กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะการเลือก คาร์ซีท ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ซึ่งสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 70
คำแนะนำการเลือกคาร์ซีท
- ให้เหมาะสมตามช่วงวัย สรีระ น้ำหนัก ส่วนสูงของเด็ก
- ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแรกเกิด-3 ปี ควรใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ ซึ่งจะปลอดภัยมากที่สุด
- เด็กที่มีอายุ 2-6 ปี สามารถใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าได้
- เด็กที่เริ่มโต ควรใช้บูสเตอร์ซีท เป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ
ตามช่วงอายุเด็ก
แรกเกิด - 1 ปี
ควรใช้คาร์ชีทสำหรับทารกที่เป็นที่นั่งแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ (Rear-facing car seat)
1-3 ปี
ควรใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กที่เป็นที่นั่งแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ (Rear-facing car seat)
2-6 ปี
ควรใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้า (Forward-facing car seat)
4- 12 ปี
ควรใช้ Booster Seat เป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าสำหรับเด็กโตใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ (ขึ้นกับน้ำหนักและส่วนสูง)
อายุมากกว่า 12 ปี
ควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ทุกตำแหน่งที่นั่งโดยสาร
มาตรฐาน
สำหรับรถเก๋ง ควรติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่เบาะหลัง ไม่ควรติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ เนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กอาจโดนกระแทกจากถุงลมนิรภัยได้
ทั้งนี้ คาร์ซีทจะต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ กรณีเลือกใช้ที่นั่งนิรภัยมือสอง ควรสำรวจสภาพไม่มีรอยบุบหรือแตก สายรัดหรือเข็มขัดมีสภาพดี และอายุการใช้งานไม่ควรเกิน 6 ปี
คำสั่งบังคับในพ.ร.บ.จราจรทางบก 2565
คาร์ซีท เป็นสิ่งจำเป็นที่ครอบครัวที่มีเด็กเล็กจะต้องมี หลังจากพระราชบัญญัติ จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ประกาศในราชกิจจาเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 และมีผลบังคับใช้ภายใน 90 วัน โดยสาระสำคัญระบุข้อบังคับในมาตรา 123/1 ต้องจัดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือนั่งในที่พิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ
ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กและที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย (คาร์ซีท) ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด
ยกเว้นการบังคับใช้ กับผู้ที่อยู่ใน รถสามล้อ รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และรถยนต์อื่นที่ไม่ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัย
Car photo created by senivpetro - www.freepik.com