ทั้งไอเดียและแนวทางปฏิบัติสมกับเป็นญี่ปุ่นเจ้าแห่งการแหวกแนวไม่เปลี่ยนแปลง
ทำไมถึงเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกขณะนี้
นั่นเพราะแนวคิดการส่งเสริมการดื่มสุราไม่ใช่เรื่อง "ปกติ" ที่รัฐบาลประเทศใดๆ จะทำกันได้ง่ายๆ แต่รัฐบาลญี่ปุ่นกลับสวนกระแสนี้ โดยมีหน่วยงานการจัดเก็บภาษีของประเทศ (National Tax Agency) เป็นหัวหอกออกแรงจัดทำแคมเปญนี้ เหตุเพราะภาษีที่จัดเก็บในประเทศญี่ปุ่นเรียกได้ว่า "ทรุดลง" อย่างมีนัยยะ ในช่วงเวลา 3 ปีของการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งการต้องปิดประเทศ การล็อกดาวน์ มาตราการป้องกันโควิดในช่วงที่ผ่านมาส่งผลรุนแรงต่อธุรกิจในประเทศ รวมถึง การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ลงฮวบลงเช่นกัน แม้ว่าอัตราการการลดการบริโภคในประชากรรุ่นใหม่ๆ จะลดลงอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้าก็ตาม ซึ่งอุตสาหกรรมสุราเป็น อุตสาหกรรมที่นำส่งภาษีเข้ารัฐสูงถึง 5% ของรายได้ประชาชาติ ในยุคปี 1980 แต่ปัจจุบันปี 2020 กลับลดลงเหลือเพียง 1.7% เท่านั้น
สาเหตุหลักเป็นเพราะประชาชนญี่ปุ่นลดระดับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงนั่นเอง ต่างจากคนในรุ่นพ่อแม่ของตน ที่จากเดิมบริโภคคนละ 100 ลิตรต่อคนต่อปี ในปี 1995 เหลือเพียงคนละ 75 ลิตรต่อคนในปี 2020 ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นสังคมที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก คือมากถึง 29% ของประชากรทั้งหมด
125.67 ล้านคน พร้อมกับอัตราการเกิดก็อยู่ในระดับต่ำมากเช่นกัน จึงไม่แปลกที่ภาวะการณ์ทางสังคมนี้จะส่งผลต่อ "กลไกภาษี" ของญี่ปุ่นโดยตรง
Takako Amano ผู้เชี่ยวชาญแห่งม.แลงคาเชียร์ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุว่า แต่เดิมญี่ปุ่นส่งเสริมและชูว่า การดื่มเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน แต่ปัจจุบัน มุมมองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อวัฒนธรรมการดื่มเปลี่ยนไป ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นก่อน การดื่มในเวลาหรือหลังงานเลิก ไม่เป็นที่น่าพิศมัยหรือถือเป็นค่านิยมที่น่ายึดถือเช่นเดิม ส่วนหนึ่งไม่รู้สึกดีหรือสนุกกับการดื่มและเต็มใจจะไม่เข้าร่วม ขณะที่บางส่วนมีปัญหาสุขภาพ รวมถึงข่าวการเสียชีวิตจากการดื่มมากเกินที่พบบ่อย ก็มีส่วนเช่นกัน
"วัฒนธรรมการบังคับดื่มของรุ่นพี่เคยมี ไม่เป็นที่ยอมรับแล้วในปัจจุบัน"
รายละเอียดแคมเปญ Sake Viva!
สำหรับรายละเอียดแคมเปญ
Sake Viva! ระบุวัตถุประสงค์ไว้ชัดเจนว่า "By doing so, we aim to appeal to young people for the development and promotion of Japanese alcoholic beverages, and to revitalize the industry by announcing excellent plans." ตั้งเป้าดึงดูดชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่เพื่อร่วมพัฒนาและโปรโมทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรม ด้วยแผนอันเยี่ยมยอดของคุณ
แนวทางการส่งเข้าประกวด
แคมเปญต้องกระตุ้นและแก้ปัญหาในประเด็นเหล่านี้
- เกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่น ได้แก่ สาเก โชจู อาวาโมริ เบียร์ วิสกี้ ไวน์
ลักษณะของแคมเปญที่ส่งเข้าประกวด
- บริการหรือการส่งเสริมการขายใหม่ๆ ที่มุ่งเป้ากระตุ้นความต้องการในกลุ่มคนรุ่นใหม่
- สินค้าหรือข้อเสนอด้านการออกแบบ ที่แสดงถึงแนวทางการใช้ชีวิตใหม่ๆ หรือรสนิยมที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลจากการระบาดของโควิด
- กลวิธีการขายแบบใหม่ๆ ที่ใช้แนวทาง AI หรือ เมต้าเวิร์ส
- พัฒนาคุณค่าของแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยข้อมูลบ่งชี้อัตลักษณ์ทางภูมิศาสตร์
(geographical indications - GI) เป็นต้น
มีคำถามว่า ชาวต่างชาติสามารถสมัครและส่งผลงานได้หรือไม่?
คำตอบคือ : ไม่มีข้อจำกัดในประเทศหรือภูมิภาคที่ผู้สมัครอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม เอกสารการสมัครและเอกสารอ้างอิงต้องส่งเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น นอกจากนี้ หากคุณเข้าร่วมในรอบสุดท้าย คุณจะต้องนำเสนอและตอบคำถามเป็นภาษาญี่ปุ่น
แคมเปญ Sake Viva! จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่เป็นสิ่งที่ต้องดูผลงานที่ชาวญี่ปุ่นส่งเข้าประกวดกันต่อไป เพราะในแง่ของความคิดสร้างสรรค์แคมเปญต่างๆ แล้ว นักคิดชาวญี่ปุ่นถือว่าไม่น้อยหน้าชาติใดในโลกเช่นกัน และหลายครั้งที่แคมเปญต่างๆ ก็ประสบผลสำเร็จและส่งแรงกระเพื่อมขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ต้องการได้
ไว้เราคอยติดตามความเคลื่อนไหวนี้กันต่อไปเมื่อประกาศผลในเดือนพฤศจิกายนนี้