ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรงพยาบาลสวี

Sawi Hospital

Logo Thumb preview

ที่อยู่/ติดต่อ
120 หมู่ที่ 7 ตำบลนาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร 86130
แฟกซ์ 077-531206 ต่อ 103

*ข้อมูลรวบรวมโดย Healthserv.net เพื่ออำนวยความสะดวกเบื้องต้นให้กับผู้ชมที่ต้องการข้อมูลสถานพยาบาล ไม่ใช่เว็บทางการของรพ./สถานพยาบาลแต่อย่างใด แนะนำให้ไปยังเว็บไซต์/เฟซบุ๊ค หรือช่องทางติดต่อของรพ./สถานพยาบาลนั้นๆ โดยตรง

ข้อมูล/ประกาศ/บริการ โรงพยาบาลสวี

ตารางการให้บริการ

extended content image
extended content image
 
 

Facebook โรงพยาบาลสวี

 

ประวัติความเป็นมาโรงพยาบาลสวี

โรงพยาบาลสวี ตั้งอยู่เลขที่ 120 หมู่ที่ 7 ตำบล นาโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นโรงพยาบาลขนาด 60 เตียง สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชุมพร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  มีเนื้อที่ 13 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา
 
ปี พ.ศ. 2514 ได้รับงบประมาณก่อสร้างเป็นสถานีอนามัยชั้นหนึ่ง โดยได้รับที่ดินบริจาคจากนางล้ำ เพียงจันทร์ จำนวน 4 ไร่ บริเวณบ้านนาโทง หมู่ที่ 7 ตำบลนโพธิ์ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร  ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนในปี พ.ศ.2515 มีอาคารผู้ป่วย 1 หลังsawee hospital
สามารถรับผู้ป่วยได้ 10 เตียง
ปี พ.ศ. 2519 ยกฐานะเป็นศูนย์การแพทย์และอนามัยชนบท อำเภอสวี
ปี พ.ศ. 2519 เปลี่ยนชื่อเป็นศูนย์การแพทย์และอนามัยชนบทอำเภอสวี
ปี พ.ศ. 2520 เปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลสวี ขนาด 10 เตียง
ปี พ.ศ. 2526 ได้รับงบประมาณตามข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชุมพรก่อสร้างอาคารพักผู้ป่วยใน ขนาด 10 เตียง รวมเป็น 20 เตียง
ปี พ.ศ.2527 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในขนาด 30 เตียง และได้ยกฐานะเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง ในปี  พ.ศ.2528
ปี พ.ศ. 2530 ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก ขนาด 30 เตียง
ปี พ.ศ. 2538 นายนึก บุญสิทธิ์ ได้บริจาคที่ดินจำนวน 34 ตารางวา เพื่อก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ
ปี พ.ศ. 2538 พระครูภาวนาภิรมย์ (สรวง ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมืองได้บริจาคเงินก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใน 2 ชั้น ขนาด 60 เตียง พร้อมครุภัณฑ์การแพทย์มูลค่า 10 ล้านบาทเศษ และเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2540 โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข พลเรือตรีนายแพทย์  วิทุร แสงสิงแก้ว
ปี พ.ศ. 2542 ไดจัดทอดผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนสร้างระบบท่อส่งออกซิเจน นำโดย รศ.ดร.อานันท์ รัศมี ได้รับยอดเงินบริจาค 419,050 บาท
ปี พ.ศ. 2544 ได้ยกฐานะเป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 60 เตียง ปัจจุบันรองรับผู้ป่วยในได้ 70 เตียง
 
ห้องพิเศษ 12 ห้อง
ห้องแยก 4 เตียง
ห้องสามัญ 50 เตียง
ห้องคลอด 4 เตียง
 

ข้อมูลทั่วไป
โรงพยาบาลสวี มีเขตรับผิดชอบ 1 ตำบล คือตำบลนาโพธิ์ ประกอบด้วย 1 อบต. 1 เทศบาล 6 หมู่บ้าน / 6 ชุมชน ดังนี้
1. หมู่ที่ 1 บ้านพ้อแดง
2. หมู่ที่ 2 บ้านนาคราม
3. หมู่ที่ 3 บ้านเขาสวนทุเรียน
4. หมู่ที่ 4 บ้านควนสีแท
5. หมู่ที่ 5 ตลาดสวี (เขตเทศบาล) 5 ชุมชน - ชุมชนตลาดสวี ชุมชนคลองขาง ชุมชนคูสวนหมาก ชุมชนในลุ่ม ชุมชนโพธิเกษตร
6. หมู่ที่ 6 บ้านนาโพธิ์ (เขตเทศบาล) 1 ชุมชน - ชุมชนนาโพธิ์
7.หมู่ที่ 7 บ้านควนตะล่อม
8. หมู่ที่ 8 บ้านห้วยกรวด
 
จำนวนหลังคาเรือน  2,191 หลังคาเรือน
จำนวนประชากรทั้งสิ้น  8,153 คน
 
โรงเรียน 6 โรงเรียน นักเรียน ทั้งหมด 3,794 คน ชาย 1,786 คน หญิง 2,008 คน
 
สังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4 โรงเรียน
 
โรงเรียนอนุบาลสวี(บ้านนาโพธิ์)
โรงเรียนวัดธัญญาราม
โรงเรียนบ้านควนสีแท
โรงเรียนสวีวิทยา
 
สั่งกัดสำนักงานการศึกษาเอกชน 2 โรงเรียน
โรงเรียนบุญสิทธิ์อนุสรณ์
โรงเรียนบุญยสมบัติ

3 ประชากร (กรกฎาคม 2550)
ประชากรรวม 8,153 คน (เพศชาย 3,979 คน,หญิง 4,174 คน)
 
4. วิสัยทัศน์โรงพยาบาลสวี
โรงพยาบาลคุณภาพที่ยั่งยืน
 
5. พันธกิจโรงพยาบาลสวี
  • ให้บริการประชาชนทุกกลุ่ม ครอบคลุมทั้งด้านส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี มีความพึงพอใจและชุมชนมีส่วนร่วม โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและชุมชนเข้มแข็ง สามารถพี่งพาตนเองได้
  • พัฒนาองค์กร ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ และมีความสุขในการทำงาน โดยยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ
  • สนับสนุนและช่วยเหลือการพัฒนาคุณภาพบริการของเครือข่าย
6. เป้าหมายของโรงพยาบาล
  • ชาวอำเภอสวีได้รับบริการที่ได้มาตรฐาน สะดวก รวดเร็ว เสมอภาคและทันสมัยภายใต้ภูมิทัศน์ที่สวยงาม
  • ระบบบริการแพทย์แผนไทยได้มาตรฐานครบวงจรและเข้าถึงง่าย
  • ผู้ติดยาเสพติดสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
  • ชาวอำเภอสวีมีศักยภาพและมีส่วนร่วมในการสร้างเสริมสุขภาพทั้งในสถานบริการและชุมชน สามารถจัดการสิ่งแวดล้อมและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกรพทบต่อสุขภาพได้อย่างเหมาะสม