ต่อมไทรอยด์โต เป็นภาวะที่พบบ่อย พบว่า ประมาณ 4-7% ของประชากร จะมีก้อนที่ต่อมไทรอยด์ (ประมาณ ครึ่งหนึ่ง จะคลำพบเป็นก้อนเดี่ยว ๆ) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ก้อนเดี่ยวของต่อมไทรอยด์ มีโอกาสเป็นมะเร็ง ประมาณ 5-10 %
ส่วนภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ มีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่า คือ ประมาณ 1 % โดยมีโอกาสเป็นมะเร็งในกลุ่มที่
- มีประวัติเคยได้รับการฉายรังสี บริเวณศีรษะและคอ ในวัยเด็ก (ถ้ามีก้อนจะพบมะเร็งประมาณ 30-40%)
- มีประวัติมะเร็งต่อมไทรอยด์ในครอบครัว
- ก้อนของต่อมไทรอยด์ในเพศชายมีโอกาสเป็นมะเร็งบ่อยกว่าเพศหญิง (แต่พบก้อนของต่อมไทรอยด์ในเพศหญิงได้บ่อยกว่า)
- อายุ น้อยกว่า 20 ปี หรือมากกว่า 60 ปี
- ก้อนโตเร็ว หรือมีอาการเสียงแหบ หายใจลำบาก กลืนลำบาก
- ก้อนแข็ง ติดกับอวัยวะข้างเคียง มีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณข้างเคียง
การตรวจเลือดดูระดับไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid function test) ช่วยบอกว่า มีภาวะพิษของต่อมไทรอยด์หรือไม่
การเจาะดูดด้วยเข็ม เพื่อดูลักษณะเซล (Fine needle aspiration biopsy) มีความสำคัญที่สุด ในการวินิจฉัยแยกว่า ก้อนที่ต่อมไทรอยด์นั้น เป็นมะเร็งหรือไม่
การตรวจอุลตร้าซาวน์ (Ultrasound) ช่วยบอกขนาด และขอบเขตของก้อน, แยกถุงน้ำจากก้อนเนื้องอก โดยถ้าเป็นถุงน้ำ จะมีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่า
การตรวจไทรอยด์สแกน (Radioisotope scan) ช่วยบอกว่า ก้อนของต่อมไทรอยด์ ทำงานมากหรือน้อยกว่าปกติ (เรียกว่า hot nodule และ cold nodule ตามลำดับ) โดยที่มะเร็งส่วนใหญ่ จะทำงานน้อยกว่าปกติ
การตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ใช้ในกรณีที่ก้อนใหญ่ หรือมีการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เมื่อไปพบแพทย์แพทย์จะทำอะไรให้
ประวัติ แพทย์จะสอบถาม อายุและเพศ, ระยะเวลาที่เริ่มเป็น, การเปลี่ยนแปลงของก้อน (โตเร็วหรือช้า), อาการเจ็บที่ก้อน, อาการเหนื่อยง่ายใจสั่น, ประวัติที่ชวนให้สงสัยมะเร็งดังกล่าวแล้ว (ประวัติครอบครัว, ประวัติการฉายแสง), อาการเสียงแหบ, หายใจลำบาก, กลืนลำบาก การตรวจร่างกาย นอกจากการตรวจร่างกายทั่ว ๆ ไปแล้ว แพทย์จะให้กลืนน้ำลาย แล้วดูลักษณะของก้อน (เนื่องจากต่อมไทรอยด์จะเคลื่อนขึ้นลงตามการกลืน) แล้วคลำดูขนาด, ขอบเขตของก้อน, ความอ่อนแข็ง, การมีต่อมน้ำเหลืองโต, อาการและอาการแสดงทางตา ของไทรอยด์เป็นพิษ
การตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อแยกว่า มีอาการของไทรอยด์เป็นพิษหรือไม่, เป็นมะเร็งหรือไม่ใช่มะเร็ง
การรักษา เมื่อได้การวินิจฉัยแล้ว แพทย์ก็จะให้การรักษาตามสาเหตุต่อไป
แนวทางการรักษา
ก้อนเดี่ยวของต่อมไทรอยด์
1.การผ่าตัด
ตรวจพบว่า ก้อนนั้นเป็นมะเร็ง หรือสงสัยว่า จะเป็นมะเร็ง ก้อนมีขนาดใหญ่ กดเบียดอวัยวะข้างเคียง, ยื่นลงไปในทรวงอกเพื่อความสวยงาม
2.การสังเกตอาการ
ในกรณี ที่ตรวจยืนยันว่า ไม่ใช่มะเร็ง ก็ไม่ต้องผ่าตัด สังเกตอาการต่อไปได้ หรืออาจให้ฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์กิน เป็นระยะเวลาหนึ่ง
กรณีที่ก้อนโตขึ้น อาจพิจารณาผ่าตัด ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
1.การรักษาด้วยยา ใช้ยาต้านไทรอยด์ เพื่อควบคุมอาการของการเป็นพิษ ระยะเวลาในการให้ยา ประมาณ 1-2 ปี หากไม่หายต้องพิจารณาการรักษาวิธีอื่นต่อไป
2.การรักษาโดยการผ่าตัด ใช้ในรายที่ก้อนโตมาก มีข้อห้ามต่อการให้สารรังสี
3.การให้สารไอโอดีนรังสี สารรังสีจะไปทำลายต่อมไทรอยด์ที่ทำงานมากเกินไป ทำให้หายจากภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
ขอบคุณข้อมูลจาก Thaiclinic.com