ห้องพิเศษ
หอผู้ป่วยพิเศษศัลยกรรม ออร์โธปิดิกส์
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม มีห้องพิเศษสำหรับไว้บริการ แก่ผู้ป่วยเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค
ภายในห้องห้องพิเศษ มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์
ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น กระติกน้ำร้อน ฯลฯ
ห้องพิเศษเดี่ยวราคา 1,200 บาท
ติดต่อสอบถาม บริการจองห้องพิเศษ อาคาร 5 ชั้น1 โทร 045-361133-4 ต่อ 625
หอผู้ป่วยพิเศษสูติ-นรีเวชกรรม
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม มีห้องพิเศษสำหรับไว้บริการ แก่ผู้ป่วยเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค
ภายในห้องห้องพิเศษ มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์
ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น กระติกน้ำร้อน ฯลฯ
ห้องพิเศษเดี่ยวราคา 1,200 บาท
หอผู้ป่วยพิเศษกุมารเวชกรรม
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม มีห้องพิเศษสำหรับไว้บริการ แก่ผู้ป่วยเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค
ภายในห้องห้องพิเศษ มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์
ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น กระติกน้ำร้อน ฯลฯ
ห้องพิเศษเดี่ยวราคา 1,200 บาท
หอผู้ป่วยพิเศษรวม
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม มีห้องพิเศษสำหรับไว้บริการ แก่ผู้ป่วยเฉพาะแต่ละกลุ่มโรค
ภายในห้องห้องพิเศษ มีอุปกรณ์ อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์
ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น กระติกน้ำร้อน ฯลฯ
ห้องพิเศษเดี่ยวราคา 1,000 บาท
ประวัติโรงพยาบาล
พระราชดำรัสของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทุกคนที่ทำงานให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจะต้องไม่ลืมว่าโรงพยาบาลนี้กำเนิดขึ้นจากความมุ่งปรารถนาอันแรงกล้าของคนไทยทั่วราชอาณาจักรที่ต้องการจะเห็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารทุกหนแห่งได้รับความเอาใจใส่รักษาพยาบาลเป็นอย่างดี
ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้ โดยทั่วถึงเสมอหน้ากัน
กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์
วันที่ 17 มิถุนายน พุทธศักราช 2522
พระราโชบายเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช
1. พระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวโรกาสเสด็จฯ ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในทั้ง 4 ภาค
1.1 เพื่อทรงรับทราบขอบขีดความสามารถของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชแต่ละแห่งว่าสามารถให้บริการสาธารณสุขถึงขอบขีดความสามารถที่กำหนดหรือไม่และเพื่อที่จะได้นำมาพิจารณาเสริมขีดความสามารถให้ถึงระดับมาตรฐาน โดยมิใช่เป็นการก้าวก่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ
1.2 เพื่อทรงรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง และความต้องการสิ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์สูงโดยเฉพาะควรเหมาะสมกับระดับขีดความสามารถของบุคลากรในแต่ละท้องถิ่น
1.3 เพื่อพระราชทานพระราชดำริในการแก้ปัญหาประสิทธิภาพของบุคลากรและความเหมาะสมกับการรักษาพยาบาลของแต่ละท้องถิ่น
2. มีพระราชดำริที่จะสนับสนุนพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ให้มีขีดความสามารถตามมาตรฐานของโรงพยาบาลแต่ละขนาดเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่โรงพยาบาลชุมชนอื่นๆต่อไป
3. การพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำเป็นจะต้องเน้นหนักในการบริหารจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวางแผนการควบคุมกำกับการและการประเมินผลงานหากการบริหารจัดการไม่ดีถึงแม้ว่าจะทุ่มเททรัพยากรลงไปมากเท่าใดก็ตาม ผลงานที่ออกมาก็จะไม่ดีเท่าที่ควร หรืออีกนัยหนึ่งจัดสรรทรัพยากรในจำนวนที่เท่ากันโรงพยาบาลที่มีการบริหารจัดการดีกว่าจะมีผลงานมากกว่า
4. ในการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำเป็นที่จะต้องเชิญชวนภาคเอกชนมามีส่วนร่วมให้มากขึ้น เพราะงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขมีจำกัดและมีโรงพยาบาลอื่นๆที่ต้องสนับสนุนเป็นจำนวนมาก
5. การพัฒนาบุคลากรทุกประเภทของโรงพยาบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของการทำงานให้เหมาะสมกับปัญหาสาธารณสุขของประชาชนทั้งในด้านการบริหารจัดการบริการสาธารณสุขและเทคนิควิชาการต่างๆให้ทันสมัย รวมทั้งปรับตัวของบุคลากรให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมของการทำงานและสภาพสังคมของท้องถิ่น
6. พัฒนาบุคลากร ให้สามารถใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปฎิบัติงาน อาทิเช่น การใช้เครื่องมือแพทย์ หรือดัดแปลงวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการรักษาพยาบาล เป็นต้น
7. ในการดำเนินงานของโรงพยาบาล จำเป็นต้องสร้างสรรมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกันทุกระดับทุกรูปแบบ และจัดให้มีประชาสัมพันธ์โดยสื่อมวลชนและเครื่องมือประชาสัมพันธ์อื่นๆ
8. โรงพยาบาลควรเน้นหนักในเรื่องความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดี
9. มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ซึ่งใต้ฝ่าละอองพระบาททรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ นับว่าเป็นองค์กรที่สามารถจะสนับสนุนการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้สมควรที่จะปรับปรุงให้มีบทบาทมากขึ้นไป
10. สมควรจัดให้มีการประชุมพบปะปรึกษาหารือกันระหว่างคณะกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารงานโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในกองงานในพระองค์ฯ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน แก้ปัญหาร่วมกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือประสานงานที่ดีต่อไปทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในจังหวัดที่เป็นที่ตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช
11. ควรสร้างสิ่งจูงใจ ขวัญ กำลัง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่ง ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นตามลำดับโดยจัดให้มีการประกวดโรงพยาบาลดีเด่นเป็นประจำทุกปี โดยให้มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชมีบทบาทเกี่ยวกับเรื่องนี้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับพระราชทานรางวัลจากใต้ฝ่าละอองพระบาท
12. ส่งเสริมการศึกษา ค้นคว้า วิจัยระบบงานสาธารณสุขทั้งด้านบริการ วิชาการ และบริหารเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพของระบบงานดังกล่าว ให้ดี
และเหมาะสมยิ่งขึ้นตามลำดับ
ประวัติความเป็นมาของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช
เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลง-กรณสยามมกุฎราชกุมาร กับพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรชายา เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2520 คณะรัฐมนตรีได้มีดำริที่จะจัดของขวัญขึ้นน้อมเกล้าฯถวาย เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีของรัฐบาลร่วมกับบรรดาพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล และได้มีมติเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2519 ให้จัดสร้างโรงพยาบาลขึ้นน้อมเกล้าฯถวายเป็นของขวัญในการนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่งชื่อว่า“คณะกรรมการดำเนินการจัดสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการวางโครงการจัดหาทุนในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวปรากฎว่าได้มีประชาชน ผู้จงรักภักดีจากทั่วประเทศพร้อมใจกันบริจาคเงิน ทรัพย์สินและที่ดิน สมทบทุนเป็นจำนวนมาก ในการที่จะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์และสนับสนุนให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ที่ได้จัดสร้างขึ้นสามารถบริการประชาชน ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ได้ด้วยดีตลอดไป สมควรที่จะได้นำทรัพย์สินที่ประชาชนร่วมกันบริจาคจัดตั้งเป็นมูลนิธิฯขึ้น จึงได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2520 เรียกชื่อว่า “มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมูลนิธิ ในการดำเนินการจัดสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการจัดสร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้นในท้องที่ต่างๆทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท้องถิ่นที่ห่างไกลและทุรกันดาร จำนวน 20 แห่ง ใน 20 จังหวัด โดยสร้างขึ้นในครั้งแรกเป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง ในการก่อสร้างครั้งแรกใช้เงินของ “มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช” ทั้ง 20 แห่ง เป็นเงิน 164,462,515 บาท และได้จัดสร้างเพิ่มอีก 1 แห่งรวมเป็นโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่ง กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยสนับสนุนทางด้านวัตถุ กำลังเจ้าหน้าที่ และวัสดุครุภัณฑ์ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ในทางการแพทย์ เป็นจำนวนเงิน 11,348,947 บาท เพื่อให้บริการแก่ประชาชนด้วยดีตลอดมา ปัจจุบันนี้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่งได้เปิดให้บริการแก่ประชาชน ทหาร ตำรวจ และพลเรือนได้อย่างกว้างขวาง จึงทำให้ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน สมทบค่าก่อสร้างในการขยายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ขึ้นและได้มีการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ขึ้นเป็นลำดับต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร องค์นายกกิติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์และเปิดของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด้วยพระองค์เองทั้ง 21 แห่ง
นอกจากนี้ยังทรงใฝ่พระทัยติดตามกิจการและผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอย่างสม่ำเสมอ ในปี 2529 พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินไป ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 4 ภาค ภาคละ 1 แห่ง เพื่อทรงศึกษาปัญหาและหาแนวทางพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชให้มีประสิทธิภาพสามารถบริการ ให้เป็นที่ศรัทธาของประชาชน ในปี 2530 พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่งและได้ทรงพระราชทานพระราโชบาย 12 ประการแก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ในการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชต่อไป
ทำเนียบผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม
1. นายแพทย์ลือชา วนรัตน์ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2522-2524
2. นายแพทย์วีระชัย ปีตะวรรณ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2524-2525
3. นายแพทย์พิษณุ เกิดสินธุ์ชัย ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2525-2526
4. นายแพทย์สมาน ชัยสิทธ์ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2526-2533
5. นายแพทย์พรเจริญ เจียมบุญศรี ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2534- 2548
6. นายแพทย์ปัญญา อิทธิธรรมบูรณ์ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2548-2558
7. นายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2558-2560
8. นายแพทย์ประเสริฐ ชัยวิรัตนะ ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2560-2562
9. นายแพทย์วีระศักดิ์ ศรีชวนชื่นสกุล ผอ.รพร.เดชอุดม ปี พ.ศ. 2561-ปัจจุบัน
ประวัติโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม
พ.ศ.2512 เริ่มก่อตั้งสุขศาลาชั้น 2 ถนนประชา ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี
พ.ศ.2514 เลื่อนฐานะเป็นสถานีอนามัยชั้น 2
พ.ศ.2517 เปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์การแพทย์และอนามัยชนบท
เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลเดชอุดม ขนาด 10 เตียง
พ.ศ.2520 เริ่มก่อสร้างเป็นโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ขนาด 30 เตียง สถานที่ตั้ง เลขที่ 299 ถนนโชคชัย-เดชอุดม ต.เมืองเดช อ.เดชอุดม จ.อุบลฯ จ.อุบลราชธานี เนื้อที่ 30 ไร่ ห่างจากโรงพยาบาลเดิม 2 กิโลเมตร
พ.ศ.2522 เปิดให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการ เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2522
พ.ศ.2526 ก่อสร้างและยกฐานะเป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง
พ.ศ.2539 ก่อสร้างและยกฐานะเป็นโรงพยาบาลขนาด 90 เตียง
พ.ศ.2541 ได้รับอนุมัติในหลักการให้การยกฐานะเป็นโรงพยาบาลขนาด 180 เตียงจากกองสาธารณสุขภูมิภาคแต่ยังไม่สามารถก่อสร้างได้เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ
พ.ศ.2543 รับรองมาตรฐาน Hospital Accreditation
พ.ศ.2545 รับรองมาตรฐาน PSO.
พ.ศ.2547 รับรองมาตรฐาน Hospital Re-Accreditation
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดมเป็นหนึ่งในยี่สิบเอ็ดแห่งของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2520 จากการที่รัฐบาลและประชาชนได้ร่วมแรงร่วมใจจัดสร้างถวายเป็นราชสักการะแด่พลเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 22 กันยายน พ.ศ.2520 ในครั้งแรกนั้นก่อสร้างเป็นโรงพยาบาลขนาด 30 เตียง ใช้เงินก่อสร้างทั้งสิ้น 6,602,525 บาท (หกล้านหกแสนสองพันห้า-ร้อยยี่สิบห้าบาท) โดยรับเงินบริจาคจากบริษัท โอสถสภา (เต็กเฮงหยู) จำกัด บริษัทในเครือและสมาชิกในตระกูลโอสถานุเคราะห์ พลเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงเสด็จเปิดโรงพยาบาลอย่างเป็นทางการ เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522 และได้ทรงพระราชทานพระราโชบาย 12 ข้อในการดำเนินงานและพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เพื่อที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยในท้องถิ่นทุรกันดารและห่างไกลตลอดจนส่งเสริมให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดมได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมที่จะดำเนินตามพระราโชบายที่ให้ไว้ทุกประการ.