โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เดิมชื่อว่าโรงพยาบาลนนทบุรี สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่เลขที่ 91 ถนนนนทบุรี ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี มีเนื้อที่ทั้งหมด มีพื้นที่ทั้งหมด 24 ไร่ 1 งาน 2.6 ตารางวา เปิดให้บริการวันที่ 24 มิถุนายน 2500 เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดในปี พ.ศ. 2532 ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้เปลี่ยนชื่อเป็น “ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่พระราชชนนี กรมหลวง พระศรีสุลาลัย เป็นชาวจังหวัดนนทบุรี
ประวัติเดิมของโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า
เดิมจังหวัดนนทบุรี ไม่มีโรงพยาบาลสำหรับช่วยเหลือในการบำบัดและรักษาประชาชนเมื่อเกิดการเจ็บป่วยขึ้น จำเป็นต้องนำผู้ป่วยเดินทางไปรับการรักษายังโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดพระนครและธนบุรีนซึ่งทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเสียชีวิตระหว่างการเดินทางนจังหวัดจึงพิจารณาเห็นว่าสมควรจัดให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลในจังหวัดขึ้นนซึ่งขณะนั้นขุนบุรีภิรมย์กิจผู้ว่าราชการจังหวัดได้เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการโดยติดต่อกับกรมการแพทย์นกระทรวงสาธารณสุขนขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างนและได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมการแพทย์นโดยสั่งการให้จังหวัดจัดหาที่ดินเตรียมไว้นเมื่อได้งบประมาณให้ดำเนินการก่อสร้าง
แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องที่ดินในการก่อสร้าง ซึ่งจากการเจรจากับเจ้าของที่ดินไม่ประสบผลสำเร็จ ขณะเดียวกันขุนบุรีภิรมย์กิจผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้นก็ได้ออกจากราชการเสียก่อนนต่อมาเมื่อปีนพ.ศ.น2499นนายประกอบ ทรัพย์มณี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีคนต่อมาได้บริหารงานต่อนโดยดำเนินการจัดหาที่ดินเพื่อทำการก่อสร้างโรงพยาบาลใหม่นและเห็นว่าที่ดินของวัดเทพอุรุมพังน(ที่ตั้งโรงพยาบาลปัจจุบัน)นมีเนื้อที่ประมาณน16นไร่เศษซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ที่น6นตำบลบางกระสอนอำเภอเมืองนจังหวัดนนทบุรีนห่างจากศาลากลางจังหวัดนนทบุรีประมาณน3นกิโลเมตรนเป็นวัดร้างและอยู่ใกล้กับที่ดินเดิมที่เคยเจรจาไว้เห็นว่าเหมาะสมจะก่อสร้างโรงพยาบาลนจึงได้ดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ขึ้น
เมื่อเปิดดำเนินการใน ปี พ.ศ.2500 ในชื่อโรงพยาบาลพระนนทบุรีนั้น มีอาคารเพียง 2 หลัง คือ อาคารอำนวยการ เป็นตึกชั้นเดียวให้บริการผู้ป่วยนอก และอาคารไม้ชั้นเดียวใช้เป็นหอผู้ป่วย ในระยะแรกประชาชนไม่นิยมมารับบริการ จากโรงพยาบาลนนทบุรีเพราะมีแพทย์และเจ้าหน้าที่น้อย การคมนาคมไม่สะดวกนประชาชนจึงไปรับบริการจากโรงพยาบาลใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานครนได้แก่นโรงพยาบาลวชิระและโรงพยาบาลศิริราชนการเปลี่ยน แปลงทางกายภาพของโรงพยาบาลนนทบุรี เป็นไปอย่างเชื่องช้า ปี พ.ศ.2530นซึ่งโรงพยาบาลเปิดบริการมาน30 ปีนโรงพยาบาลแห่งนี้ยังใช้อาคาร 2 หลังนตั้งแต่เริ่มก่อตั้งให้บริการผู้ป่วยนและมีหอผู้ป่วยนซึ่งเป็นตึกน2นชั้นนเพิ่มขึ้นอีกน4นหลังนและมีตึกอำนวยการหลังใหม่เป็นอาคารน2นชั้นนในปี พ.ศ.2526
หลังจากปี พ.ศ.2530 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นมีการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว จังหวัดนนทบุรีซึ่งมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ได้เปลี่ยนเป็นจังหวัดที่มีบ้านจัดสรรเกิดขึ้นมากมาย มีแรงงานอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ พื้นที่ในการทำสวนลดลง การคมนาคมสะดวกขึ้น มีการตัดถนนรัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นถนนที่ไปเชื่อมต่อกับถนน ตลิ่งชัน – สุพรรณบุรี ประชาชนสามารถใช้เส้นทางเส้นนี้เพื่อไปจังหวัดทางภาคเหนือและภาคใต้ได้ การขยายตัวของเมืองและการคมนาคมที่สะดวกขึ้นทำให้มีผู้ป่วยมารับบริการมากขึ้น
พ.ศ.2532 โรงพยาบาลนนทบุรีได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ขณะนั้นโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า มีจำนวนเพียง 217 เตียง เจ้าหน้าที่ 530 คน ผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 530 คน ตั้งแต่ พ.ศ.2538 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพอย่างมาก มีหอผู้ป่วยพิเศษ “เฉลิมพระเกียรติ” 4 ชั้น อาคารปฏิบัติการ 5 ชั้น เพื่อรองรับจำนวนผู้รับบริการที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้พื้นที่ในโรงพยาบาลที่มีเพียง 24 ไร่ 1 งาน 2.6 ตารางวา และเต็มไปด้วยอาคารมีที่ว่างน้อยมาก เมื่อประชาชนมารับบริการมากขึ้น และกระทรวงสาธารณสุขให้งบประมาณในการก่อสร้างเพิ่มเติม โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าซึ่งไม่สามารถขยายพื้นที่ออกไปได้อีก (ด้านหน้าติดถนนนนทบุรี ด้านหลังติดแม่น้ำเจ้าพระยา และด้านข้างถูกขนาบด้วยชุมชนมัสยิดบางกระสอและชุมชนบ้านศาลเจ้า) ต้องรื้อเรือนไม้และตึกอำนวยการหลังแรก ตึกอำนวยการหลังที่ 2 เพื่อสร้างอาหารเวชศาสตร์ฟื้นฟู หอผู้ป่วย 8 ชั้น และอาคารเจษฎาบดินทร์ 9 ชั้น
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาด้วยพื้นที่ที่คับแคบทำให้โรงพยาบาลสามารรองรับคนไข้ได้เพียง 1,200 คน/วัน แต่ปัจจุบันผู้ป่วยนอก (OPD)ของเรามีคนมาใช้บริการมากถึง 2,400 คน/วัน ห้องตรวจก็ไม่พอคิวก็ยาวรับยาก็ช้า หากโรงพยาบาลไม่ขยายหรือพัฒนาศักยภาพ สภาพปัญหาก็จะยังคงดำเนินอยู่เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถให้บริการประชาชนและข้าราชการกระทรวงต่างๆ ในจังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขที่เข้ามาใช้บริการมากกว่าครึ่งได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวคิดมาอย่างต่อเนื่องในการขยายโรงพยาบาลและพัฒนาศักยภาพ นอกจากความพร้อมของอาคารสถานที่แล้ว ยังหมายถึงความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ โดยเฉพาะศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่มีศักยภาพ คือ ยกระดับโรงพยาบาลให้อยู่ในระดับตติยภูมิระดับสูงอย่างเดียวไม่ได้ต้องทำไปทั้งจังหวัด แนวคิดนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด และ สส.จังหวัดนนทบุรีเข้ามาสนับสนุน จังหวัดนนทบุรีมีการขยายตัวจนกลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีประชากรมาอาศัยจำนวนมาก โดยมีประชากรตามทะเบียนราษฎร์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 รวม 1,157,399คน มีประชากรแฝงประมาณ 6 แสนคน เป็นจังหวัดที่มีการหลั่งไหล่ของประชาชนและแรงงานต่างด้าวเข้ามาอยู่อาศัยและทำงานในพื้นที่เป็นจำนวนมาก การขยายตัวทางเศรษฐกิจด้านที่พักอาศัย ศูนย์ราชการต่างๆ ก็มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการขยายเส้นทางการคมนาคม รถไฟฟ้าสายสีม่วงและการสร้างมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี เพื่อรองรับการคมนาคมขนส่งเชื่อมท่าเรือน้ำลึกทวาย ส่งผลให้จังหวัดนนทบุรีมีความแออัดพอๆ กับกรุงเทพฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อการให้บริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โรงพยาบาลมีภาระงานด้านการรักษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โรงพยาบาลยังมีแผนการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ และจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย การพัฒนาศักยภาพแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาให้สามารถบริการถึงระดับชุมชน ดูแลบริการรักษาพยาบาลแบบใกล้บ้านใกล้ใจ รวมทั้งการพัฒนาศูนย์โรคสำคัญต่างๆ ตามระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) เช่น ศูนย์โรคหัวใจ ศูนย์ทารกแรกคลอด ศูนย์โรคไต ศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง ศูนย์จักษุวิทยา ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งศูนย์การแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนจีน ซึ่งตรงกับปณิธานของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงส่งเสริมการแพทย์แผนจีน โดยทางโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู ประเทศจีน ในความตกลงร่วมมือพัฒนางานแพทย์แผนจีนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ปัจจุบันโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า มีแพทย์สหสาขาที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในการขยายการให้บริการในสาขาต่างๆ ตามระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) ของเขตสุขภาพที่ 4 โดยปัจจุบันถือเป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแลสุขภาพประชาชนจังหวัดนนทบุรี จังหวัดในเขตปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ ที่อยู่ในฐานะโรงพยาบาลศูนย์ ขนาด 515 เตียง
ขอบเขตการให้บริการ
ให้บริการรักษาพยาบาลในระดับปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิขั้นต้น ในด้านการป้องกัน ส่งเสริม การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยแพทย์เฉพาะทางแก่ประชาชนในจังหวัดนนทบุรีและปริมณฑล
ประชากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ระดับตำบล
มีประชาชน หมู่ 1 – 5 ตำบลบางกระสอ อยู่ในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาล จำนวน 71,996 คน เป็นเพศชาย 34,099 คน คิดเป็น 47.36% เพศหญิง 37,897 คน คิดเป็น 52.64% อายุ 35 – 60 ปี 29,536 คน คิดเป็น 41.02% อายุ 60 ปี ขึ้นไป 10,814 คน คิดเป็น 15.02%
ระดับจังหวัด
- ประชากร 1,157,399 คน
- ประชากรแฝงประมาณ 600,000 คน
- แรงงานต่างด้าวประมาณ 50,000 คน
ประชาชนตามสิทธิการรักษา
- ต้นสังกัด 155,865 คน
- ประกันสังคม 304,631 คน
- บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า 719,945 คน