วิธีการบำบัดรักษาโดยแพทย์ทางเลือกมาใช้ หรือ Alternative Medicine ในการกำจัดความเครียดด้วยการนั่งสมาธิ การเดินลมปราณ การจัดการการนอนหลับ การจัดการน้ำหนักตัว และการลด ละ เลิก แอลกอฮอล์ บุหรี่ และสารเสพติดต่าง ๆ รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารสาระความรู้ให้กับประชาชนในเขตสุขภาพที่ 3 และระดับประเทศผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำให้เข้าถึงประชาชนได้รวดเร็วขึ้น